29 กรกฎาคม 2021
676

จาก Montmartre สู่ Montparnasse

ถ้าพูดถึงย่านศิลปะในเมืองปารีส คนส่วนใหญ่คงจะคุ้นเคยกับมงมาร์ต (Montmartre) สถานที่ที่ ปิกัสโซ่ (Pablo Picasso) พักอาศัยและใช้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ผลงานร่วมกับศิลปิน นักเขียน นักแสดง และอาร์ตดีลเลอร์ในอดีตที่เราคุ้นชื่อกันดีในยุคปัจจุบัน เช่น แวนโก๊ะ (Vincent van Gogh), ดาลี (Salvador Dali), เรอนัวร์ (Pierre Auguste Renoir) ฯลฯ จนทำให้ที่นี่กลายเป็นแหล่งรวมศิลปะตั้งแต่ยุคนั้นเป็นต้นมา 

เยือนสตูดิโอเก่าเกือบ 200 ปีย่านมงต์ปาร์นาสของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินแห่งปารีส

แต่รู้หรือไม่ว่านอกจากมงมาร์ตแล้ว ทางตอนใต้ของกรุงปารีสก็ยังมีย่านศิลปะมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ที่มีความสำคัญต่อวงการศิลปะอย่างมากอีกด้วย เพราะศิลปินที่เคยอยู่มงมาร์ตส่วนใหญ่ย้ายมาพักอยู่มงปาร์นาสในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 เนื่องจากค่าเช่าบ้านที่มีราคาถูกกว่ามงมาร์ต ส่งผลให้ศิลปินจากทั่วโลกโดยเฉพาะจากอเมริกา เริ่มเข้ามาลงหลักปักฐานเพื่อสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ และใช้เป็นสถานที่รวมตัวนั่งพูดคุยกันที่คาเฟ่ จนกลายเป็นย่านศิลปะวัฒนธรรมที่มีทั้งคาเฟ่ (เยอะมาก) พิพิธภัณฑ์ศิลปะ โรงเรียนสอนศิลปะ ร้านขายอุปกรณ์ศิลปะ และแกลเลอรี่ต่างๆ ให้เห็นกันเรื่อยมาจนถึงทุกวันนี้

เยือนสตูดิโอเก่าเกือบ 200 ปีย่านมงต์ปาร์นาสของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินแห่งปารีส

นี่ก็เลยเป็นเหตุผลที่ทำให้เราตื่นเต้นมากตอนจะได้ตามนักเชลโลไปเปลี่ยนหางม้า (ส่วนประกอบหนึ่งของคันชักเชลโล) หรือที่นักดนตรีคลาสสิกเรียกกันติดปากว่า ‘โบว์’ (Bow) ที่แปลว่าคันชักนั่นเอง เพราะเราจะได้ไปสัมผัสห้องทำงานสุดวินเทจที่ซ่อนอยู่ในมงต์ปาร์นาสตั้งแต่ ค.ศ. 1830 และยังคงสภาพมาจนถึงทุกวันนี้ อายุอานามก็ราว 190 ปี

สตูดิโอลับเกือบ 2 ศตวรรษที่ซ่อนอยู่ท่ามกลางความวุ่นวาย

เรามาที่นี่ด้วยการนั่งรถราง (Tram) มาลงที่สถานี Denfert Rochreau แล้วเดินต่ออีก 2 นาที จนมาหยุดหน้าประตูอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งเพื่อรอคนลงมาเปิดประตูให้ ขอออกตัวเล่าก่อนว่า สตูดิโอแห่งนี้เดินเข้าไปเลยไม่ได้ เพราะตั้งอยู่ในพื้นที่ส่วนบุคคล ต้องนัดล่วงหน้าก่อนมาเสมอ หลังจากยืนรอได้ไม่นานก็มีเสียงตอบรับกดเปิดประตู เราเดินเข้าจากประตูอพาร์ตเมนต์ติดถนนใหญ่ ก่อนจะผ่านอีกประตูเพื่อออกไปลานจอดรถ แล้วต้องเดินลัดเลาะไปยังประตูขนาดเล็ก ก่อนจะเปิดเข้าไปยังสวนซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องทำงานแห่งนี้อีกที 

เยือนสตูดิโอเก่าเกือบ 200 ปีย่านมงต์ปาร์นาสของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินแห่งปารีส
เยือนสตูดิโอเก่าเกือบ 200 ปีย่านมงต์ปาร์นาสของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินแห่งปารีส

พอเดินเข้าไปในสวนก็จะเห็นรูปปั้นหน้าตาคล้ายสัตว์ธรรมดาบ้าง สัตว์ประหลาดบ้าง อยู่ทั่วบริเวณ บรรยากาศโดยรอบสวนค่อนข้างสงบ จนไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันตั้งอยู่ในย่านที่คนพลุกพล่าน ไม่ได้ยินแม้กระทั่งเสียงของคนและรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปผ่านมา บริเวณรอบสวนมีบ้านขนาดเล็กที่ดูอบอุ่นอยู่ 2 หลังและบ้านต้นไม้อีก 1 หลัง พอหันไปทางสตูดิโอก็จะพบกับ โดเรียน โบดาร์ (Doriane Bodart) ช่างทำคันชักไวโอลินที่รอทักทายต้อนรับเราอยู่ที่หน้าประตู 

การส่งต่อสตูดิโอเก่าแก่จากรุ่นสู่รุ่น

เยือนสตูดิโอเก่าเกือบ 200 ปีย่านมงต์ปาร์นาสของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินแห่งปารีส

โดเรียน โบดาร์ เป็นช่างทำคันชักไวโอลินที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งในปารีส นอกจากคันชักไวโอลินแล้ว เขายังรับทำคันชักเครื่องดนตรีคลาสสิกอื่นๆ ที่เป็นเครื่องสายอย่างเชลโลด้วย เธอเกิดในครอบครัวศิลปินโดยที่ปู่ของเธอ มาร์เซล โบดาร์ (Marcel Bodart) เป็นนักประติมากรรมชื่อดังของปารีส ส่วนพ่อและแม่ของเธอเป็นช่างทำไวโอลินและเครื่องสายอื่นๆ (Luthiers) 

โดเรียนเล่าว่าคุณปู่ของเธอเป็นจุดเริ่มต้นในการย้ายเข้ามาทำงาน ณ สตูดิโอแห่งนี้ใน ค.ศ.1940 เพื่อใช้เป็นสตูดิโอปั้นประติมากรรม เลยเป็นที่มาของรูปปั้นที่วางอยู่ทั้งในสวนและภายในสตูดิโอ 

เยือนสตูดิโอเก่าเกือบ 200 ปีย่านมงต์ปาร์นาสของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินแห่งปารีส

หลังจากนั้นพ่อและแม่ของโดเรียนก็ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นเวิร์กชอปสำหรับทำไวโอลินและเครื่องสาย ที่ให้เธอได้คลุกคลีและเรียนรู้วิธีการทำไวโอลินจากพวกเขา แต่สุดท้ายเธอค้นพบว่าสนุกกับการทำคันชักไวโอลินมากกว่า เลยตัดสินใจฝึกฝนทำคันชักกับช่างฝีมือที่มีชื่อเสียงหลายคน เพื่อพัฒนาความสามารถ จนได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในช่างทำคันชักฝือมือชั้นครู ที่ประณีตที่สุดคนหนึ่งในปัจจุบัน แล้วเลือกใช้สถานที่แห่งนี้ในการทำคันชักเรื่อยมา

ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส

ความทรงจำที่ยังไม่จาง

ทันทีที่เปิดประตูเข้าไป เราสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ของบรรยากาศภายในที่เกิดจากความดิบ ความเท่ และความเก่า ของโครงสร้างอาคารไม้ ปนความเรียบง่ายและความรู้สึกสงบจากแสงธรรมชาติ ที่ลอดผ่านกระจกใสด้านหน้าสตูดิโอ นอกจากนี้ ยังสัมผัสได้ถึงพลังการสร้างสรรค์งานที่เกิดจากรูปปั้น ภาพวาด ไวโอลิน โบว์ กีตาร์ เครื่องสาย ภาพถ่าย และสัมภาระเครื่องมือเครื่องใช้ในการทำงานอื่นๆ ที่อยู่ในสตูดิโอ จนทำให้สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยเสน่ห์ที่หาชมได้ยาก

ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส

สตูดิโอแห่งนี้เป็นอาคารเพดานสูง มีพื้นที่ทำงานทั้งหมด 2 ชั้น แบ่งเป็นชั้นล่างกับชั้นลอย 

โดยชั้นล่างจะมีโต๊ะทำงานทั้งหมด 3 ตัว มีโต๊ะที่โดเรียนใช้ทำงาน 1 โต๊ะ ส่วนที่เหลือจะเป็นโต๊ะสำหรับทำไวโอลินของพ่อและแม่เธอในสมัยก่อน ปัจจุบันนี้ลูกพี่ลูกน้องของเธอเข้ามาใช้เป็นเวิร์กชอปทำไวโอลินแทน

ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส
ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส

เสร็จจากการสำรวจชั้นล่าง เราก็ขึ้นบันไดไปชั้นลอย ชั้นที่เรายังรู้สึกสนุกและอยากค้นหาเรื่องราวเบื้องหลังผลงานต่างๆ เหมือนกับชั้นล่าง แต่สิ่งที่แตกต่างออกไป คือข้าวของแต่ละชิ้นงานส่วนมากจะไม่เกี่ยวกับดนตรี แต่กลับเป็นภาพวาดที่ติดเต็มผนัง และรูปปั้นที่วางเรียงอยู่บนคานเต็มไปหมด

ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส

ถ้าเงยหน้าขึ้นไปดูบนคาน ก็จะเจอระบบสุริยะจักรวาลจำลองวางอยู่บนคานอีกด้วย ส่วนชั้นลอยมีทางเดินเชื่อมต่อไปยังโต๊ะทำไวโอลิน มีอุปกรณ์และเครื่องไม้เครื่องมือในการทำไวโอลินไม่เยอะเท่ากับชั้นล่าง แล้วก็มีทางเดินเข้าไปยังห้องเล็กๆ อีก 2 ห้อง 

ห้องหนึ่งเป็นห้องทำงานของผู้เช่า และอีกห้องหนึ่งเป็นส่วนพักอาศัยที่มีบันไดเชื่อมต่อไปชั้นล่างได้ (แต่ไม่มีทางเข้าจากฝั่งห้องทำงานโดเรียนชั้นล่าง) ซึ่งส่วนหลังนี้จะเป็นส่วนที่เปิดให้ศิลปินรุ่นใหม่เข้ามาเช่าพักอาศัยและใช้ทำงาน แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปสำรวจ เพราะโดเรียนอยากรักษาความเป็นส่วนตัวให้กับผู้เช่า

ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส

ครั้งแรกและครั้งเดียว

บรรยากาศโดยรอบสตูดิโอเก่าแก่แห่งนี้ ทำให้หัวใจเราเต้นแรงตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้าไป สื่อสารผ่านรายละเอียดของความทรงจำที่แฝงอยู่กับข้าวของต่างๆ ซึ่งไม่ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหนก็ยังคงคุณค่าเสมอ เป็นบรรยากาศที่เราเชื่อว่าเมื่อใครได้เข้าไปแล้ว จะช่วยปลุกไฟในการทำงาน และสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คนที่แวะเวียนเข้าไปแน่นอน 

แต่ทว่าการไปเยือนครั้งนี้กลับกลายเป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้ายของเรา เนื่องจากผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19 ทำให้ครอบครัว Bodart ตัดสินใจขายสถานที่แห่งความทรงจำแห่งนี้ไป สตูดิโอเลยปิดตัวลงเมื่อเดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา ส่วนโดเรียนก็ย้ายที่ทำงานของเธอไปทางใต้ของกรุงปารีสแทน

ห้องทำงานของ Doriane Bodart ช่างทำคันชักไวโอลินชั้นครู ในย่านมงต์ปาร์นาส (Montparnasse) ดินแดนศิลปะแห่งปารีส

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer & Photographer

Avatar

นิรชา กิจรักษา

ชอบชีวิตล้มลุกคลุกคลานและมักจะหาความท้าทายใหม่ให้กับชีวิตเสมอ ปัจจุบันกําลังค้นหาคําตอบว่าความสุขแบบยั่งยืนมีจริงไหมและขีดสุดคืออะไร ผ่านการทดลองสมมติฐานของตัวเอง