ติดแหง็กอยู่บ้านเบื๊อเบื่อ ทำอะไรดี

มาส่องขนมกันค่ะ!

ขนมที่ว่านี้ มีที่มาหลากหลาย แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ ทำโดยคนเอเชียที่ย้ายมาอยู่พอร์ตแลนด์ หน้าตาดี (หมายถึงขนม มิใช่คนทำ) มีความแปลกแตกต่าง และที่สำคัญคืออร่อยล้ำ!

เริ่มกันที่ร้านแรก ร้านที่วาตาชิรักมาก คิเระมาก คิวยาวมาก เป็นร้านของคนญี่ปุ่นที่ทำขนมญี่ปุ่นสไตล์ฝรั่งเศสเจ้าเดียวในพอร์ตแลนด์ค่ะ ชื่อว่า Mio Delectables 

5 ร้านขนมหวานของชาวเอเชียที่ย้ายมาอยู่พอร์ตแลนด์ อร่อยสากล อเมริกาชนชื่นชอบ

ดูหน้าตาขนมโอเน่ซังเขาสิคะ คือเห็นครั้งแรกนี่ถึงกับเข่าอ่อน นึกว่าไปร้าน Sadaharu Aoki ที่โตเกียวมิดทาวน์ แล้วที่เก๋สุดคือนางขายเฉพาะที่ Farmer’s Market วันเสาร์วันเดียวเท่านั้น ไม่มีหน้าร้าน อยากกินก็ต้องรอต่อคิว คือไปตลาดนัดวันเสาร์นี่เห็นแถวยาวๆ ก็รู้เลยว่าเป็นแผงของร้านมิโอะ แล้วราคานี่ไม่ตลาดนัดเลยนะคะ คือด้วยความรอนาน พอถึงคิวเราเข้าไปสั่ง ก็จะเกิดอาการอุ๊ยอันโน้นอันนี้ก็เอาค่ะ ถึงคราวจ่ายเงิน สามีบอกยูไปร้านลาดูเร่ที่ปารีสมาเหรอ ฮ่าๆๆ สรุปว่าโมเดลนี้เวิร์ก ใครจะคิดเนอะว่าขายขนมหรูๆ ที่ตลาดนัดก็ได้ด้วย

5 ร้านขนมหวานของชาวเอเชียที่ย้ายมาอยู่พอร์ตแลนด์ อร่อยสากล อเมริกาชนชื่นชอบ
5 ร้านขนมหวานของชาวเอเชียที่ย้ายมาอยู่พอร์ตแลนด์ อร่อยสากล อเมริกาชนชื่นชอบ
ภาพ : www.instagram.com/miosdelectables

ร้านที่ 2 จะเรียกว่าร้านก็ไม่ถูกนัก เพราะเหมือนเป็นงานช่างฝีมือเสียมากกว่า นี่คือขนมญี่ปุ่นกินคู่กับชาเขียว ที่เรียกว่า วากาชิ แบบแท้และดั้งเดิมแค่ไม่กี่เจ้าในอเมริกา Lovingly และ Painstakingly made โดย จีน่า เรโนด (Gena Renaud) อดีตกราฟิกดีไซเนอร์สาวใหญ่ชาวญี่ปุ่น ที่อยู่ดีๆ ก็ตกหลุมรักศาสตร์แห่งขนมน้ำชานี้ แล้วก็ศึกษาค้นคว้าด้วยตัวเอง จนสามารถเนรมิตให้ส่วนผสมต่างๆ ออกมาหน้าตาเหมือนกับงานศิลปะมากกว่าอาหารได้เยี่ยงนี้ (เราว่านะ ชาติที่แล้วน้าแกต้องเคยทำขนมอยู่เกียวโต) 

5 ร้านขนมหวานของชาวเอเชียที่ย้ายมาอยู่พอร์ตแลนด์ อร่อยสากล อเมริกาชนชื่นชอบ

อุ้มเคยสั่งขนมมันจูกับบัวหิมะมาเลี้ยงน้ำชาเพื่อน น้าจีน่าบอกว่าต้องสั่งล่วงหน้าอาทิตย์หนึ่ง เพราะแค่ไส้ถั่วขาวนี่ต้องใช้เวลาทำตั้ง 13 ชั่วโมง! คือก่อนกินคิดว่าควรจุดธูปแล้วลงไปกราบ ไม่กล้าโยนเข้าปาก กลัวจะบาป แต่น้าบอกว่านั่นละคือความตั้งใจ อยากให้คนค่อยๆ ละเลียดดื่มด่ำกับความงาม ยิ่งขนมวุ้นกรอบที่เรียกว่า Sea Glass นี่นะคะ วู้ยยยยยย มันสวยมีสกุลจริงๆ 

ส่อง 5 ร้านขนมหวานในพอร์ตแลนด์ ฝีมือเชฟเชื้อสายญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลี ที่บรรเจิดจนคนพอร์ตแลนด์เข้าคิวล้นหลาม
ภาพ : www.instagram.com/yumeconfectionspdx

ตอนนี้ขอจงดูด้วยตากันไปก่อนนะคะ ใครบอกว่าขนมญี่ปุ่นดีแต่สวย รสชาติก็งั้นๆ จะเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ถ้าได้ลองขนมน้าจีน่า นั่งพิจารณาอาหารจนหมดชิ้นนี่ก็เกือบจะบรรลุโสดาบันกันเลยทีเดียว

อ้อ ร้านน้าเค้าชื่อ Yume Confections ยูเมะ แปลว่า ความฝัน ชื่อมันใช่จริงๆ เลย

ร้านที่ 3 กุ๊กกิ๊กมากกกกกกก กระชากอารมณ์จากขนมโบราณแบบตั้งตัวไม่ติดเลยสินะ ร้านนี้เป็นของสองสามีภรรยาชาวเกาหลี ที่อยู่ดีๆ ก็เปิดใส่หน้าชาวพอร์ตแลนด์ซะงั้น แล้วแป๊บเดียวก็ลูกค้าล้นหลาม ก็ใครจะไปอดใจไหวเนอะ ชีสเค้กช็อกโกแลตหน้าหมี ถ้าชีสเค้กธรรมดาหน้าหมา (ทำไมฟังดูล่อแหลม) ยังมีชีสเค้กเอิร์ลเกรย์หน้าอะไรไม่รู้ แต่อร่อยลืมลูกลืมสามี 

คือขนมร้านนี้ปล่อยหน้าโล่งๆ ไม่ได้ ต้องมีดีเทลจุ๊กจิ๊กๆ มาให้ใจสั่นๆ ที่สำคัญคืออร่อยเข้มข้นถึงใจ เหมือนได้รู้จักเด็กหน้าตาน่ารักแถวสยาม แล้วมารู้ว่าเป็นแฟนหนังสืออุทิศ เหมะมูลไรงี้ อ้อ ร้านนี้ชื่อ Soro Soro Cafe ค่ะ

ภาพ : www.instagram.com/sorosoro_cafe

ร้านที่ 4 แวะมาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใกล้ๆ บ้านเรากันมั่ง ชื่อร้าน Berlu (อ่านว่าแบร์ลู) ของ เชฟวินซ์ หวิน (Vince Nguyen) ลูกหลานเวียดนามที่เกิดและโตในอเมริกา เรียนหมออยู่ดีๆ ก็เปลี่ยนใจทิ้งปริญญามาเป็นเชฟซะงั้น (เดี๋ยวตอนหน้าจะมาเล่าเรื่องเชฟวินซ์ให้ฟังนะคะ ฮีแนวมาก) แล้วพอช่วง COVID-19 ร้านที่เป็นไฟน์ไดนิ่งต้องปิดชั่วคราว เชฟเขาก็เลยเกิดความคิดอยากจะทำขนมขึ้นมา 

ส่อง 5 ร้านขนมหวานในพอร์ตแลนด์ ฝีมือเชฟเชื้อสายญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลี ที่บรรเจิดจนคนพอร์ตแลนด์เข้าคิวล้นหลาม

แต่ว่ามันสนุกตรงที่หน้าตาเหมือนขนมฝรั่ง แต่จริงๆ แล้วสอดไส้เวียดนาม ปลอดกลูเตน ปลอดนม ไข่ ใช้รสชาติสนุกๆ อย่างใบเตย มะขามเปียก เผือก รูบาป (คือรู้ว่าเขียนเป็นไทยแล้วอุจาดมาก แต่ทะลึ่งอยากจะเขียน ฮ่าๆๆ มันคือ Rhubarb ไงคะ) ทำเป็นเครปเค้กมั่ง โรลเค้กมั่ง 

แต่อันที่อุ้มชอบมาก เป็นเค้กใบเตยหนึบๆ ชื่อว่า บั๋นบ่อเนื้อง (Bánh Bò Nướng) หรือ Vietnamese Honeycomb Cake กินแล้วแอบคิดถึงขนมครกใบเตยแถวสยาม เพียงแต่มันมีความเบาฟูมากกว่า ใครอยากลองทำในยูทูบมีวิดีโอเต็มเลยค่ะ 

ส่อง 5 ร้านขนมหวานในพอร์ตแลนด์ ฝีมือเชฟเชื้อสายญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลี ที่บรรเจิดจนคนพอร์ตแลนด์เข้าคิวล้นหลาม
ส่อง 5 ร้านขนมหวานในพอร์ตแลนด์ ฝีมือเชฟเชื้อสายญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลี ที่บรรเจิดจนคนพอร์ตแลนด์เข้าคิวล้นหลาม
ภาพ : www.instagram.com/berlupdx

เอกลักษณ์ของขนมร้านแบร์ลูคือหวานน้อยมาก (อีกนิดจะเป็นของคาวอยู่ละ) แต่พอเราปรับลิ้นใหม่ ก็พบว่าจริงๆ แล้วรสชาติละมุนๆ แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ

ร้านสุดท้าย ร้านที่ 5 เอามาไว้ตรงนี้เพราะว่าขนมเขาสวยหรูอลังการจริงๆ ชื่อร้านว่า Jinju Patisserie ดูประวัติเจ้าของร้านสองคนแล้วก็เลยหายสงสัย เพราะ จิน คอลด์เวลล์ (Jin Caldwell) กับ คยูริม ลี (Kyurim Lee) เชฟเกาหลีประสบการณ์โชกโชนสองคนนี้เขาทำงานร้านมิชลิน 3 ดาว และอยู่ในแวดวงช็อกโกแลตและขนมหวานมานานโข 

ส่อง 5 ร้านขนมหวานในพอร์ตแลนด์ ฝีมือเชฟเชื้อสายญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลี ที่บรรเจิดจนคนพอร์ตแลนด์เข้าคิวล้นหลาม
ส่อง 5 ร้านขนมหวานในพอร์ตแลนด์ ฝีมือเชฟเชื้อสายญี่ปุ่น เวียดนาม และเกาหลี ที่บรรเจิดจนคนพอร์ตแลนด์เข้าคิวล้นหลาม

ล่าสุดคือเจอกันที่ลาสเวกัสเมื่อสิบปีก่อน แล้วก็ตัดสินใจย้ายมาเปิดร้านที่พอร์ตแลนด์ เพราะเป็นเมืองที่ใส่ชุดนอนเดินไปซื้อครัวซองต์ที่ร้านฝรั่งเศสแถวบ้านได้ (เขาเป็นคนพูดเองนะ นานึน (ฉัน) ไม่ได้มั่วนะ) 

ร้านนี้คือสวรรค์บันดาลบุญหล่นทับใส่พอร์ตแลนด์มาก เป็นร้านที่นานึนขอสามีไปเอาขนมมาฉลองวันเกิดตัวเอง เค้กมะพร้าวเสาวรสงี้ ชาเขียวกับส้มยูสุงี้ แล้วยังเอิร์ลเกรย์ราสป์เบอร์รี่อีกล่ะ คือหลับตาจิ้มได้เลย เพราะยังไงก็อร่อยทุกอย่าง 

ภาพ : www.instagram.com/jinjupatisserie

อ้อ… ไปเจอสูตรสโคนของสองคนนี้มาด้วยค่ะ อาจจะไม่ได้หรูเหมือนขนมที่ร้านเขา แต่ว่าทำง่ายและอร่อยดี ว่างๆ อย่างนี้ทำสโคนกินกับกาแฟดริปกับน้ำชาใครจะว่าไรเนอะ 

สโคนเชอร์รี่แครนเบอร์รี่ส้ม สูตรของ คยูริม ลี และ จิน คอลด์เวลล์

ส่วนผสม

  1. แป้งสาลีอเนกประสงค์ 180 กรัม
  2. แป้งเค้ก 360 กรัม
  3. เนยเค็ม แช่เย็นจัด หั่นเป็นลูกเต๋าเล็กๆ 220 กรัม
  4. ผงฟู 15 กรัม
  5. เบกกิ้งโซดา 3 กรัม
  6. บัตเตอร์มิลค์ 120 กรัม
  7. ซาวครีม 130 กรัม
  8. เชอร์รี่อบแห้ง 70 กรัม
  9. แครนเบอร์รี่อบแห้ง 60 กรัม
  10. ผิวมะนาวขูด 1 ลูก
  11. ผิวส้มขูด 1 ลูก

(แช่เชอร์รี่และแครนเบอร์รี่ในน้ำอุ่น 30 นาที แล้วสะเด็ดน้ำให้แห้งเตรียมไว้ก่อน)

วิธีทำ

  1. ร่อนส่วนผสมแห้งเข้าด้วยกัน
  2. ใส่เนยลงไป แล้วใช้ส้อมกด คลุกเคล้าให้พอเข้ากัน เอามือสองข้างโกยขึ้นมาแล้วถูๆ เข้าด้วยกันให้ร่วนเป็นเมล็ดถั่วลันเตา
  3. ใช้ตะกร้อมือผสมบัตเตอร์มิลค์ ซาวครีม ผิวมะนาว และผิวส้มขูดเข้าด้วยกันจนเนียน
  4. เทลงในส่วนผสมแป้ง ผสมอย่างเบามือจนพอเข้ากัน
  5. ใส่แครนเบอร์รี่และเชอร์รี่ ผสมอีกนิดหน่อย อาจจะยังเห็นแป้งแห้งๆ อยู่บ้าง อย่านวดนานเกินไปจนแป้งเหนียว
  6. เทส่วนผสมลงบนถาดอบ ใช้มือกดเบาๆ ให้รวมตัวเป็นก้อน แล้วใช้ไม้คลึงให้หนาประมาณ 1 – 1.25 นิ้ว
  7. นำไปแช่เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง จากนั้นนำออกมาตัดเป็นชิ้นๆ แล้ววางเรียงในถาดอบที่รองด้วย Parchment Paper หรือซิลิโคน
  8. ทาหน้าด้วย Heavy Cream แล้วนำไปอบ ไฟ 350 องศาฟาเรนไฮต์ ประมาณ 20 – 25 นาที หรือจนกระทั่งเกรียมสวย เวลาในการอบอาจจะแตกต่างกันบ้าง แล้วแต่ขนาดขนมที่เราตัด
  9. นำออกจากเตา รอให้อุ่น แล้วเสิร์ฟกับเนย แยม กินคู่กับกาแฟหรือชาร้อนๆ อร่อย!

Writer

สิริยากร พุกกะเวส มาร์ควอร์ท

สิริยากร พุกกะเวส มาร์ควอร์ท

อดีตนักแสดงและพิธีกร จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย้ายมาเป็นพลเมืองพอร์ตแลนด์ ออริกอน ตั้งแต่ปี 2012 ปัจจุบันเป็นคุณแม่ลูกสองของน้องเมตตาและน้องอนีคา เธอยังสนุกกับงานเขียนและแปลหนังสือ รวมทั้งเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในเมืองนอกกระแสที่ชื่อพอร์ตแลนด์