ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาในบ้านเราเร่ิมสนับสนุนการปั่นจักรยานอย่างจริงจัง โดยมีท่านนายกฯ และผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้ออกมาสนับสนุนงานแข่งจักรยานทั่วประเทศ เราสมัครร่วมงานแข่งจักรยานได้ทุกสัปดาห์แทบจะตลอดทั้งปี ตั้งแต่งานปั่นใจเกินร้อยกิโลเมตรทั้งหลาย ไปจนกระทั่งงานปั่นยาวหลายวันเป็นทัวร์นาเมนต์ เหล่านักปั่นจักรยานสมัครเล่นหลายคนเรียกขานงานกลุ่มนี้ว่าเป็นงานแข่ง อบต. และเป็นเรื่องน่าสนใจที่นักปั่นหลายต่อหลายคนซื้อจักรยานรวมชุดแต่งมาเป็นแสนเพื่อมาแข่งขัน ซึ่งผู้ชนะจะได้เงินรางวัลที่หนึ่ง 500 บาท (และที่สามได้เงินรางวัล 200 บาท-ฮา)

แต่สำหรับคนที่ไม่ได้สนใจงานแข่งหรือสายขาอ่อนอย่างเราก็สามารถสนุกไปกับสถานการณ์แบบนี้ได้ เพราะการจัดการแข่งขันจักรยานต้องมีเส้นทาง แล้วเส้นทางที่ทุกจังหวัดเลือกมาใช้มักเป็นทางที่สวยที่สุด เป็นหน้าเป็นตาของจังหวัด ส่วนหนึ่งคือ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว (แม้แต่การแข่งขันอย่าง Tour de France ก็เลือกเส้นทางด้วยวิธีคิดแบบนี้เหมือนกัน) นอกจากถนนที่ถูกทาสีฟ้าไว้เพื่อบอกว่าเป็นทางจักรยานแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ผู้คนในท้องถิ่นรวมถึงน้องหมาริมถนนที่คุ้นกับการเห็นคนขี่จักรยานผ่านไปมา

ผมมีธุระที่แถบสุพรรณบุรีในช่วง 2 สัปดาห์ที่แล้ว ด้วยเป็นธุระที่ทำไม่นานก็เสร็จ เลยถือโอกาสเอาจักรยานพับคันเล็กใส่รถไปด้วย กะว่าถ้าทำธุระเสร็จจะถือโอกาสปั่นจักรยานแถวสุพรรณฯ สักหน่อย หลังจากหาข้อมูลเส้นทางปั่นในสุพรรณบุรีก็ไปเจอเขื่อนแห่งหนึ่งซึ่งเป็นเส้นทางการแข่งจักรยานหลายรายการของสุพรรณบุรี แล้วก็มีทั้งที่พักและลานกางเต็นท์เปิดให้บริการอีกด้วย เขื่อนที่ว่าก็คือเขื่อนกระเสียว

ก่อนหน้านี้ผมคิด (โง่ๆ) เองมาตลอดว่า สุพรรณบุรีเป็นที่ราบลุ่ม ไม่น่าจะมีเขื่อนหรืออ่างเก็บน้ำหรอก พอได้ยินว่ามีเขื่อนแบบนี้อยู่ก็เลยสนใจขึ้นมา หลังจากเสร็จธุระแล้วเลยขับรถต่อขึ้นไปจนถึงตัวเขื่อน เขื่อนกระเสียวตั้งอยู่ในอำเภอด่านช้างซึ่งเป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดสุพรรณบุรีและกาญจนบุรี นอกจากจะมีวิวสวยงามเห็นภูเขาเรียงรายแล้ว อ่างเก็บน้ำกระเสียวยังมีดีกรีเป็นเขื่อนดินที่ยาวที่สุดในประเทศไทยอีกด้วย ถนนหนทางบนสันเขื่อนและรอบๆ ตัวเขื่อนเรียกได้ว่าเรียบมากๆ ขี่จักรยานได้อย่างสบายใจ

เขื่อน

ทางจักรยาน

จักรยาน

อ่างเก็บน้ำ

สำหรับผู้ที่มากับเด็กเล็กหรือแค่อยากขี่จักรยานพักผ่อนเก็บบรรยากาศ ความยาวของสันเขื่อนที่ยาวกว่า 4 กิโลเมตรน่าจะเพียงพอให้ขี่รถเล่นหรือวิ่งได้แล้ว แถมยังไม่เปิดให้รถยนต์เข้ามาวิ่งบนสันเขื่อนอีกด้วย เรียกว่าปลอดภัยมากๆ สำหรับผู้ที่อยากขี่ในระยะที่ไกลมากขึ้นหน่อยก็ขี่วนรอบเขื่อนได้เลย แม้จะมีช่วงที่ต้องใช้ถนนร่วมกับรถยนต์อยู่บ้างแต่รถก็น้อยมากๆ และขับขี่กันแบบระมัดระวังจึงไม่น่ากลัวนัก ส่วนน้องหมาข้างทางก็แสนจะคุ้นกับเหล่านักปั่น เลยนอนไม่สนใจจักรยานอะไรทั้งนั้น

เส้นทางที่ผมอยากจะแนะนำคือ เส้นทางจากสันเขื่อนไปยังหาดทรายท้ายเขื่อนกระเสียว ด้วยระยะทางที่กำลังพอดีคือประมาณ 14 กิโลเมตรไปกลับก็ประมาณ 30 กิโลเมตร ถนนที่เรียบไร้หลุมไร้บ่อ มีเนินน้อยๆ ที่ไม่ได้ชันถึงขนาดขี่ขึ้นไม่ได้มาเป็นระยะพอเรียกเหงื่อบ้าง วิวข้างทางก็มีหลากหลายสลับกันไป ทั้งไร่อ้อย บึงน้ำ ไร่มันสำปะหลังที่เพิ่งขุดไป ทุ่งดอกหญ้า ไปจนถึงปลายทางคือหาดทรายขาว ซึ่งมีแพกลางน้ำเป็นจุดพักรับประทานอาหารที่รื่นรมย์ดี ปั่นมาเหนื่อยๆ ก็พักริมน้ำ กินข้าวกินน้ำให้หายเหนื่อยแล้วค่อยปั่นกลับไปยังเขื่อน

ทางจักรยาน

แพกลางน้ำ

ไร่มันสำปะหลัง

ถ้ายังไม่รีบกลับก็ขอเชิญให้อยู่ถึงตอนเย็นรอดูพระอาทิตย์ตกบนสันเขื่อน แกล้มลมเย็นๆ ที่โชยมา (ที่ยังพอมีอยู่บ้างในช่วงนี้) โอเค แค่นี้ก็น่าจะนับว่าเป็นความสุขราคาประหยัดอย่างหนึ่งได้เลยล่ะคุณ

ดอกหญ้า

แปลกดีที่แม้จะเหนื่อยจากการปั่นจักรยานมา แต่พอมายืนรับลมอยู่ริมน้ำแบบนี้ก็กลับทำให้รู้สึกสดชื่นขึ้นมาแทบจะในทันที สดชื่นจนอยากจะตื่นไปทำงานแต่เช้าตรู่เลยทีเดียว (อันนี้โม้) ถ้าติดใจอยากพักค้างคืนก็มีลานกางเต็นท์ให้บริการด้วยนะ หรือถ้าไม่สะดวกกางเต็นท์ก็มีโรงแรมและรีสอร์ตมากมายให้บริการอยู่รอบเขื่อน สามารถเลือกพักได้ตามที่ชอบ

ขอให้มีความสุขกับการปั่นจักรยานครับ 🙂

อ่างเก็บน้ำ

ถ้าใครมีเส้นทางที่ไปปั่นจักรยานเป็นประจำไม่ว่าจะเป็นระยะทางใกล้หรือไกลที่อยากแบ่งปันให้คนอื่นๆได้มาใช้ขี่บ้างก็ขอเชิญส่งอีเมล เส้นทาง รูปถ่าย มาแนะนำกันได้ที่ [email protected]

Writer & Photographer

Avatar

ธีรพันธ์ ลีลาวรรณสุข

ช่างภาพ นักออกแบบกราฟิก นัก(หัด)เขียน โปรดิวเซอร์และผู้ดำเนินรายการพอดแคสต์ และอื่นๆอีกมากมายแล้วแต่ว่าไปเจออะไรน่าทำ IG : cteerapan