“ของเราก็มีประมาณนี้ ไม่เยอะหรอก”

เหวย-ทิชากร ใบมรกต โปรดิวเซอร์สาวจากโปรดักชันเฮาส์แห่งหนึ่งพูด ขณะที่สองมือโอบอุ้มกล่องใส่ ‘Miniature Toy’ หรือของจำลองชิ้นจิ๋ว 2 – 3 กล่องวางลงบนโต๊ะ แต่เมื่อเปิดกล่องออก เราก็พบว่ามีของจิ๋วจำนวนมากอัดแน่นอยู่ในนั้น มีตั้งแต่ของจำลองหมวดอาหารอย่างกล่องชีส ข้าวห่อไข่ ขวดน้ำ จนถึงเครื่องเขียนอย่างกล่องดินสอ วงเวียน ลูกโลก ทุกอย่างที่มีขนาดเล็กจิ๋ว ใหญ่ไม่เกินกว่าเล็บมือเรา และคีบได้ด้วยการเอานิ้วมือสองนิ้วประกบกัน

เหวยเล่าให้เราฟังว่า เธอหลงใหลความเหมือนจริงของของเล่นตั้งแต่เด็ก และจะรู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษเมื่อเห็นของขนาดปกติในชีวิตประจำวันถูกย่อให้มีขนาดเล็กลง แต่ยังดูสมจริง เธอชอบการ ‘จำลอง’ สิ่งของมากจนพยายามทำของเล่นของเธอเองที่บ้าน

“สมัยก่อนไม่มีของพวกนี้มาขาย เราก็เลยทำเองที่บ้านเลย เอากล่องรองเท้ากระดาษมานั่งตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ทำเป็นกระเบื้อง เอาไม้เล็กๆ มาประกอบเป็นเก้าอี้ โต๊ะ เตียงนอน มันก็คล้ายๆ กับบ้านตุ๊กตานั่นแหละ แต่เราไม่เคยซื้อบ้านตุ๊กตา แล้วก็ไม่ชอบด้วย เพราะมันดูเป็นตุ๊กตา ไม่สมจริงสำหรับเรา เราชอบแบบโต๊ะไม้ก็ต้องเป็นไม้จริงๆ ห้ามเป็นพลาสติก เพื่อให้มีรายละเอียดเหมือนจริงที่สุด”

สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต

จากความชอบในวัยเด็ก หลายปีถัดมาเมื่อเหวยมีโอกาสไปเที่ยวที่ประเทศฮ่องกง เธอจึงได้พบกับของสะสมชิ้นแรก และเป็นจุดเริ่มต้นของหลายชิ้นหลังจากนั้น

“ชิ้นแรกที่ซื้อในชีวิตจริงๆ คือเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว ตอนนั้นไปที่ร้านขายของเล่นชื่อ Toys“R”Us ที่ฮ่องกง ไปเจอโต๊ะอ่านหนังสือจำลองขนาดจิ๋ว เป็นโต๊ะเปล่าๆ แล้วมีพวกเครื่องเขียนและของที่ใช้วางบนโต๊ะขายแยกเป็นกล่องๆ ตอนนั้นตื่นเต้นมากว่า เฮ้ย มันมีสิ่งนี้ด้วยหรอ ไม่เคยรู้มาก่อน เราไม่เคยเห็นแบบนี้ในไทยเลย พอไปเห็นที่นู่นก็เลยตัดสินใจกัดฟันซื้อ มันค่อนข้างแพง ถ้าคิดว่ามันเป็นของเล่นแล้วราคาเท่านี้ แต่เราคิดว่าถ้าไม่ซื้อตอนนี้อาจจะไม่มีแล้วก็ได้ ก็เลยซื้อมาครบชุด ยกแพ็กเลย”

นับแต่นั้น ไม่ว่าเหวยจะไปเที่ยวที่ไหน เธอก็พยายามไปเดินหาของจิ๋วตามย่านขายของเล่น หรือพิพิธภัณฑ์ที่ต่างประเทศทุกครั้ง เหวยไม่นิยมซื้อผ่านอินเทอร์เน็ต เพราะสำหรับเธอ การออกเดินทางตามหาเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การสะสมสนุกและมีความหมาย

“เราไม่ชอบการซื้อผ่านอินเทอร์เน็ตแล้วให้มาส่ง มันง่ายไป เราต้องออกไปตามหา เพราะแบบนี้แหละทำให้การสะสมของเราสนุก และของจิ๋วพวกนี้ก็เลยไม่ใช่ของที่หาได้ง่ายๆ ต้องอาศัยโชคชะตานิดหนึ่งในการไปพบเจอกัน และคาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ว่าจะได้ของหรือเปล่า มันเลยมีคุณค่าทางใจมากๆ”

จากชุดโต๊ะหนังสือครบเซ็ตในวันแรก ตอนนี้เป็นระยะเวลา 10 ปีแล้วที่เหวยตามเก็บ Miniature Toy ยิ่งเวลาผ่านไปของเหล่านี้ก็ยิ่งหายากขึ้น เพราะสมัยนี้บริษัทต่างๆ มักจะผลิตของเล่นประเภทลายการ์ตูนลิขสิทธิ์ หรือการ์ตูนที่เป็นที่นิยมในขนาดใหญ่มากกว่า

“ทุกวันนี้ของจิ๋วหายากขึ้นเรื่อยๆ  ล่าสุดเราเคยเห็นชุดโต๊ะอ่านหนังสือที่เรามี เขาขายกันประมาณสี่พันกว่าบาท เฉพาะแค่ตัวโต๊ะเปล่าๆ นะ ตอนเราซื้อมาครั้งแรกราคาไม่ถึงขนาดนี้หรอก แต่ตอนนี้ซีรีส์นี้มันไม่มีวางขายมือหนึ่งแล้วและไม่ผลิตอีกแล้วด้วย มันเลยกลายเป็นความรู้สึกทางใจว่าเรารู้สึกดีที่มีชิ้นหายาก

“เราไม่ได้สะสมเพราะว่าอยากได้คอลเลกชันครบแล้วรู้สึกภูมิใจ แต่เริ่มสะสมจากความชอบ ทำให้ยิ่งเรามีของเยอะ ยิ่งได้เห็นของเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งมีความสุข หรือถ้าเราเก็บของแต่ละชิ้นได้นานมาก ไม่ต้องเยอะก็ได้ แต่เน้นคุณภาพ ถ้ามีอันที่คุณภาพดีเยอะก็จะยิ่งรู้สึกดี

“การสะสม Miniature ของเราเหมือนเวลารักอะไรสักอย่างโดยไม่มีเหตุผล เราไม่รู้ว่าทำไมถึงชอบ รู้แค่ว่าชอบ อยากแบ่งปันให้คนอื่นดู รวมถึงอยากเก็บไปเรื่อยๆ และอยากเจอใครที่สะสมเหมือนกัน บ้าเหมือนกัน (หัวเราะ) จะได้แลกกัน แล้วเวลาสะสมอะไรบางอย่างไปนานหลายปี บางทีก็ทำให้พอกลับมาดูจะคิดว่า โห อันนี้โคตรนานเลย แล้วก็ทำให้เราระลึกถึงอะไรบางอย่างในช่วงชีวิตนั้นได้”

5 ของจิ๋วที่มีความหมายมากที่สุด

1. เซ็ตโต๊ะเครื่องเขียน

สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต

เป็นของชิ้นแรกที่กัดฟันซื้อที่ฮ่องกง โต๊ะมันเหมือนจริงมาก เปิดไฟได้ มีเก๊ะเปิดได้ ส่วนของที่จะวางบนโต๊ะจะแยกขายเป็นกล่อง มีทุกอย่างที่โต๊ะอ่านหนังสือจะมี ตั้งแต่กล่องดินสอหรือกล่องสีที่ข้างในมีดินสอจริงๆ มีสีทุกสีจริงๆ วงเวียน สมุด แม็ก จนถึงสก็อตเทป

2. โอเด้งญี่ปุ่น

สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต

โอเด้งที่ใส่ในแก้วเหมือนเวลาซื้อตามมินิมาร์ท ข้างในทำละเอียดมาก เป็นโอเด้งกับหัวไชเท้า เราซื้อที่ญี่ปุ่นได้โดยบังเอิญจากร้านขายของเก่า ตอนไปเจอ มันวางแอบๆ อยู่ในตู้โชว์ ไม่มีกล่องอะไรเลย อันนี้ถือเป็นของชิ้นแพงที่สุด เพราะปกติ Minature กล่องหนึ่งจะราคาประมาณ 500 เยน ในกล่องจะมีสัก 4 – 5 ชิ้น แต่อันนี้เราซื้อมา 250 เยนโดยที่มีแค่อันนี้อันเดียว แถมยังไม่มีกล่องให้ด้วย ตอนซื้อเพื่อนหันมาถามว่า “เอาจริงดิ” ก็บอกไปว่าเอาจริง ก็ที่อื่นไม่มีขายนี่นา

3. เรือ One Piece กับตัวละครเล็กจิ๋ว

สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต

เรารู้สึกว่าฟลุกมากที่ได้อันนี้ จริงๆ ตั้งใจไปตามหาอย่างอื่น แต่เหลือบไปเห็นเขาต่อเรือนี้วางไว้ในตู้ ตอนแรกเห็นแค่เรือก็เฉยๆ เพราะว่าก็มีขายอยู่ทั่วไป จนกระทั่งหันไปเห็นตัวละครที่เล็กมาก ขนาดไม่กี่มิลลิเมตร ถ้าหายใจแรง ตัวละครอาจจะปลิวได้เลย (หัวเราะ) แม้จะเล็กแต่เขากลับลงสีได้โอเคมาก เราเลยรู้สึกว่าตัวละครนี้พิเศษและเล็กที่สุดในบรรดาของทั้งหมด

4. ตู้ใส่อาหาร

สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต สาวนักสะสมของเล่นจิ๋ว : ทิชากร ใบมรกต

ชิ้นนี้เหมือนตู้ใส่อาหารสำเร็จรูปในเซเว่นฯ บ้านเรา ตอนแรกซื้อมาแค่ตู้เปล่ากับของ 2 อย่างเอง ที่เหลือเราค่อยๆ หาอย่างอื่นมาใส่ให้เต็ม เติมไปเรื่อยๆ ของอะไรที่ดูจะอยู่ในหมวดของกิน ดูอยู่ในตู้นี้ได้ก็จะซื้อมา เลยเหมือนเป็นของจิ๋วที่ใช้เวลาเติมนานที่สุด

5. ของที่ยังตามหา

อยากได้ชุดเครื่องครัว เป็นตู้เก็บของในครัวที่ของข้างในเป็นพวกกา แก้วน้ำ กระทะ จานชาม ช้อน ตอนนี้ยังหาไม่เจอเลย

ของเล่นจิ๋ว

Writer

Avatar

ศุภาวรรณ คงสุวรรณ์

นักศึกษาฝึกงานรหัส 001 ที่ใส่ต่างหูห่วงตลอดเวลา วางแผนจะอุทิศปัจจุบันและอนาคตให้การเขียน

Photographer

Avatar

นพดล เลิศเอกสิริ

นักศึกษาฝึกงานที่เรียนภาพยนตร์และภาพถ่าย ชอบฟัง ชอบอ่าน ชอบเขียน และกำลังพยายามชอบพูด