‘เทวาศรม เขาหลัก (Devasom Khao Lak)’ เป็นรีสอร์ตริมทะเลแห่งที่ 2 ของ เทวาศรม แบรนด์รีสอร์ตหรูสัญชาติไทยที่มองความหรูหราแตกต่างออกไป

“ความหรูหราที่เรามองและเชื่อว่าเข้ากับโลกยุคใหม่ คือประสบการณ์ที่มีเสน่ห์ น่าประทับใจ ทำให้เรารู้สึกเป็นสุข เก็บสะสมการเดินทางที่มีความหมายไว้ได้ เป็นความทรงจำที่ดีสำหรับการเดินทางในชีวิตต่อไป” อิศร์ อติรักษ์ ผู้ก่อตั้งเทวาศรม อดีตวิศวกรและนักเดินทางเพื่อเก็บประสบการณ์ตัวยง เริ่มเล่าในบ่ายวันที่ฝนแรกเพิ่งมาเยือนเขาหลัก พร้อม ๆ กับการมาเยือนของทีมงานก้อนเมฆ ผู้หวังว่าจะไม่ใช่ตัวการหอบฝนมาจนอดชมพระอาทิตย์ตก ณ ชายหาดที่ใครก็ว่าสวยนักสวยหนา

เทวาศรม เขาหลัก เป็นรีสอร์ตหรูที่ประดับด้วยธรรมชาติและศิลปะที่ออกแบบเพื่อถ่ายทอดอารยธรรม ‘ตามพรลิงค์’ ในพื้นที่ของภาคใต้ที่รุ่งเรืองในยุคก่อนอารยธรรมศรีวิชัย อาจไม่ได้เหมือนกันเป๊ะ ๆ แต่ก็เป็นการเอากลิ่นอายของช่วงเวลานั้นมาให้ผู้มาเยือนได้สัมผัส เพื่อเป็นการพาออกจากวิถีชีวิตประจำวันไปสู่การพักผ่อนอย่างแท้จริง เช่น การมีฆ้องอันใหญ่ตั้งไว้ให้ผู้มาเยือนตี ก่อนเดินผ่านประตูกาลเวลาเพื่อไปยังห้องพัก และการออกแบบให้เล่นแสง-เงา ให้ธรรมชาติช่วยสร้างความประทับใจต่างไปตามแต่ช่วงเวลา

“เราอยากนำเสนอสิ่งที่ถ่ายทอดความงามของสถานที่นั้น ๆ ที่แขกของเราได้เดินทางไปพบ ไม่อยากไปนำความงามของบ้านเมืองอื่น สถานที่อื่น มาลงในเมืองแห่งที่เราอยู่” อิศร์บอก แล้วก็เล่าต่อว่า นี่เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาและครอบครัวย้ายมาปักหลักที่เขาหลักตั้งแต่ก่อนเปิดรีสอร์ต มาศึกษาวิถีของพังงา เพื่อจะได้นำเสนอประสบการณ์อันเป็นเสน่ห์ของเขาหลักได้อย่างลึกซึ้ง 

การนำความเป็นท้องถิ่นมาสร้างประสบการณ์ยังทำผ่านร้านอาหารทั้งสองร้านในรีสอร์ตผ่าน เชฟพลกฤต อินนุรักษ์ Executive Chef ชาวพัทลุงด้วย

เชฟพลกฤตออกแบบเมนูอาหารใต้ใน ‘ห้องอาหารไทยตะโกลา’ ได้จัดจ้านไม่เสียชื่อเชฟชาวใต้ เราประทับใจการใช้วัตถุดิบจากภูมิภาคด้ามขวานทั้งอาหารทะเล เครื่องปรุง ผัก ข้าว รวมไปถึงการจับคู่กับไวน์สัญชาติไทยจากหัวหินได้แบบอร่อย ลงตัว สวยงาม ไม่ฝืน เป็นการใช้รสชาติจากพื้นที่ที่มีเสน่ห์มาก ๆ และมิชลิน ไกด์ ก็เห็นไม่ต่างกัน จึงมอบมิชลิน ไกด์ บิบ กูร์มองด์ กับร้านตะโกลามา 3 ปีติดต่อกันแล้ว

อีกห้องอาหารของที่นี่คือ ‘เทวาศรม บีช กริลล์ แอนด์ บาร์’ ตั้งอยู่บริเวณริมหาด เปิดรับวิวและลมทะเลด้วย 

ร้านนี้ทำอาหารแบบเมดิเตอร์เรเนียน โดยใช้ความสดจากวัตถุดิบในทะเลอันดามันที่รับซื้อจากชาวประมงในพื้นที่ และได้รับเลือกให้อยู่ในมิชลิน ไกด์ มา 3 ปีแล้ว

อิศร์เล่าว่าที่เทวาศรมมีปรัชญาเรียกว่า ‘วงจรแห่งความสุข’ หรือ ‘Circle of Happiness’ 

“ในฐานะผู้บริหาร เราส่งมอบความสุขให้กับพนักงานด้วยการดูแลเอาใจใส่ เพื่อพนักงานจะได้ถ่ายทอดความสุขนั้นไปให้แขกที่มาเยี่ยมเยือน และความสุขเหล่านั้นก็จะหมุนวนกลับมาสู่พนักงานและองค์กรด้วย

“เราเป็นแบรนด์ไทย แล้วเราก็เดินทางมาหลายที่ เราเชื่อในศักยภาพของคนไทยว่า ด้านการต้อนรับขับสู้ เมืองไทยและคนไทยไม่แพ้ใคร” อิศร์ยืนยัน

ที่พักในเครือเทวาศรมเกิดจากแนวคิดว่า อยากทำสถานที่พักผ่อนที่รื่นรมย์เป็น ‘เครื่องอยู่’ ที่จะดูแลทั้งร่างกายและจิตใจของผู้ที่ได้มาเยือน กิจกรรมที่ที่นี่ให้ความสำคัญมาก ๆ คือ Wellness ให้บริการทั้งโยคะยามเช้าที่ชายหาด, สปาที่มีทั้ง Indoor และ Outdoor, Himalayan Singing Bowl Sound Therapy และที่เราชอบที่สุดคือการพายเรือคายัคไปดูธรรมชาติบริเวณใกล้ ๆ ซึ่งยังมีความหลากหลายให้ดูเยอะกว่าที่คิด และพนักงานที่พาไปก็มีความรู้เล่าเรื่องได้สนุกดีเลยทีเดียว

และถ้าวางแผนดี ๆ ก็จะไปเที่ยวเทวาศรมตอนช่วงที่มีกิจกรรมพิเศษเพิ่มได้อีกด้วย เช่น เมื่อเดือนพฤษภาคม ทางรีสอร์ตจัด ‘Devasom Sol Festival’ กิจกรรมพิเศษที่เชิญผู้เชี่ยวชาญจากทั่วประเทศและต่างประเทศมาทำกิจกรรมให้กับแขกที่พัก ความพิเศษคือกิจกรรมที่เลือกมามีความหลากหลาย ไม่ได้ทำงานแค่กับร่างกายหรือจิตใจ แต่หลายกิจกรรมทำงานไปถึงความเข้าใจตัวเอง ซึ่งก็เป็นเรื่องสำคัญในการใช้ชีวิตให้มีความสุขแบบองค์รวม

“Devasom Sol Festival มาจากความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ที่มีความหมาย เป็นของขวัญตอบแทนให้แขกของเรา เราเลยคิดถึง Mindfulness (การเจริญสติ) Wellbeing (ความสุขในการใช้ชีวิต) และ Nature (ธรรมชาติ) และใช้สิ่งเหล่านี้เป็นแกนหลักของ เทวาศรม โซล เฟสติวัล” อิศร์เล่า

การปล่อยใจและร่างกายให้ขยับไปตามเสียงเพลง เหยียบทรายด้วยเท้าเปล่า พร้อมกับมองแสงสีส้มของพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน การทำสมาธิไปกับคลื่นเสียงของ Singing Bowl หรือพับกระดาษให้เป็นรูปพวงมาลัยที่ต้องใช้ทั้งมือ สายตา และสมาธิอย่างสูง เป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากในชีวิตประจำวัน เป็นความหรูหราอันแตกต่างที่จะมอบความสุขในการใช้ชีวิตให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรมอย่างที่เทวาศรมตั้งใจ

โชคดีที่ช่วงเย็นฝนซาแล้ว ท้องฟ้าที่นี่ไม่ใจร้าย แต่อาจแค่เปลี่ยนอารมณ์เร็วไปสักหน่อย เราเลยได้ดูพระอาทิตย์ที่ค่อย ๆ หย่อนตัวลงบนผืนทะเลที่บรรจบกับท้องฟ้า พร้อมกับเมฆที่ยังอยู่กวนเป็นบางส่วน สวยสมกับที่น้องพนักงานขอให้เว้นช่วงเวลาพระอาทิตย์ตกไว้ไม่ให้จองโต๊ะอาหารเย็น 

“แล้วพบกันหลังพระอาทิตย์ตกนะคะ” เป็นการคอนเฟิร์มเวลาโต๊ะอาหารแบบหลวม ๆ เหมาะกับวันพักผ่อนเสียจริง

ภาพ : เทวาศรม เขาหลัก