แม้ว่าซีรีส์ Hospital Playlist จะออกอากาศตอนสุดท้ายให้ชมกันไปตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคม แต่เชื่อว่ามีหลายคนที่เกิดอาการไถฟีดแอปฯ ดูหนังอยู่นาน แต่ก็ยังปลงใจเลือกดูซีรีส์เรื่องใหม่ไม่ได้สักที ปัญหาเหล่านี้จะหมดไป หลังจากที่ได้ทำความรู้จัก ‘จักรวาลชินวอนโฮ’ ผลงานจากผู้กำกับและทีมเขียนบทซีรีส์คุณหมอที่แฟนคลับซีรีส์เกาหลีทั้งหน้าเก่าและใหม่ให้การยอมรับแล้วว่า ถ้าจะจัด Hall of Fame ของซีรีส์เกาหลีในทศวรรษนี้ ต้องมีชื่อซีรีส์ตระกูล Reply, Prison Playbook หรือ Hospital Playlist ซึ่งทั้งหมดคือผลงานการกำกับของชินวอนโฮและทีมเขียนบทของเขาตลอด 8 ปีที่ผ่านมานี้อยู่แน่ๆ
ชินวอนโฮ (Shin Won-ho) คือผู้กำกับละครโทรทัศน์วัย 45 ปีจากเกาหลีใต้ มีผลงานการกำกับครั้งแรกเมื่อปี 2005 ถ้าว่ากันเรื่องจำนวน ซีรีส์ที่มีชื่อชินวอนโฮอยู่ท้ายเครดิตอาจจะไม่มาก แต่ถ้าให้ไล่เรียงไปทีละเรื่อง ในทุกผลงานของเขาล้วนผ่านจุดที่มีตัวเลขเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลในช่องนั้น หรือเป็นบันไดแจ้งเกิดให้นักแสดงแถวหน้าของเกาหลีใต้ทั้ง ยูยอนซอก (Yoo Yeon-seok) หรือคุณหมออันจองวอนจาก Hospital Playlist พัคโบกอม (Park Bo-Gum) , รยูจุนยอล (Ryu Jun-yol) จาก Reply 1988 และอีกมากมาย

ผลงานการกำกับของชินวอนโฮและทีมดีงามกว่าซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นๆ ยังไง เราเองในฐานะคนที่ศึกษาดูใจและใช้เวลากว่า 128 ชั่วโมง หรือ 7,680 นาที (โดยประมาณ) ไปกับการดูซีรีส์ของผู้กำกับคนนี้ ขออธิบายอย่างง่ายให้ฟังว่า ก่อนการเริ่มต้นดูซีรีส์เกาหลีหรือละครทีวีสักเรื่อง คุณอาจจะเริ่มจากมองหาเรื่องที่เล่าประเด็นอย่างความสัมพันธ์ มิตรภาพ ครอบครัว สะท้อนชีวิต เจาะลึกอาชีพ หรือซีรีส์ที่ตีแผ่อีกด้านของสังคม แต่ทีมผู้สร้างทั่วไปมักเลือกหยิบมาสื่อสารทีละ 1, 2 หรือมากสุดก็ 3 อย่างในเรื่องเดียว และถ้าผลงานนั้นประสบความสำเร็จ แผนการผลิตภาคต่อก็อาจจะเกิดขึ้น
แต่เชื่อหรือไม่ว่า ชินวอนโฮและทีมงานรวบรวมประเด็นสื่อสารมากมายที่จะตอบโจทย์คนดูได้ทั้งหมดเอาไว้ในซีรีส์เรื่องเดียว และยังมีอีกหลายครั้งที่เขาบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้จะมีภาคต่อ ทั้งที่ยังไม่ได้วางตัวนักแสดงหรือยังไม่ได้ออกอากาศด้วยซ้ำ ส่วนวิธีทำซีรีส์ภาคต่อของเขาก็น่าสนใจ ไม่ใช่ว่าการมีภาค 2 จะทำให้เขากั๊กจุดพีกเอาไว้เล่าในคราวต่อไป เพราะชินวอนโฮใส่เรื่องเหล่านั้นแบบไม่ยั้งไว้ตั้งแต่ภาคแรก หรืออาจจะตั้งแต่ EP. แรกๆ เลยก็มี

เท่านั้นยังไม่พอ ผู้ชายคนนี้ยังมีวิธีใส่กิมมิกที่เป็นเหมือนลายเซ็นของตัวเองลงไป ชนิดที่ไม่ต้องดูชื่อในท้ายเครดิตก็ตอบได้ทันทีว่านี่คือผลงานจากการกำกับและทีมเขียนบทของเขา แม้ว่าซีรีส์แต่ละเรื่องจะเล่าภาพเหตุการณ์ต่างยุคสมัย ต่างกลุ่มคน ต่างอาชีพ ต่างสถานะ หรือฉากหลังของเรื่องที่ต่างกันก็ตาม แต่เขาและทีมงานก็มีวิธีถ่ายทอดประเด็นพร้อมด้วยลายเซ็นออกมาสู่สายตาและประทับลงหัวใจของผู้ชม
ด้วยเหตุนี้เอง เราจึงขออาสาพาทุกคนไปย้อนดูว่าชินวอนโฮทำอย่างไรในการกำกับซีรีส์ที่คนดูให้ความสนใจ ติดใจ ปวดใจ ประทับใจ จนถึงเป็นที่หนึ่งในใจ และมาร่วมกันถอดสูตรว่ามีประเด็นอะไรที่เขามักหยิบมาเล่าให้เราฟังอยู่เสมอ สำหรับใครที่เป็นแฟนคลับจักรวาลนี้อยู่แล้ว ก็อยากชวนมาเช็กว่าตรงไหนในจักรวาลนี้ที่ทำให้คุณตกหลุมรัก ส่วนคนที่ไม่เคยรู้จักจักรวาลนี้มาก่อน ลองดูว่ามีข้อไหนที่คุณรู้สึกสปาร์กจอยในใจ แอบบุ๊กมาร์กไว้ แล้วไปทำความรู้จักซีรีส์น้ำดีของผู้กำกับคนนี้ไปด้วยกัน
*บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วนของซีรีส์
01
จักรวาลที่ถนัดเล่าเรื่องรักครั้งแรก พรหมลิขิต และจังหวะ
“พรหมลิขิตไม่ได้เกิดขึ้นตลอดเวลา… พรหมลิขิตมีอีกชื่อว่าจังหวะ ถ้าไม่มัวแต่ติดไฟแดง ถ้าไฟแดงมันช่วยฉันสักครั้ง ฉันคงได้ไปยืนตรงหน้าเธอเหมือนพรหมลิขิต แต่รักแรกของฉันมันไม่เคยถูกเวลา”
คิมจองฮวาน, Reply 1988
โดยมากผลงานของผู้กำกับชินวอนโฮมักมีเส้นเรื่องหลักคือความรักแบบหนุ่มสาวของตัวละคร โดยรูปแบบความสัมพันธ์ที่เขาชอบหยิบมาเล่าอยู่เสมอคือประเด็น ‘รักครั้งแรก’ ทั้งในมุมรักที่สมหวังและผิดหวัง แต่เสน่ห์ของการเล่าประเด็นที่น่าจะเคยมีคนเล่าไปแล้วหลายร้อยรูปแบบให้แปลกใหม่ได้ใจคนดู คือการเล่าเรื่องความสัมพันธ์ที่พร้อมจะพลิกล็อก หักมุม เลี้ยวโค้ง แต่ความรักทุกรูปแบบที่ถูกเล่าผ่านผลงานของเขาล้วนเต็มไปด้วยความอบอุ่นและรายละเอียดเล็กๆ ที่สอดแทรกไว้ เพื่อเป็นคำใบ้ในความสัมพันธ์ของตัวละครนั้นๆ ซึ่งจุดนี้เองที่ทำให้ความรักในซีรีส์ของชินวอนโฮตรึงใจให้คนดูติดตามเรื่องต่อได้เสมอ

อย่างการนำเสนอประเด็นความรักจากซีรีส์ Reply 1988 เล่าเรื่องความสัมพันธ์ความกลุ่มเพื่อนซี้ 5 คนที่ครอบครัวของพวกเขาเป็นคนบ้านใกล้เรือนเคียงในย่านซังมุนดง เปิดเรื่องมาด้วยสามีภรรยาคู่หนึ่งกำลังให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องในอดีต และภาพค่อยๆ Flashback กลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน เรารู้แน่ๆ ว่าผู้หญิงที่อยู่หน้ากล้องคือซองด็อกซอน นางเอกของเรื่อง แต่ผู้ชายที่นั่งเคียงข้างกับเธอคือใคร คำใบ้แรกคือเขาเป็นผู้ชาย 1 ใน 4 คนที่เป็นเพื่อนซี้สมัยเด็กที่ดูไม่มีวี่แววจะพัฒนาความสัมพันธ์กับใครได้ เรื่องราวการตามหาสามีของนางเอกจึงเริ่มต้นขึ้น โดยแต่ละตอนก็จะปรากฏเบาะแสให้คนดูตามสืบ ซึ่งมีทั้งหลักฐานที่ทำให้คนดูสับสน สงสัย และความสนุกอยู่ตรงไม่มีทางเดาได้ว่าใครคือพระเอกของเรื่อง ซึ่งตอนที่ Reply 1988 ออกอากาศ ถึงขนาดมีแฟนๆ ไปตั้งกระทู้ Pantip เพื่อเชียร์และเก็บทุกโมเมนต์ที่เป็นไปได้ของซองด็อกซอนกับว่าที่พระเอกในเรื่องกันแบบเรียลไทม์

02
จักรวาลที่พิสูจน์ว่ามิตรภาพดีๆ มีค่าเท่ากับอนันต์
“สำหรับเธอ ฉันก็คงเหมือนพระอาทิตย์ที่กำลังตกดิน เป็นความทรงจำที่งดงามมาจากอีกฝากหนึ่ง จดจำวันเวลาที่ดีที่เคยมีความหมายกับพวกเราเอาไว้นะ ให้เป็นดังภาพวาดที่หลงเหลือไว้โดยไม่รู้สึกเสียดาย”
Me to You, You to Me (OST. Hospital Playlist)
ถ้าเรื่องราวความรักเป็นเส้นเรื่องหลักที่ผู้กำกับคนนี้มักใช้ในงานของเขา เส้นเรื่องรองที่กลายเป็นของต้องมีคงหนีไม่พ้นเรื่อง ‘มิตรภาพ’ ทั้งจากเพื่อนในวัยเด็กที่อยู่บ้านใกล้เรือนเคียง เพื่อนสมัย ม.ปลาย หรือเพื่อนตอนเรียนมหาวิทยาลัย ซึ่งวิธีการที่เราเห็นอยู่บ่อยๆ ในการเล่าถึงมิตรภาพของคนกลุ่มหนึ่ง มักเล่าว่าทุกคนได้เรียนรู้และก้าวผ่านอุปสรรคไปด้วยกัน วิธีเล่าเรื่องเพื่อนของชินวอนโฮก็ไม่ได้ผิดแปลกแหวกขนบสักเท่าไหร่ แต่ความน่าสนใจอยู่ตรงวิธีสื่อสารให้เห็นว่า คนกลุ่มหนึ่งจะแสดงความรัก ความห่วงใย และเอาใจใส่กัน ในบริบทของความเป็นเพื่อนที่ไม่จำกัดเพศได้อย่างไรบ้าง

ใครที่เคยดูซีรีส์ Hospital Playlist คงจดจำช่วงเวลาหลังเลิกงานที่แก๊งอาจารย์หมอวัยเลข 4 รีบถอดเสื้อกาวน์พักจากการรักษาคนไข้ ก่อนไปจับไมค์ร้องเพลงและเล่นดนตรีกันอย่างจริงจัง พวกเขาให้เหตุผลในการก่อตั้งวงดนตรีว่า ทุกคนทำเพื่อตามความฝันของตัวเอง แต่ว่าฝันนั้นจะเป็นจริงก็ต่อเมื่อได้ทำมันร่วมกับเพืื่อนๆ กลุ่มนี้ ซึ่งตรงนี้เป็นจุดที่แทรก ‘วิธีบอกรักเพื่อน’ ในแบบที่เราว่าน่ารักมาก น่ารักตั้งแต่บอกว่าคนกลุ่มนี้มีความฝันร่วมกันและเลือกที่จะไม่ละทิ้งฝันนั้น แถมยังน่ารักยิ่งขึ้นไปเมื่อรู้ว่าพวกเขาจำเป็นต้องทำวงดนตรี เพราะนี่คือเหตุผลให้ทุกคนในกลุ่มได้มารวมตัวกัน แบบนี้แหละที่เรียกว่ารักโดยไม่ต้องพูดว่ารัก

03
จักรวาลที่บอกว่าครอบครัวคือพลาสเตอร์ปิดแผลแผ่นใหญ่ รักษาได้ทุกอาการ
“แผลเป็นที่เราได้รับจากโลกภายนอกและแผลเป็นที่ได้รับจากประสบการณ์ชีวิต สุดท้ายแล้ว คนที่จะโอบกอดและค่อยๆ รักษาให้แผลนั้นหายไป ก็คือครอบครัวนั่นแหละ”
ซองด็อกซอน, Reply 1988
องค์ประกอบอีกส่วนที่ผู้กำกับชินวอนโฮต้องหยิบมาใส่ลงในผลงานทุกเรื่อง คือประเด็นที่พูดถึง ‘ครอบครัว’ เขาไม่ได้เล่าเพียงเรื่องครอบครัวของตัวละครหลัก แต่ยังกระจายไปยังวิถีชีวิตของครอบครัวอื่นๆ ที่อยู่โดยรอบ เราจึงได้รับชมภาพของครอบครัวในมุมมองที่หลากหลาย ทั้งครอบครัวที่สมบูรณ์พร้อมหน้า ครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว ครอบครัวของผู้มีอันจะกิน หรือครอบครัวที่ต้องหาเช้ากินค่ำ ซึ่งความต่างทั้งหมดก็นำไปสู่ความยากง่ายในการใช้ชีวิตของแต่ละตัวละคร

ภาพ : studentloaninstructor.com
และทุกครั้งที่ตัวละครของชินวอนโฮต้องประสบปัญหา ฮีโร่ของแต่ละเรื่องก็มีหน้าตาต่างกันไป แต่มีอยู่หนึ่งกำลังใจที่คอยส่งให้ตัวละครเหล่านั้นผ่านพ้นช่วงเวลายากลำบากของชีวิตไปได้ นั่นคือฮีโร่ที่มีคำสรรพนามเรียกแทนตัวว่า พ่อ แม่ พี่ น้อง หรือไม่ก็ ลุง ป้า น้า อา เพราะสุดท้าย ชินวอนโฮต้องการเน้นย้ำกับเราว่า ‘บ้าน’ ก็ทำหน้าที่เป็นพลาสเตอร์ปิดแผลแผ่นใหญ่ที่รักษาและชุบชีวิตให้ทุกคนกลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง
ถ้าเป็นประเด็นอื่นๆ ชินวอนโฮอาจจะมีเทคนิคการนำเสนอที่ให้คนดูถอดรหัสกันสักหน่อย แต่ถ้าเรื่องครอบครัว เขาจะบอกให้เรารู้อย่างตรงไปตรงมาแบบไม่ต้องอาศัยการตีความให้ซับซ้อน การที่เขาเลือกประเด็นให้กระทบใจคนดูทุกเพศ ทุกวัย หรือเรียกได้ว่าเป็นประเด็นที่น้อยคนจะไม่อิน ก็เป็นหนึ่งในสูตรสำเร็จที่ทำให้แฟนๆ ซีรีส์เสียทิชชูซับน้ำตามาแล้วหลายห่อ
04
จักรวาลที่บอกว่าไม่ว่าจะมีชีวิตอยู่ตรงไหน ก็มีความสุขได้ในทุกๆ วัน
“อย่าวางมาตรฐานความสุขของตัวเองไว้กับความคิดของคนอื่น แล้วนกสีฟ้าแห่งความสุขอาจมาหาคุณง่ายกว่าที่คิด”
เสียงตามสายในเรือนจำ, Prison Playbook
ถ้าจะให้นิยามแนวทางการทำงานของผู้กำกับชินวอนโฮในคำเดียว เราว่าผลงานของเขาคือนำเสนอภาพของ ‘ชีวิต’ ตัวละครตัวกลมสีเทาๆ ที่มีทั้งด้านร้ายและดี โดยใช้การฉายสปอตไลต์ไปยังกลุ่มคนในบริบททางสังคมและช่วงเวลาที่ต่างกันไป ตั้งแต่ชีวิตวัยรุ่น ม.ปลาย ที่ต้องต่อสู้เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยในซีรีส์ตระกูล Reply แก๊งคุณหมอที่ทำหน้าที่อย่างดีตอนรักษาคนไข้และยังพยายามหาสิ่งชุบชูหัวใจให้ตัวเอง หรือเรื่องราวคนคุกที่ฉายอารมณ์หม่นเศร้า ก่อนจะค่อยๆ ขยับโทนเรื่องให้สดใส เมื่อความหวังใหม่ของชีวิตมาเยือนใน Prison Playbook

บางคนอาจตัดสินไปแล้วว่าเรือนจำเป็นแหล่งรวมคนเลวที่รอวันกลับตัวกลับใจ แต่ Prison Playbook บอกเราให้ลองมองในมุมที่ต่างออกไป ซีรีส์เรื่องนี้เล่าเรื่องของคิมเจฮยอก นักเบสบอลดาวรุ่งที่กลายเป็นดาวร่วงในทันทีที่เขาเห็นคนร้ายพยายามข่มขืนน้องสาว ผู้เล่นตำแหน่งพิตเชอร์อย่างเขาจึงไม่รอช้า คว้าก้อนหินฟาดเข้าที่หัวของคนร้ายอย่างจัง โชคดีที่ช่วยน้องสาวเอาไว้ได้ แต่โชคร้ายที่คิมเจฮยอกกลายเป็นผู้ต้องหาคดีพยายามฆ่า และกระบวนการทางกฎหมายก็ส่งเขาเข้าไปอยู่ในเรือนจำ

เมื่อต้องเปลี่ยนจากการขว้างลูกในสนามมาเป็น (แอบ) ขว้างในลานกีฬาที่ออกไปได้แค่วันละ 2 ครั้ง ไม่เพียงต้องฝึกฝนร่างกายให้ชินกับความเปลี่ยนแปลง คิมเจฮยอกยังต้องเรียนรู้บทใหม่ของชีวิตหลังกำแพงสูง ที่อิสรภาพ ความสะดวกสบาย รวมถึงความสุขทั้งทางกายและใจของเขาอาจค่อยๆ ถูกลดทอนลงไป แต่ซีรีส์เรื่องนี้ก็พยายามสื่อสารให้เราเห็นว่า อย่าวางมาตรฐานความสุขของตัวเองโดยเปรียบเทียบกับใคร หรือแม้แต่อย่าเปรียบเทียบกับความสุขที่เคยได้รับมาก่อนหน้า เพราะไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด ทุกคนมีสิทธิ์เผยรอยยิ้ม ส่งเสียงหัวเราะ หรือบางวันอาจร้องไห้ให้กับชีวิตเฮงซวยของตัวเอง เราทำสิ่งเหล่านั้นได้เสมอ เหมือนที่คิมเจฮยอกค่อยๆ บาลานซ์ทั้งสุขและทุกข์เข้าด้วยกันจนมันลงตัว แม้ว่าเขาจะอยู่ในสถานะ ‘ผู้ต้องขัง’ ก็ตาม
05
จักรวาลชินวอนโฮ จักรวาลที่เชื่อมถึงกัน
นอกจากการหยิบประเด็นรักครั้งแรก มิตรภาพ ครอบครัว และชีวิต มาเล่าซ้ำๆ ในมุมมองที่หลากหลาย จนกลายเป็นลายเซ็นของผู้กำกับชินวอนโฮแล้ว ความเจ๋งอีกอย่างที่เขาทำได้ คือการทำให้ทุกผลงานเชื่อมโยงถึงกัน แม้ว่าแต่ละเรื่องจะเล่าภาพที่ต่างกันในทุกๆ องค์ประกอบก็ตาม

อย่างในซีรีส์ทุกเรื่องจากตระกูล Reply มีวิธีเปิดฉากแรกด้วยปฏิบัติการตามล่าหาสามีของนางเอก แทนอารมณ์ของตัวละครที่พยายามเล่นตลกแต่คนอื่นไม่ตลกด้วยเสียงแพะ และการนำเสนอเสน่ห์ของวิถีชีวิตยุคอะนาล็อกแบบให้ความอบอุ่นหัวใจใกล้เคียงกัน โดยจะเริ่มดูจากเรื่องไหนก่อนก็ได้ ไม่ต้องเรียงลำดับ หรือการใช้นักแสดงรับเชิญจากเรื่องนู้น มาปรากฏในเรื่องนี้ โดยเป็นการแสดงในบทบาทเดิม แต่อยู่ในซีรีส์เรื่องใหม่ อาจจะเพิ่มมาในรูปแบบของคาแรกเตอร์ มุกตลก หรืออาจละเอียดถึงขั้นนำเสียงที่บ่งบอกเอกลักษณ์ของนักแสดงคนนั้นๆ มาปรากฏในผลงานเรื่องใหม่ก็เคยมีมาแล้ว
นี่แหละ ความเจ๋งในแบบผู้กำกับที่ชื่อชินวอนโฮ

เด็ก ม.ปลาย ในยุคที่เกาหลีเริ่มผลิตอุตสาหกรรมบันเทิงเพื่อส่งออกใน Reply 1997
วิธีที่ผู้กำกับชินวอนโฮพยายามเชื่อมโยงทุกสิ่งในจักรวาลผลงานของเขาไม่เพียงทำให้ผู้ชมได้ย้อนความทรงจำว่า ครั้งนี้เคยอินจนหัวเราะ ร้องไห้ ผิดหวัง เสียใจ หรือคลั่งไคล้ผลงานซีรีส์เรื่องนี้มากๆ และยังมีผลต่อการสร้างความจดจำว่า ทุกครั้งที่ชินวอนโฮมีผลงานใหม่ ไม่แน่ว่าบางสิ่งในซีรีส์ที่คุณเคยยกให้เป็นที่หนึ่งในใจ นักแสดงที่เคยชอบมากในวันนั้น มุกตลกที่ทำเราหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง หรือประโยคที่เคยเสียน้ำตาให้ อาจกลับมาปรากฏอยู่บนหน้าจอให้เราได้ย้อนดูอีกครั้ง (หรือหลายๆ ครั้ง) ด้วยเหตุนี้เอง ผลงานของเขาจึงประสบความสำเร็จและกลายเป็นตำนานที่วงการซีรีส์เกาหลีให้การยอมรับ
ป.ล. 1 Hospital Playlist ภาค 2 จะเริ่มถ่ายทำสิ้นปีนี้ และคาดว่าน่าจะได้ชมในปี 2021
ป.ล. 2 ก่อนเริ่มดูซีรีส์ในจักรวาลนี้ อุปกรณ์ที่ต้องมีคือทิชชูไว้ซับน้ำตา ทั้งจากการซาบซึ้งจนร้องไห้ฟูมฟาย และหัวเราะจนน้ำตาร่วง (คำเตือน อาการทั้งสองอาจเกินได้พร้อมกัน)
รับชม Reply 1997, 1994 และ 1988 ได้ที่ Netflix และ VIU Thailand
รับชม Prison Playbook และ Hospital Playlist ได้ที่ Netflix