“พนักงานทำความสะอาดอะไรวะ เขียนหนังสือโคตรดีเลย”

ผมพูดสิ่งนี้กับตัวเองและคนรอบข้างหลายรอบระหว่างอ่านหนังสือเรื่อง ‘บริการสุดท้ายแด่ผู้ตาย เก็บกวาดความแตกสลายของชีวิต‘ หนังสือแปลจากภาษาเกาหลี ของนักเขียนที่ชื่อ คิมวัน (Kim Wan)

มันเป็นบันทึกของ ‘พนักงานทำความสะอาดบ้านของผู้ล่วงลับ’ ซึ่งเป็นการทำความสะอาดแบบพิเศษสำหรับบ้านที่มีผู้เสียชีวิตโดยลำพังในบ้าน เป็นบริการที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ในเกาหลีใต้

ทีแรกผมเดาว่า แต่ละบทคงเล่าถึงเรื่องราวของผู้เสียชีวิตแต่ละคน แต่ผิดคาด ผู้เขียนเรียบเรียงเรื่องราวอย่างมีชั้นเชิงกว่านั้น เขาถ่ายทอดเรื่องราวหลากมิติของการเสียชีวิตโดยลำพัง รวมไปถึงความน่าสนใจของงานทำความสะอาดแบบพิเศษของเขา

อ่านแล้วไม่ได้หม่นเศร้า เพราะเป็นเรื่องราวของ ‘ความตาย’ ที่ทำให้เข้าใจความหมายและความงามของ ‘ชีวิต’

เมื่ออ่านมาถึงท้ายเล่ม ก็รู้ว่า คิมวันเรียนมาทางด้านกวีนิพนธ์ เคยทำงานสิ่งพิมพ์ พออายุ 30 ปลาย ๆ ก็ทำงานเป็นนักเขียนเต็มตัวและปลีกตัวไปอยู่บนเขา จากนั้นย้ายไปญี่ปุ่นหลายปีเพื่อเก็บข้อมูลเขียนหนังสือ เขาสนใจเรื่องสิ่งของที่ผู้ล่วงลับทิ้งไว้ และการเก็บกวาดสถานที่เสียชีวิต

เมื่อกลับมาเกาหลี เขาตั้งบริษัท Hardworks รับทำความสะอาดแบบพิเศษ และได้เขียนหนังสือเล่มนี้ จากนั้นเขาก็โด่งดังมาก เพราะทำยอดขายไปกว่า 120,000 เล่ม ได้รับเลือกให้เป็นหนังสือแห่งปี 2020 อันดับ 1 ของร้าน Kyobo Book Center ขายลิขลิทธิ์ไป 5 ประเทศ และแปลเป็นภาษาไทยโดยสำนักพิมพ์ Bibli

Kim Wan นักเขียนชื่อดังและเจ้าของบริษัทรับทำความสะอาดบ้านที่มีผู้ตายโดยลำพังในเกาหลี

นอกจากการให้สัมภาษณ์สื่อแล้ว คิมวันยินดีให้สัมภาษณ์กับนักศึกษา และให้คำปรึกษาคนเขียนบท ผมเลยคิดว่าน่าจะขอสัมภาษณ์เขาได้

สำนักพิมพ์ Bibli ประสานงานให้ผมได้คุยกับเขาผ่านหน้าจอ โดยมี คุณมินตรา อินทรารัตน์ ผู้แปลหนังสือเล่มนี้รับหน้าที่เป็นล่าม

คิมวันยินดีพูดคุยกับ The Cloud อย่างที่คาด เขาขอแค่อย่าเปิดเผยภาพใบหน้าของเขาออกสื่อก็พอ

คุณไม่เปิดเผยใบหน้าเวลาออกสื่อ ทำไมถึงไม่อยากให้คนรู้จัก

ผมไม่ได้เป็นตัวแทนของคนทำงานในด้านนี้ ผมแค่มีเรื่องอยากบอกผู้อ่านผ่านตัวหนังสือ ถ้าเปิดเผยตัวตน คนอาจจะสนใจตัวของผมมากกว่าเรื่องราวในหนังสือ ที่เกาหลีมีรายการวาไรตี้ชื่อดังติดต่อให้ผมไปออก ผมก็ปฏิเสธไปด้วยเหตุผลนี้

คุณไม่อยากดังเหรอ น่าจะเป็นผลดีกับงานของคุณหรือยอดขายหนังสือนะ หล่อแบบนี้เปิดหน้าไปสาวๆ กรี๊ดแน่นอน

สงสัยคุณคงคิดว่ากำลังส่องกระจก เลยมองว่าผมหล่อเหมือนคุณหรือเปล่า (หัวเราะ) ผมไม่อยากดัง งานผมเกิดขึ้นได้เพราะมีคนเสียชีวิต แทนที่จะแสวงหาชื่อเสียง ผมอยากทำงานช่วยเหลืออยู่ข้างหลังเงียบ ๆ แบบนี้มากว่า

Kim Wan นักเขียนชื่อดังและเจ้าของบริษัทรับทำความสะอาดบ้านที่มีผู้ตายโดยลำพังในเกาหลี

การออกหนังสือเล่มนี้เปลี่ยนชีวิตคุณไปยังไงบ้าง

มีเสียงตอบรับหลายอย่างจากผู้อ่าน มีคนเขียนจดหมาย ส่งอีเมล และโทรมาหาผมเยอะขึ้น ผมยังทำงานด้านนี้อยู่ เบอร์ผมหาได้ง่ายมาก นอกจากโทรมาเรื่องงานแล้วก็มีผู้อ่านโทรมาขอบคุณที่เขียนหนังสือ บางคนโทรมาเล่าประสบการณ์ที่ตัวเองสูญเสียคนที่รักไป บางคนก็บอกว่าอ่านหนังสือแล้วเหมือนได้รับการปลอบประโลมจิตใจ

การรับสายเหล่านี้ทำให้คุณลำบากใจไหม

อย่างแรก ผมรู้สึกขอบคุณที่ผู้อ่านโทรหาผม ถ้าจะมีเรื่องหนักใจบ้างก็ตรงหลายคนโทรมาระบายว่า ไม่เคยคิดมาก่อนว่า ถ้าตัวเองตายไปแล้วจะมีจุดจบที่น่ากลัว ผมไม่รู้ว่ากำลังสร้างความกลัวให้ผู้อ่านหรือเปล่า ในอีกด้านหนึ่งผมก็ดีใจ เพราะหลาย ๆ คนอ่านหนังสือแล้วก็โทรไปหาพ่อแม่ที่บ้านเพราะความคิดถึง

อะไรทำให้หนังสือของคุณประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในเกาหลีและต่างประเทศ

อาจเพราะเกี่ยวกับความตาย ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ สถานการณ์ช่วงโควิดก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนอ่านหนังสือเล่มนี้เยอะ เพราะมันเปลี่ยนความคิดคน ไม่ใช่แค่คนอายุมากหรือคนป่วยเท่านั้นที่มีโอกาสเสียชีวิต คนอายุน้อย หรือคนแข็งแรงก็เสียชีวิตได้เช่นกัน ผู้อ่านมีมุมมองว่าความตายใกล้ตัวขึ้น หนังสือเล่มนี้เลยอยู่ในใจคนมากขึ้น

อะไรทำให้คุณเริ่มเขียนหนังสือเล่มนี้

ผมทำงานเขียนทำสำนักพิมพ์มานาน ผมเคยให้สัมภาษณ์สื่อหลายแห่งเรื่องการตายอย่างโดดเดี่ยว การที่มีคนเขียนหนังสือได้มาทำงานด้านนี้เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เลยมีบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ติดต่อมา ช่วงแรกผมกังวลว่า สิ่งที่เขียนจะถูกต้องไหม แต่ก็คิดได้ว่า มีเนื้อหาหลายอย่างที่เราสื่อสารให้คนรู้ได้ ก็เลยเริ่มเขียน เวลามีใครสักคนมาขอให้ผมช่วยทำอะไร ผมก็มักจะตอบรับอยู่แล้ว การเขียนก็เช่นกัน

สิ่งที่ยากที่สุดในการเขียนเรื่องนี้คือ

เรื่องที่เขียนยากที่สุดคือตอนที่ต้องไปจัดการศพแมวหลาย ๆ ตัว ผมเป็นคนเจ้าน้ำตากว่าที่คุณคิด บ้านผมไม่ได้มีที่เขียนงาน ผมเลยต้องออกไปเขียนที่คาเฟ่ ร้านที่ผมชอบคือสตาร์บัคส์ เพราะมีห้องน้ำในร้าน เวลาเขียนแล้วร้องไห้ ผมต้องแอบหลบไปร้องไห้ในห้องน้ำ

ระหว่างเขียนอะไรทำให้คุณมีความสุขที่สุด

การเขียนเหมือนกับการทำความสะอาดตรงพอทำเสร็จแล้วจิตใจเราจะสงบสุข การคุยกับคุณทำให้ผมนึกถึง คุณจำลอง ศรีเมือง อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตอนเด็กผมได้อ่านหนังสือของคุณจำลองแล้วประทับใจมาก เป็นเรื่องเกี่ยวกับโต๊ะเขียนหนังสือที่เขาใช้ตั้งแต่สมัย ม.ต้น จนเป็นผู้ว่าฯ ก็ยังใช้ตัวเดิม มันมีอิทธิพลกับชีวิตในวัยเด็กของผมมาก แล้วก็ส่งผลถึงเรื่องการทำความสะอาดของผมด้วย เพราะคุณจำลองมีฉายาว่า ‘นายสะอาด’ เขาเล่าเรื่องการทำความสะอาด แม้ว่างานของเขาจะเป็นการทำความสะอาดสิ่งที่เห็นด้วยตา แต่อีกด้านก็เกี่ยวกับการทำความสะอาดจิตใจด้วย

ทำไมนักเขียนอย่างคุณถึงอยากเปิดบริษัททำความสะอาดแบบพิเศษ

ตอนผมไปหาไอเดียเขียนต้นฉบับที่ญี่ปุ่น ผมเจอตลาดขายของรีไซเคิลของผู้เสียชีวิต หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ผมก็กลับมาที่เกาหลี เปิดสำนักพิมพ์เป็นอย่างแรก แต่ไม่เชี่ยวชาญเรื่องการบริหารเลยไปได้ไม่ดีนัก หลังจากนั้นก็เริ่มงานทำความสะอาดเพราะต้องหารายได้ ส่วนหนึ่งเพราะทำงานทำความสะอาดแล้วยังทำงานเขียนควบคู่ไปได้ ช่วงแรกเป็นการทำความสะอาดทั่วไปสำหรับคนย้ายบ้าน หลังจากนั้นมีคนจ้างไปทำความสะอาดแบบพิเศษ เช่น บ้านที่มีกลิ่นแปลก ๆ ผมเพิ่งมารู้ที่หลังว่านั่นคือกลิ่นของผู้เสียชีวิต จากนั้นก็มีงานทำความสะอาดแบบพิเศษเยอะขึ้นเรื่อย ๆ

Kim Wan นักเขียน 'บริการสุดท้ายแด่ผู้ตาย เก็บกวาดความแตกสลายของชีวิต' เจ้าของบริษัททำความสะอาดบ้านที่มีคนตายลำพัง

การเป็นนักเขียนทำให้คุณทำงานต่างจากคนอื่นไหม

เวลาผมไปทำงาน จะได้เจอเพื่อนบ้านด้วย แทนที่เพื่อนบ้านหรือคนรอบตัวจะแสดงความคิดถึงหรือห่วงหา กลับพูดว่าศพของผู้เสียชีวิตสร้างปัญหาให้เขายังไง ให้ผมช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย มันก็แปลกดี สิ่งที่บริษัทผมแตกต่างจากที่อื่นคงเป็นความเชื่อและจิตใจของพนักงานว่าเรากำลังปฏิบัติต่อบุคคลมากกว่าสิ่งของ

คุณเขียนว่าตอนเข้าไปทำความสะอาด บางครั้งก็เจอคราบของเสียที่แห้งแล้ว บางครั้งก็ยังสดอยู่ หลังจากพบผู้เสียชีวิตแล้ว ต้องมีขั้นตอนอะไรบ้าง คุณถึงจะถูกตามไปทำความสะอาด

ถ้าเป็นการเสียชีวิตตามลำพัง ตำรวจต้องเข้ามาสืบสวนว่าเสียชีวิตเองจากโรค หรือฆ่าตัวตาย หรือจากฆาตกรรม ถ้าทีมทำความสะอาดเข้าไปก่อนตำรวจก็จะเป็นการทำลายหลักฐาน เมื่อตำรวจพิสูจน์หลักฐานแล้ว ทีมของเราก็จะเข้าไป เราไม่มีทางรู้ว่าความเน่าเฟะจะอยู่ในระดับไหน บางกรณีอาจจะเสียชีวิตผ่านไปแค่วันเดียว บางกรณีอาจจะเสียชีวิตแล้ว 3 หรือ 6 เดือน

คราบที่ออกมาจากร่างกายผู้เสียชีวิตจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นกับสาเหตุของการเสียชีวิตและจุดที่เสียชีวิต ถ้าเป็นการแขวนคอ โรคหัวใจ หรือโรคปอด จะมีน้ำออกจากร่างกายเยอะ เวลาเข้าไปเราจะเจอของเหลวมากมาย ซึ่งมาจากของเหลวและของเสียในร่างกาย อีกสิ่งหนึ่งที่ส่งผลกับสภาพศพคือ ฤดูกาลหรืออุณหภูมิ

การทำความสะอาดแบบนี้ทำไมญาติ ๆ ถึงไม่ทำกันเอง อะไรคือความเชี่ยวชาญของคุณที่ญาติ ๆ ไม่มี

อย่างแรกคือทักษะในการจัดการ เมื่อเสียชีวิตจะมีแบคทีเรียเกิดขึ้นเยอะมาก เวลาที่สิ่งมีชีวิตตายจะปล่อยสารอีเทนไทออล (Ethanethiol) เป็นสารที่มีกลิ่นแรงที่สุด การกำจัดกลิ่นนั้นต้องใช้ความเชี่ยวชาญพิเศษ งานของผมคือการต่อสู้กับกลิ่นไม่พึงประสงค์ บางครอบครัวก็อยากเข้ามาช่วยทำงานในที่เกิดเหตุด้วย เพราะเชื่อว่าเป็นการร่วมแสดงความอาลัย ทีมผมก็จะเตรียมอุปกรณ์และเครื่องแต่งกายแบบเดียวกันให้ แต่ส่วนใหญ่ไม่เป็นแบบนั้น เพราะการเข้าไปเก็บข้าวของผู้เสียชีวิต จะทำให้เกิดความรู้สึกร่วมและเครียดมาก เพราะสิ่งที่ทิ้งไว้มักเกี่ยวกับความรักที่เขามีต่อครอบครัว อาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้จึงมีอาชีพแบบผมเกิดขึ้น

งานของคุณต้องใช้ความอดทนสูงมาก หาผู้ร่วมงานยากไหม และคนแบบไหนที่อยากมาสมัครงานกับคุณ

ที่เกาหลีมีคนทำงานประเภทนี้เยอะกว่าที่คิด เป็นงานในตลาดที่แข่งขันค่อนข้างสูง เป็น Red Ocean อาจจะเกี่ยวข้องกับรูปแบบครอบครัวของเกาหลีด้วย ตอนนี้เกาหลีมีคนที่อาศัยคนเดียวเพิ่มขึ้นเกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่วนในชนบทคนที่ไม่ค่อยมีงานมีเกิน 50 เปอร์เซ็นต์ เมื่อมีคนอาศัยคนเดียวเพิ่ม คนที่เสียชีวิตโดยลำพังก็เพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นก็มีคนอยากใช้บริการเพิ่มขึ้น คนที่สมัครเข้ามาก็มีทั้งคนที่เพิ่งออกจากเรือนจำ อยากชดใช้ความผิดด้วยการทำงานประเภทนี้ บางคนก็เป็นเหตุผลด้านศาสนา อยากทำบุญ

ค่าจ้างสูงกว่าทำความสะอาดประเภทปกติไหม

เราไม่ได้กำหนดชัดเจนว่าต้องจ่ายเท่าไหร่ แต่ผมคิดว่าน่าจะสูงกว่าการทำความสะอาดทั่วไป 3 เท่า ขึ้นกับกรณีด้วย

ในหนังสือคุณเขียนว่า คุณทิ้งทุกอย่างในห้อง หนังสือทั้งชั้นก็ทิ้ง อะไรคือสิ่งที่คุณจะไม่ทิ้งแน่ ๆ

ผมจะไม่ตัดสินใจเอง จะถ่ายรูปส่งไปถามครอบครัวว่าจะเก็บไว้ไหม ผมจะไม่เอาความเห็นของตัวเองเข้าไปตัดสินว่าของชิ้นนี้สำคัญหรือไม่สำคัญ ควรทิ้งหรือไม่ควรทิ้ง บางครอบครัวก็ขอให้ทิ้งทุกอย่าง เก็บไว้แค่รูปติดบัตรเล็ก ๆ ใบเดียวก็มี

Kim Wan นักเขียน 'บริการสุดท้ายแด่ผู้ตาย เก็บกวาดความแตกสลายของชีวิต' เจ้าของบริษัททำความสะอาดบ้านที่มีคนตายลำพัง

แทนที่จะทิ้งทั้งหมด เราเอาไปขายเป็นของมือสองได้ไหม

ได้ ทรัพย์สินเป็นมรดกของครอบครัวผู้เสียชีวิต มีสิทธิ์ในการตัดสินใจเต็มที่ ถ้าครอบครัวต้องการ ผมจะติดต่อบริษัทรับซื้อของรีไซเคิลมาให้ แต่บางบ้านก็กลิ่นแรงติดเครื่องใช้ไฟฟ้าจนต้องทิ้ง

การเข้าไปเก็บของผู้เสียชีวิตทิ้งบ่อย ๆ ทำให้คุณมองการสะสมวัตถุต่างไปจากเดิมไหม

ชุดของผู้เสียชีวิตในเกาหลีไม่มีกระเป๋า ความหมายคือ สุดท้ายแล้วเราเอาอะไรไปไม่ได้เลย สำหรับผม สิ่งเดียวที่จะยังคงหลงเหลืออยู่ก็คือ จิตใจของเรา

ทั้งเล่มคุณเขียนถึงการจากไปอย่างโดดเดี่ยวและเต็มไปด้วยปัญหา คุณเคยเจอการจากไปที่เป็นสุขบ้างไหม

ผมไม่รู้ว่ามันคือความสุขไหม ผมเคยไปเก็บของแล้วมีคนในครอบครัวแวะมาตลอด บางคนเข้ามาแล้วก็ร้องไห้ บางคนก็กรีดร้องด้วยความเสียใจ การเห็นภาพนั้นค่อนข้างเศร้า แต่ในแง่หนึ่งก็อบอุ่นใจเหมือนกัน

คุณมองความตายเปลี่ยนไปไหม

จะบอกว่าผมมองความตายเปลี่ยนไปก็ได้ แต่ผมมองชีวิตเปลี่ยนไปมากกว่า เมื่อก่อนผมคิดเรื่องอดีตค่อนข้างเยอะ มองย้อนอดีตแล้วก็เสียใจบ่อย ๆ พอมาทำงานนี้ก็กังวลกับอดีตน้อยลง อนาคตด้วย ไม่กังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดจนปล่อยให้เรื่องปัจจุบันหลุดมือไป แต่ก็ไม่อยู่กับปัจจุบันจนใช้ชีวิตเสเพล

ความคิดเกี่ยวกับผู้คนของผมก็เปลี่ยนไป ตอนนี้ผมไม่ตัดสินคนที่คิดต่างจากผม หรือมีมุมมองการเมืองศาสนาต่างจากผม เวลาที่ผมอยู่ต่อหน้าความตายของใครสักคน ผมไม่มีสิทธิ์ตัดสินเขาเลย ชีวิตยุติธรรมกับทุกคน เราต่างต้องเจอความตายเหมือนกัน

คุณเปลี่ยนอาชีพมาหลายครั้ง อะไรทำให้คุณยังทำ Hardworks อยู่

เหตุผลสำคัญที่สุดคือ ผมชอบงานทำความสะอาด เมื่อเช้าผมก็ทำความสะอาดบ้านก่อนออกมา

ทำไมถึงตั้งชื่อบริษัทว่า Hardworks

นั่นคือความผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดของผม ผมควรเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Easyworks สงสัยเป็นเพราะชื่อบริษัท งานที่เข้ามาเลยยากขึ้นทุกปี ผมคิดว่าคงไม่มีงานไหนจะยากกว่านี้แล้ว แต่ก็มีงานที่ยากขึ้นมาเรื่อย ๆ ตอนนี้ชื่อบริษัทของผมน่าจะเป็น More than Hardworks มากกว่า

หนังสือเล่มต่อไปของคุณจะเกี่ยวกับอะไร

บางคนมองหนังสือเล่มนี้ว่าเป็นเหมือนการไว้อาลัยให้ผู้เสียชีวิต หรือความเรียงเกี่ยวกับการทำงาน แต่ผมมองว่ามันคือบันทึกเกี่ยวกับความรักมากกว่า ผมไม่ได้เขียนเพื่อบอกว่าชีวิตบนโลกนี้ทุกข์ยาก แต่มันก็สร้างความกลัวให้กับคนที่ไม่คุ้นเคยกับความตาย ผมรู้สึกผิดมาก ฉะนั้น เล่มต่อไปผมอยากจะชดเชยให้หนังสือเล่มแรกด้วยการพูดเรื่องความรักแบบจริงจัง เป็นเหมือนจดหมายที่ผมอยากทิ้งไว้ให้ครอบครัวของผมก่อนที่จะจากโลกนี้ไป ผมอยากส่งต่อความอบอุ่น ความรัก ทำให้เห็นว่าชีวิตคนเราเกิดขึ้นมาได้เพราะความรัก

ถ้าวันหนึ่งที่คุณจากไป แล้วมีคนเข้าไปทำความสะอาดในห้องของคุณ เมื่อสำรวจจากข้าวของแล้ว เขาจะคิดว่าคุณเป็นคนอย่างไร

ผมขอตอบว่า ตัวเองอยากเป็นที่จดจำแบบไหนได้ไหม (หยิบกระดาษมาชูกับกล้อง แสดงข้อความว่า With my heart singing to the stars. I shall love all the things that are dying – Yoon Dong-Joo) นี่คือบทกวีของ ยุนดุงจู เขาเสียชีวิตในเรือนจำตอนอายุ 27 ปี คนเกาหลีมองว่าเขาเป็นคนดี ไม่เคยว่าร้ายใคร ดวงดาวคือสิ่งที่มีความหมายกับเขามาก เป็นสิ่งที่ล้ำค่าสูงส่ง ตอนที่เขากำลังจะเสียชีวิตเขาก็มองดวงดาวแล้วร้องเพลงเกี่ยวกับดวงดาว เขาใช้ชีวิตโดยมองว่าทุกอย่างที่เห็นล้ำค่าและสูงส่ง ผมอยากถูกจดจำว่าเป็นคนที่มีความรักให้ทุกสิ่ง ไม่แบ่งแยกว่าอะไรมีค่า อะไรไม่มีค่า ผมอยากถูกจดจำแบบนั้น

เรียบร้อยครับ ขอบคุณมากครับ

ผมยินดีที่ได้พบกับทุกคนในวันนี้ครับ มีสิ่งหนึ่งที่ผมมักจะพูดหลังจากจบการสัมภาษณ์คือ ผมหวังว่า เราจะเป็นคนที่ใจดีกับตัวเองมากกว่าคนอื่น ๆ บนโลกนี้ ถ้าทำอย่างนั้น ทุกคนจะมีความรักได้ด้วยจิตใจแบบเดียวกัน ขอบคุณมากครับ

Kim Wan นักเขียน 'บริการสุดท้ายแด่ผู้ตาย เก็บกวาดความแตกสลายของชีวิต' เจ้าของบริษัททำความสะอาดบ้านที่มีคนตายลำพัง

ภาพ : Gimm-Young Publishers, Inc.

Writer

ทรงกลด บางยี่ขัน

ทรงกลด บางยี่ขัน

ตำแหน่งบรรณาธิการโดยอาชีพ เป็นนักเดินทางมือสมัครเล่น แบ่งเวลาไปสอนหนังสือโดยสมัครใจ และชอบจัดทริปให้คนสมัครไป