การเลือกที่พักของคนยุคนี้ รีสอร์ตขนาดใหญ่สไตล์ที่พักครอบครัวซึ่งเปิดบริการมาหลายสิบปี เหมือนจะน่าสนใจน้อยกว่าโรงแรมบูติกยุคใหม่ที่ตั้งใจออกแบบมาให้เต็มไปด้วยมุมถ่ายรูป
แต่ ‘คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท’ จังหวัดกาญจนบุรี ดูจะเป็นข้อยกเว้น

ที่นี่คือที่พักสไตล์วินเทจบนพื้นที่ 120 ไร่ ท่ามกลางต้นไม้ใหญ่กว่า 2,400 ต้น จนถือเป็นที่พักกลางป่าแห่งเดียวที่อยู่กลางตัวเมืองกาญจนบุรี แถมยังอยู่ติดแม่น้ำแควใหญ่แบบมีหาดส่วนตัวให้เราเดินลงไปแช่น้ำเล่นได้ จะพายเรือ ขี่จักรยาน ว่ายน้ำ สปา ดูนก ศึกษาธรรมชาติ ล่องแพ เล่นบ้านต้นไม้ ก็ได้
และที่ตอกย้ำความวินเทจแบบที่คนยุค Y2K ต้องกรี๊ดก็คือ ที่นี่เป็นโลเคชันถ่ายโฆษณาชาเขียวของญี่ปุ่นที่ ทาเคชิ คาเนชิโร (Takeshi Kaneshiro) พระเอกลูกครึ่งไต้หวัน-ญี่ปุ่นสุดเท่แห่งยุคนั้น บินมาเข้าฉาก จนท่าน้ำที่เขายืนในโฆษณาถูกเรียกว่า ‘สะพานทาเคชิ’ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท จึงกลายเป็นสถานที่จัดกิจกรรม ‘อ่านเถิดหนา 07 : Best of 2022’ ของ The Cloud เมื่อปลายปีที่ผ่านมา และกำลังจะเป็นสถานที่จัด ‘อ่านเถิดหนา 08 : อ่านเอาแรง’ ในช่วงวันแรงงานที่จะถึงนี้
มาทำความรู้จักที่พักสไตล์ย้อนยุคท่ามกลางธรรมชาติซึ่งเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งนี้กัน
คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท เปิดตัวประมาณ พ.ศ. 2534 โดย คุณลัดดาวัลย์ เผ่าวิบูลย์ ซึ่งมีธุรกิจร้านอาหารอยู่ในตัวเมืองกาญจนบุรี “คุณน้าเป็นคนชอบเที่ยวป่า เลยอยากสร้างรีสอร์ตที่เป็นสวนป่า คนขายที่ดินบอกว่า ที่นี่เป็นที่แปลงที่สวยที่สุดในแม่น้ำแควใหญ่ คุณน้ามาดูแล้วชอบก็เลยซื้อค่ะ เริ่มต้นจากปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ อยู่ริมแม่น้ำ แล้วขยายมาเรื่อย ๆ” คุณเอิ๊ก-ผศ.ดร.อรลัชชา ศิวรักษ์ หลานสาวที่ปัจจุบันเข้ามาช่วยดูแลกิจการเล่าถึงที่มา แล้วอธิบายต่อว่า สามีของคุณน้าเป็นสถาปนิก ส่วนคุณน้าเองก็เป็นคนชอบออกแบบตกแต่งบ้านอยู่แล้ว เลยสนุกกับการทำรีสอร์ตแห่งนี้

ช่วงที่เปิดตัวใหม่ ๆ รีสอร์ตแห่งนี้ถือว่าใหญ่โตและหรูหรามาก มีการทำประชาสัมพันธ์ใหญ่โต ถึงขนาดมีการจัดอีเวนต์ใหญ่ ๆ อย่างเวทีประกวดนางงามระดับประเทศที่นี่ด้วย ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพ ที่นี่ในช่วงเปิดตัว ก็อยู่ในตลาดกลุ่มเดียวกับรีสอร์ตสุดหรูที่เขาใหญ่ในยุคนี้
ในส่วนของที่พักมีทั้งหมด 4 โซน รวมแล้วประมาณ 90 ห้อง บรรยากาศในห้องพักตกแต่งด้วยไม้ ซึ่งถ้าพูดกันในยุคนี้ก็ต้องบอกว่า เป็นสไตล์วินเทจที่ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบเคร่งขรึม ห้องที่ถูกใจนักออกแบบทั้งหลายมากเป็นพิเศษคือห้องสวีต มีลูกเล่นในการแบ่งพื้นที่ภายในห้อง และรายละเอียดของงานไม้ที่หาไม่ได้จากที่พักยุคใหม่


เช่นเดียวกับล็อบบี้ย้อนยุคที่ตกแต่งด้วยไม้เป็นหลัก สวยคลาสสิกแบบสร้างความประทับใจแรกให้กับแขกทุกคน
ภายในรีสอร์ตแห่งนี้ไม่ได้มีแค่โรงแรมเท่านั้น ยังมีการจัดสรรพื้นที่บางส่วนขายเป็นบ้านจัดสรรให้เพื่อน ๆ และญาติ ๆ มาอยู่ท่ามกลางธรรมชาติด้วยกัน
“ด้วยความที่คุณน้าชอบต้นไม้ เลยปลูกต้นไม้เพิ่มเยอะมาก จนทำให้พื้นที่ 120 ไร่ของเรามีต้นไม้ใหญ่กว่า 2,400 ต้น เป็นรีสอร์ตกลางเมืองกาญจนบุรีแห่งเดียวที่มีต้นไม้ใหญ่มากขนาดนี้” คุณเอิ๊กอธิบายต่อว่า “ด้วยความที่คุณน้าชอบต้นไม้ รีสอร์ตของเราเลยมีสัดส่วนพื้นที่สีเขียวกับห้องพักเยอะมาก คือมีห้องพักน้อยมาก เมื่อเทียบกับพื้นที่ทั้งหมด”


สิ่งนั้นดูจะไม่คุ้มค่าทางธุรกิจ แต่สิ่งที่ได้กลับมาก็คือ ระบบนิเวศขนาดย่อม ทำให้เรารู้สึกเหมือนได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ เป็นบ้านของนกประมาณ 12 ชนิด และแหล่งผลิตอากาศที่สดชื่น โดยเฉพาะในช่วง PM 2.5 อากาศในนี้ก็ไม่แย่เหมือนข้างนอก
แล้วที่นี่ยังตั้งใจดูแลต้นไม้ใหญ่ทั้งหมดอย่างดีให้ยืนยงอีกยืนยาว ไม่หักหรือโค่นล้มลงมาสร้างความเสียหาย ด้วยการใช้บริการรุกขกรมืออาชีพภายใต้คำแนะนำของ BIG Trees
“สถานที่ไฮไลต์ของที่นี่คือหาดกรวด” คุณเอิ๊กพูดถึงพื้นที่ริมแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งเป็นหาดที่ค่อย ๆ ลาดลง พื้นล่างเป็นหินกรวดมน ในช่วงน้ำลง เราเดินลงไปท่องน้ำเล่นในแม่น้ำได้สบาย รวมไปถึงการเล่นน้ำแบบจริงจัง หรือการล่องแพที่ทางรีสอร์ตมีให้บริการ “เวลาอยู่ที่นี่ เอิ๊กชอบมานั่งสอนหนังสือออนไลน์แถวนี้ มันชิลล์มาก ถ้ามีแขกมา เราก็จัดตรงนี้ให้เป็นที่นั่งรับประทานอาหารเย็น อยากกินหมูกระทะพร้อมดูวิวพระอาทิตย์ตกริมแม่น้ำ ที่นี่ก็มีให้บริการ”


ในเมื่อเป็นวิวเด็ด ตรงนี้ก็เลยถูกใช้เป็นโลเคชันถ่ายหนัง ถ่ายละครมากมาย รวมไปถึงถ่ายโฆษณาชาเขียวซึ่งฉายในประเทศญี่ปุ่นด้วย
ในช่วงโควิด หลานวัย 10 ขวบ เอ่ยปากว่าอยากได้บ้านต้นไม้ ก็เลยเกิดพื้นที่ใหม่ในรีสอร์ตแห่งนี้ เป็นโครงเหล็กสูง 3 ชั้นที่ประกบอยู่ข้างต้นไม้ใหญ่ พอเดินขึ้นไปก็เหมือนเราได้ใช้ชีวิตอยู่บนต้นไม้ ให้ความรู้สึกพิเศษไปอีกแบบ
ความเปลี่ยนแปลงอีกอย่างก็คือ ที่นี่เริ่มปลูกผักและสมุนไพรมากขึ้น เพื่อนำมาผลิตเป็น Welcome Drink และขายเป็นสินค้า ตอนนี้มีแปลงเก๊กฮวยขนาดใหญ่ รวมไปถึงการเลี้ยงผึ้งอย่างจริงจัง แต่สินค้าที่ถือเป็นไฮไลต์ของที่นี่คือ ดอกปีบ คุณเอิ๊กเล่าว่า “ถนนเส้นหลักของเรามีต้นปีบขึ้นสองข้างทางเยอะมาก มีดอกปีบร่วงลงมาตลอด เราเลยเก็บมาตากแล้วทำเป็นชาดอกปีบ ใช้เป็น Welcome Drink จากนั้นก็เอาไปทำสบู่ แชมพู เจลแอลกอฮอล์ เพื่อให้บริการกับแขก ถ้าใครใช้แล้วติดใจ เราก็มีขายนะคะ”
จากรีสอร์ตสุดหรูในช่วงเปิดตัวเมื่อ 30 ปีก่อน พอเวลาเปลี่ยนไปก็เกิดการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งโดยมากจะปรับตามความถนัดของผู้จัดการโรงแรม จากรีสอร์ตสุดหรูกลายมาเป็นที่พักแนวกรุ๊ปสัมมนา จนในช่วง 10 ปีที่ผ่านมามีการปรับตัวเรื่องความยั่งยืน ทั้งการวางระบบแยกขยะ เอาเศษอาหารไปทำแก๊สหุงต้ม จนได้รางวัลศาสตร์พระราชา มีคนมาขอดูงานตลอด


“ตอนนี้กลุ่มคนที่มาที่นี่แล้วจะชอบคือกลุ่มครอบครัว คนวัย 40 ขึ้นไป กับเด็ก ๆ” คุณเอิ๊กพูดถึงตลาดในยุคปัจจุบันของที่นี่ “ด้วยบรรยากาศของที่พักทำให้คนสูงอายุคุ้นเคย บางคนมาอยู่เป็นเดือนเลย เราก็มีบริการทำอาหารเพื่อสุขภาพให้ ถ้ามาเป็นกลุ่มเราก็จัดกิจกรรมเต้นรำ คาราโอเกะเพลงเก่าให้ได้ ส่วนเด็ก ๆ เขาจะได้ดูนก ปีนต้นไม้ ขี่จักรยาน ไปดูรอยเท้าสัตว์”
“Family Outing ด้วย” คุณเอิ๊กพูดถึงอีกตลาดที่น่าสนใจมาก “พอเพื่อน ๆ เรามีครอบครัว เวลานัดเจอกันก็ต้องพาลูกไปด้วย ไม่รู้จะไปรวมตัวกันที่บ้านใครถึงจะพอ ก็มาที่นี่ มากี่บ้านก็ได้ พ่อแม่ก็สังสรรค์กันไป ลูกก็มีพื้นที่ให้วิ่งเล่น ไม่ต้องห่วง เคยมีกลุ่มผู้ปกครองจากโรงเรียนเดียวกัน ชวนกันไปชวนกันมา มากัน 140 คน เราก็รับได้สบาย”
ช่วงนี้ คำแสด ริเวอร์แคว รีสอร์ท กำลังเตรียมวางแผนเรื่องการปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เพื่อให้เข้ากับธุรกิจที่พักในยุคนี้ ส่วนจะออกมาอย่างไร ต้องติดตาม
3 Things
you should do
at Comsaed River Kwai Resort&Spa

01
ล่องแพที่หาดกรวด แค่นั่งชิลล์หรือเดินเล่นริมตลิ่งคงไม่พอ ที่นี่มีบริการล่องแพสัมผัสธรรมชาติดื่มด่ำกับแม่น้ำแควใหญ่แบบใกล้ชิดจากหาดหน้ารีสอร์ต และมีรถรับกลับมาส่งถึงที่พัก

02
ไปเยี่ยมสะพานทาเคชิ ถ้าคุณเป็นคนยุค Y2K ที่มี ทาเคชิ คาเนชิโร เป็นดาราคนโปรด นี่คือฉากที่คุณต้องไปเยือน

03
ใช้ผลิตภัณฑ์ดอกปีบ ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีดอกคำแสดเป็นชื่อ แต่ดอกปีบก็เป็นไฮไลต์ไม่แพ้กัน ชาปีบนั้นหาชิมไม่ง่าย เช่นเดียวกันสบู่แชมพูดอกปีบที่ใช้กลิ่นจากดอกปีบจริง ๆ ก็หาไม่ง่ายเช่นกัน