ทันทีที่มือเราจับแผ่นหินทรงแปลกตาเพื่อเลื่อนประตูกระจกใสของร้านสีดำด้าน กลิ่นควันไม้ผสมกับกลิ่นอะไรบางอย่างก็ลอยเข้าเตะจมูกทันที เดาไม่ออกว่าคือกลิ่นอะไร แต่ประสาทสัมผัสของเราบอกว่า… ช่างแปลกดีแฮะ

“กลิ่น Burning Cabinet ครับ” ชายเพียงคนเดียวในร้าน ตอบคำถามที่เราคิดในหัว

‘Copenn.’ เป็น Design Concept Store เล็กๆ บริเวณปากซอยเจริญกรุง 82 เกิดขึ้นจากกลุ่มเพื่อน 4 คน 4 แขนงจากสายงานดีไซน์ที่ใช้ชีวิตด้วยกันบ่อยๆ พบปะกันบ่อยๆ มีตั้งแต่ Graphic  Designer, Fashion Designer, Product Designer และ Interior มารวมตัวกัน และเห็นพ้องกันว่าอยากทำอะไรก็ได้ที่เกี่ยวกับงานดีไซน์ด้วยกัน 

“หลังจากมีโควิด-19 ย่านนี้ก็ซบเซา ไม่มีนักท่องเที่ยว ตึกก็เริ่มให้เช่า พื้นที่ต่างๆ เริ่มว่าง ประกอบกับเจริญกรุงเป็นย่านดีไซน์อยู่แล้ว เลยจุดประกายพวกเราว่า ทำไมไม่ทำให้มันน่าสนใจขึ้นหรือดูใหม่ขึ้นในช่วงวิกฤตนี้ 

“ตอนแรกเราดูทำเลก่อนว่าย่านนี้ขาดอะไรอีกบ้าง ร้านขายของ ร้านค้า หรือประสบการณ์อะไรที่มันเกี่ยวข้องกัน พวกเราก็ตกลงกันว่าจะทำเป็น Design Concept Store แล้วกัน เพราะอยากให้ Design กระจายไปมากกว่าสินค้าหรืออินทีเรีย ซึ่งที่นี่เราทำให้ Design มันกลายเป็นประสบการณ์ที่แต่ละร้านสร้างขึ้นมา มากกว่าแค่ซื้อของแล้วกลับไป”

Design Concept Store คือคอนเซ็ปต์ของร้านและสิ่งที่ Copenn. ต้องการจะสื่อสารกับลูกค้าก็คือ พวกเขาต้องการนำเสนองานดีไซน์ที่ไม่ยึดติดรูปลักษณ์ และไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ที่ขายเครื่องหอมหรือขายของเพียงอย่างเดียว แต่อยากให้กลายเป็นสิ่งที่สร้างประสบการณ์ให้กับผู้คนที่เข้ามาเยือน เพราะคนหนุ่มสาวทั้ง 4 ตั้งใจนำเสนอมุมมองใหม่ๆ ของงานออกแบบ ไม่ว่าจะเกิดจากการหยิบจับหรือร่วมโปรเจกต์ใดก็ตามที่ก่อเกิดสิ่งใหม่ขึ้นมา

Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'

บทที่ 1

แต่ ณ ขณะนี้ ร้านสีดำขลับกำลังถูกพูดถึงคล้ายประทับตาในสังคมออนไลน์ ว่าเป็นแบรนด์เครื่องหอมน้องใหม่จากฝีมือคนไทยไปแล้ว แต่ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว เพราะแท้จริงแล้วเครื่องหอมเป็นเพียง Chapter แรกเท่านั้นที่กลุ่มเพื่อนวางไว้ว่าอยากนำเสนอเรื่องกลิ่นเป็นเรื่องแรก ด้วยความชอบส่วนตัวและคลั่งรักเทียนหอมเป็นทุนเดิมตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย ทำให้มีความรู้จากการค้นคว้านั่น อ่านนี่ ทดลองผสมกลิ่นนั้นกับกลิ่นนี้เองอยู่บ่อยครั้งอยู่แล้ว 

บทแรกของ Copenn. มีผลิตภัณฑ์เครื่องหอมทั้งหมด 10 ประเภท ได้แก่ Room Perfume Spray, Diffuser, Hand Cream, Hand Wash and Body Wash, Alcohol Spray, Burner (เป็นงานแฮนด์คราฟต์จากสเตนเลสที่โชว์รอยเชื่อมทั้งหมด ทำความสะอาดเช็ดล้างได้นะ), Essential Oil โดยมีให้เลือกทั้งหมด 7 กลิ่น ได้แก่ Burning Cabinet, Hibernate Place, Last Volcano, The Fog House, False Awakenings, Gastric Acid และ The Ripening Time ซึ่งน้ำมันหอมระเหยแต่ละกลิ่นล้วนผ่านการผสม ปรับปรุง เพิ่มลด ทดสอบ และคัดเลือกมาอย่างดีให้มีกลิ่นเฉพาะตัว และสร้างประสบการณ์การดมที่ชวนให้นึกย้อนถึงเรื่องราวในความทรงจำของแต่ละคนได้เป็นอย่างดี

ผลิตภัณฑ์สุดท้ายคือกำยาน มีกลิ่น Pollen Cloud, After Burnt และ Sphagnum มีแบบเซ็ต Incense Cones ประกอบด้วยกำยานและฐานวางกำยาน ส่วน Direct Incense หรือ Discovery Set เป็นเซ็ตจุดเฉพาะจุด เช่น อยากได้กลิ่น Sandalwood ก็จุด Sandalwood เพียงอันเดียวเดี่ยวๆ ซึ่งในกล่องประกอบด้วยกลิ่น Sandalwood, Palo Santo, Matchstick, White Sage, Lavender และ Rosemary แอบกระซิบว่าเร็วๆ นี้ จะขายเทียนหอมด้วยนะ 

Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'
Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'

Copenn. เป็นประสบการณ์

“เคยมีลูกค้าคนหนึ่งบอกว่าได้กลิ่น Gastric Acid แล้วเหมือนได้กลิ่นดอกไม้อะไรสักอย่างที่นิวซีแลนด์ เราก็เลยถามว่าต้นสนหรือเปล่า เพราะเราใส่กลิ่นสนเข้าไปด้วย เขาก็บอกว่าใช่ มันทำให้เขานึกถึงความทรงจำตอนเดินเล่นที่สวน แล้วมีความหวานของดอกไม้ผสมอยู่ อย่างลูกค้าบางคนดมกลิ่น The Ripening Time ที่เป็นกลิ่นวนิลา แล้วบอกว่านึกถึงบ๊วยแผ่นสีแดงที่เคยกินตอนเด็ก เราก็จำไม่ได้แล้วเหมือนกัน แต่พอมาดมก็คล้ายเหมือนกันนะ  

“พอลูกค้าฟีดแบ็กกลับมา มันก็ทำให้เห็นว่า จริงๆ แล้วกลิ่นก็ทำให้คนกลับไปนึกถึงพื้นที่บางพื้นที่หรือเวลาบางช่วงที่เขาเคยผ่านมาได้จริงๆ เพราะบางคนก็ซื้อด้วยความชอบ บางคนซื้อเพราะว่าคิดถึงกลิ่นเหล่านั้นเฉยๆ” หนุ่มอินทีเรียเล่าถึงลูกค้าที่เข้ามาแบ่งปันประสบการณ์ของพวกเขา หลังจากได้ดมสารพัดกลิ่นที่ Copenn. ปรุงขึ้นมา

เราถามคู่สนทนาตรงหน้ากลับว่า มีกลิ่นไหนบ้างที่เขาดมแล้วทำให้ความทรงจำหวนคืน

“มีครับ กลิ่น Burning Cabinet เหมือนกลิ่นตู้หนังสือเก่าๆ ที่บ้าน เป็นตู้ไม้เก่าที่อยู่มานานมากแล้วมีกลิ่นยางไม้ออกมาเองตามธรรมชาติ เวลาใช้กลิ่นนี้แล้วรู้สึกอบอุ่นดี มีความเฟรชของความเขียวๆ ไม้ๆ หรือกลิ่น Hibernate Place กลิ่นอุ่นๆ ไม้ๆ ทำให้รู้สึกเก็บตัวได้ ความทรงจำตอนอยู่หอก็จะเข้ามา เรารู้สึกว่ากลิ่นมีผลกับเราเยอะเหมือนกัน”

แล้วถ้าต้องเลือกหนึ่งกลิ่นให้นักอ่านชาวก้อนเมฆ คุณจะเลือกกลิ่นไหน (เราชวนเขาเล่นสนุก)

Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'
Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'

“ต้อง Last Volcano เรารู้สึกว่า The Cloud จะพูดถึงประสบการณ์ พูดถึงอะไรใหม่ๆ กลิ่นนี้จะช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ความคิดนอกกรอบ เพราะมีส่วนผสมของชาและพริกไทย แต่ถ้าเลือกให้คนอ่าน The Cloud ที่กำลัง Work From Home อยู่ด้วย เราแนะนำดิฟฟิวเซอร์กลิ่น The Fog House กลิ่นนี้มีความเป็นค่ากลางที่เป็น Floral Tone มันจะช่วยผ่อนคลายได้ง่ายในระยะยาว ห้องก็จะได้ดูสดชื่นตลอดเวลา

 “แต่ถ้าอยากจะกระฉับกระเฉง กระตุ้นพลังในการทำงาน อยากแนะนำกลิ่น False Awakenings จะช่วยให้มีแรงในการทำงาน แต่ถ้าเป็นคนที่มีไลฟ์สไตล์แบบเก๋ๆ ก็แนะนำเป็น Burning Cabinet มีความเขียวๆ หน่อย ไม้ๆ ดูเป็นคนสุขุมนิดหนึ่ง” นี่เรารู้สึกเหมือนโดนตกให้เหมายกเซ็ต

ถ้านักอ่านเริ่มมีใจอยากครอบครอง แต่ยังนึกไม่ออกว่าแต่ละกลิ่นจะพาเราเผชิญกับประสบการณ์ใด หรือหวนคืนหาความทรงจำไหน แนะนำว่ามาเยือน Copenn. สักครั้ง เพราะที่นี่มีกลุ่มเพื่อนนักออกแบบทั้ง 4 หมุนเวียนกันมาดูแล พูดคุย และให้คำแนะนำกับลูกค้าทุกคนอย่างทั่วถึงและไม่รีบร้อน ดมกลิ่นไปพร้อมๆ กัน แลกเปลี่ยนความชอบ ถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้รับ เหมือนกับการเข้าร้านกาแฟแล้วพูดคุยถึงความสนใจเรื่องกาแฟกับบาริสต้าอย่างนั้นเลย

“เรามองว่าร้านเราเป็นเหมือนร้านกาแฟที่ลูกค้าเข้ามาแล้วได้คุยกับบาริสต้า ชอบกาแฟแบบไหน เข้มไม่เข้ม นมไม่นม เราว่ากลิ่นมันก็เป็นประเภทเดียวกัน ไม่มีอะไรตายตัว เช่น กุหลาบ เขียว พืช กลายเป็นว่าในหนึ่งกลิ่นมันมีบรรยากาศเยอะมากที่จะเบลนด์เข้าหากัน อย่างกลิ่นใน Copenn. เป็นประสบการณ์แรกที่ลูกค้าจะได้รับ

“เขาจะว่ากลิ่นมันแปลก หวานแล้วก็ตัดมาขมและมีกลิ่นเขียวตอนท้าย ฉะนั้น กลิ่นของร้านเราแค่อ่านโน้ตอย่างเดียวเขาอาจจะนึกภาพไม่ออก เราอยากให้ลูกค้ามาลองหน้าร้านมากกว่า ถ้าชอบอันไหนก็เอาอันนั้นกลับไป” 

นี่เป็นอีกหนึ่งสาเหตุ Copenn. ยังไม่เลือกเปิดตลาดออนไลน์ เพราะอยากให้ลูกค้าเข้ามาพูดคุย เข้ามาลองดมกลิ่นจริงๆ และอีกสาเหตุใหญ่ๆ ก็เพราะเจ้าของร้านอยากเล่าเรื่องราวของแต่ละกลิ่นให้ลูกค้าทุกคนได้ฟัง พร้อมทั้งสร้างประสบการณ์ร่วมกันจากบทสนทนา มากกว่าอ่านโน้ตแล้วคลิกสั่งซื้อ (นักช้อปออนไลน์อดใจรออีกนิดนะ )

Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'

ระยะแห่งการเพาะปลูก

เมื่อเราถามถึงเสียงตอบรับของ Copenn. ที่เปิดหลังสถานการณ์โรคระบาด ก็ได้รับคำตอบชวนยิ้ม

“ภาพรวมดีมาก ช่วงแรกที่เปิดร้านก็ต้องปิดเลย” เขาเว้นช่วงชวนเอาใจช่วย ก่อนจะเล่าต่อพร้อมเสียงหัวเราะ “เพราะว่าไม่มีของขาย เราต้องปิดร้านกันอีกหนึ่งสัปดาห์ เพื่อทำสินค้าล็อตสองให้เพียงพอ”

ซึ่งกลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจับจ่ายใน Chapter แรกเป็นกลุ่มวัยรุ่นและคนแวดวงดีไซน์เป็นส่วนใหญ่ แม้เจ้าของร้านจะแอบหยอกว่าไม่คิดว่ากลิ่นแปลกๆ บางตัวที่ปรุงขึ้นมาจะมีลูกค้ารักและให้ความนิยม แต่ฟีดแบ็กก็ดีเกินคาด

“เรามีความเชื่อว่ากลิ่นที่ดีจะต้องเริ่มจากการพื้นฐานการปลูกที่ดีด้วย น้ำดี ดินดี อุณหภูมิดี เราคิดว่ามันเป็นวัฏจักรของการปลูก เลยเลือกเรื่องกลิ่นเป็น Chapter ที่หนึ่ง โดยใช้ชื่อ Chapter นี้ว่า ‘ระยะแห่งการเพาะปลูก’

Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'
Copenn. ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'

“เราพยายามแสดงถึงการเพาะปลูกหิน ดิน ทราย งานไม้ พยายามโชว์พื้นผิวที่เกิดบนพื้นดิน อย่างไม้สีดำก็เกิดจากการตั้งใจเผาของเรากับเพื่อนๆ แทนการพ่นหรือการทา เพื่อให้โชว์วัสดุไปด้วยในตัว อย่างดีไซน์หน้าร้านก็ทำจากผักตบชวาแห้งที่สั่งจากอยุธยา แล้วมาจับทรงกันเองกับเพื่อนๆ” หนุ่มอินทีเรียเล่าเรื่องราวความเชื่อซึ่งกลายเป็นสไตล์ร้าน พร้อมอวดวัสดุตกแต่งที่ทำกันเอง รวมถึงกล่องกำยาน แพ็กเกจทำมือที่เขากำลังจะเล่าที่ไปที่มาทั้งหมดให้เราฟัง

“เราทำคอนเซ็ปต์และทำดีไซน์กันเยอะมาก พยายามทำ Box Set สวยๆ เลยคุยกับช่างทำสังกะสีและช่างเชื่อมที่สนิทกัน เขาก็ถามนะว่าจะเอาไปทำอะไร เราบอกว่าจะทำแพ็กเกจ เขาบอกว่ามันไม่สวย ไม่เนี้ยบ เอาไปทำไม่ได้หรอก แต่เรายืนยันว่าใช้ได้ เราต้องการนำเสนอความดิบ ซึ่งเข้ากับโปรเจกต์ของเรา มันสร้างคุณค่าและมูลค่าได้ เขาเลยลองทำให้ เอาจริงๆ มันเสียเวลาเขานะ แต่เขาก็ทำให้ เราออกมาดีด้วย แล้วเราก็ได้งานที่ละเอียดขึ้น

ร้าน Design Concept Store ที่เริ่มจากขายเครื่องหอมและอยากฟื้นเจริญกรุงด้วย 'ดีไซน์'

“วันแรกสั่งเขาสามสิบถึงสี่สิบใบ อาทิตย์หน้าสั่งเพิ่มอีกร้อยใบ แต่ขอว่าไม่ต้องเนี้ยบนะ พอมันเนี้ยบปุ๊บ เหมือนเราผลิตจากโรงงานใหญ่ เราอยากให้มีกิมมิกของขอบที่เบี้ยวหน่อย ไม่ตรงมาก พอเอามาใช้จริง ก็ดูเหมือนเราติดสติกเกอร์เบี้ยว แต่จริงๆ แล้วกล่องมันเบี้ยว ซึ่งคนที่ชอบดีไซน์เขาคงมองออกว่าคืองานแฮนด์เมดจริงๆ แล้วเรารู้สึกว่ารอยเชื่อมของมันก็ไม่ได้เป็นข้อบกพร่องอะไร บางใบมีรอยขูด เราก็บอกลูกค้าว่ามีรอยตรงนี้นะ แต่มีเสน่ห์มากเลย

“รอยนั้นเป็นเสน่ห์ที่มันเกิดจากตัวมันเอง มีค่ามากกว่าการตั้งใจที่ทำให้มันเรียบร้อยอีกนะ เชื่อมั้ย แป๊บเดียวเราขายหมด กลายเป็นว่า อ้าว อันที่ผิวเรียบๆ สะอาดๆ ล่ะ” ตัวแทนจากกลุ่มเพื่อนทั้ง 4 หัวเราะร่าอารมณ์ดี

หนุ่มนักออกแบบพลิกแพลงวัสดุที่ช่างฝีมือมองข้ามอย่างสเตนเลส มาเพิ่มคุณค่าและมูลค่า แถมยังกระจายรายได้ให้ช่างฝีมือ ซึ่งนั่นเป็นอีกหนึ่งวิธีนำเสนองานออกแบบในมุมมองใหม่ อย่างที่พวกเขาตั้งใจอยากให้เป็น 

กลุ่มเพื่อนสายดีไซน์ 4 แขนงจับมือเปิด Copenn. ร้าน Design Concept Store ย่านเจริญกรุง ที่ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่และหวนคิดถึงความทรงจำจาก ‘กลิ่น’

โปรดติดตามตอนต่อไป

บทต่อไปของ Coppenn. น่าติดตามไม่น้อย เราขอให้เขาเป็นผู้เปิดเผยเองแต่เพียงผู้เดียว

“Chapter อื่นจะค่อยๆ ตามมา อาจจะเป็นแตกดอก ออกผล เก็บเกี่ยว วนเป็นวัฏจักร เราอยากทำให้พื้นที่มันเปลี่ยนแปลงได้ เปลี่ยนทิศทางได้ มีกลิ่นใหม่ได้ มีวัตถุหรืออะไรบางอย่างที่เข้าและออกจาก Chapter นั้นๆ ได้

“ถ้าตอนต่อไปเป็นเรื่องของระยะการแตกดอก ข้างในร้านก็คงทำเป็นเห็ด รา มอส เน้นสีเอิร์ธโทน แล้วก็สร้างกลิ่นใหม่เฉลิมฉลองให้ Chapter นี้ หรืออาจจะมีการเพิ่มวัตถุอะไรบางอย่างที่เหมาะกับ Chapter นั้น” 

เขาเปรยถึงตอนต่อไปว่าจะมีของแต่งบ้าน อย่างที่วางยาสีฟัน น้ำยาบ้วนปาก เก้าอี้ โคมไฟ เสื้อผ้า ถุงเท้า รองเท้า จนถึงเฟอร์นิเจอร์, ที่ไอเดียของ Copenn. สนุกได้ขนาดนี้ เพราะสถานที่แห่งนี้เกิดจากการรวมตัวกันของ Graphic  Designer, Fashion Designer, Product Designer และ Interior ถ้าคุณอ่านมาถึงบรรทัดสุดท้าย เราก็ยังอยากคะยั้นคะยอให้คุณลองเยือน Copenn. ดูสักที เพื่อเปิดประสบการณ์และหวนคิดถึงความทรงจำอันล้ำค่า

แต่มาเยือนในวันที่โรคภัยอนุญาตให้คุณเดินทางนะ 

ส่วนตอนนี้ติดตาม Story of Smell ผ่านหน้าจอได้ทาง Instagram : Copenn.co 

กลุ่มเพื่อนสายดีไซน์ 4 แขนงจับมือเปิดร้าน Design Concept Store ย่านเจริญกรุง ที่ชวนเปิดประสบการณ์ใหม่และหวนคิดถึงความทรงจำจาก ‘กลิ่น’

Copenn.

ที่ตั้ง : 24/1 ห้อง 2103 ซอยเจริญกรุง 82 เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร 10120  (แผนที่

เปิดบริการวันพุธ – วันอาทิตย์ เวลา 11.00 – 19.00 น.Facebook : Copenn.

Writer

Avatar

พลอยไพลิน กลิ่นบัวงาม

นักหัดเขียนสายคาเฟ่ รักการอบขนม เสพติดการหอมหมา และเชื่อว่าวันที่ดีจะเริ่มต้นด้วยชาเขียวเย็นในแก้วเก็บอุณหภูมิ

Photographer

Avatar

เธียรสิน สุวรรณรังสิกุล

ปัจจุบันกำลังหัดนอนก่อนเที่ยงคืน