ความสุข สนุก ถ้ามันมากเกินไป ก็อาจจะทำให้เกิดน้ำตาเอาได้
นี่คือสิ่งที่เรารู้สึก เมื่อเรายืนอยู่ในสนามเด็กเล่น เพราะนอกจากรอยยิ้ม เสียงหัวเราะดังๆ หน้าตามุ่งมั่น การวิ่งไวๆ เด็กๆ ดูมีเป้าหมายในการจะเล่นเครื่องเล่นอันนั้น ห้อยโหนอันนี้ หรือกำลังสนุกอยู่ในโลกสมมติที่สร้างขึ้นในสนามเด็กเล่นแห่งนั้น
อีกอย่างที่เราจะเห็นหรือได้ยิน คือน้ำตาและเสียงร้องไห้ ดังบ้าง เบาบ้าง กระซิกๆ บ้าง ร้องกันยาวนาน หรือสั้นแป๊บเดียวหาย ทั้งเกิดจากหกล้ม โหนแล้วตกลงมา วิ่งชนกัน เด็กคนอื่นแย่งเล่น หรือแม้แต่เมื่อสิ้นเสียงผู้ปกครองบอกว่า “ปะ กลับกัน” ก็ก่อให้เกิดน้ำตาได้ทั้งนั้น ทั้งสองอารมณ์นี้เราพบเจอได้ที่สนามเด็กเล่น
สนามเด็กเล่นนั้นเหมือนสนามแห่งการช่วยพัฒนา ทั้งทางร่างกาย สมอง จิตใจ และการเข้าสังคม สนามเด็กเล่นช่วยแก้ปัญหาที่คุณพ่อคุณแม่กลุ้มใจได้ เพราะเด็กๆ ได้เล่นอิสระ สมองมันปลอดโปร่งเมื่อได้เอาพลังที่มีออกไปบ้าง หัวมันจะโล่ง หูมันพร้อมจะได้ยิน ระบบปฏิบัติงานจะทำงานได้ดีขึ้น :p
เป็นที่ที่จะเชื่อมเวลาที่มีของกันและกัน จากการเล่นเราจะเห็นนิสัยของลูก เห็นการแก้ปัญหา เห็นความไม่ย่อท้อ และเห็นอาการถอดใจ ได้เรียนรู้ถึงความผิดหวัง ถึงความสามารถของตัวเอง เรียนรู้ที่จะรอและแบ่งปัน ทั้งหมดไม่ใช่คอนเซปต์สวยๆ แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นจริงจากการไปเล่นในสนามเด็กเล่นค่ะ
ก่อนหน้านี้ในแต่ละทริปที่เราไปเมืองต่างๆ เราอาจจะไปพิพิธภัณฑ์ สวนสนุก สวนสัตว์ ฯลฯ แต่ตอนนี้โปรแกรมในแต่ละวันเราจะหาเวลาพาชื่นใจไปสนามเด็กเล่นด้วย ซึ่งเรื่องมันเริ่มมาจากวันหนึ่งในโคเปนเฮเกน
หลังเดินออกมาจากร้านอาหารเพื่อกลับที่พัก เราหันไปเห็นสนามเด็กเล่นรูปเครื่องบินลำใหญ่ ช่างสะดุดตา แต่ตอนนั้นมันหนาวเกินกว่าจะอยากออกไปวิ่งเล่นกัน
ความรู้สึกสนใจในสนามเด็กเล่นก็เริ่มเกิดขึ้น บวกกับที่เราสังเกตว่าช่วงนี้ชื่นใจชอบปีนป่ายมากขึ้น มีความกล้าที่จะลองเล่นของเล่นในสนามหลายอย่างมากขึ้น เลยเริ่มหาข้อมูลสนามเด็กเล่นในแต่ละที่ แต่ละเมือง ยิ่งหาก็ยิ่งสนุก เพราะโลกของสนามเด็กเล่นมีมากมาย และมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป โดยหลักการของสนามเด็กเล่นที่ดีคือเล่นกลางแจ้ง ทำจากวัสดุธรรมชาติ มีน้ำ มีทราย มีที่ให้ปีนป่าย
และเหล่านี้คือสนามเด็กเล่นที่พวกเราได้ไปมาในหลายๆ เมือง เผื่อว่าใครได้แวะเวียนไปที่เมืองไหน จะได้พาเด็กๆ ไปปล่อยพลังที่สนามเด็กเล่น เพื่อหลังจากนั้นจะได้หลับสบายแล้วเปิดโอกาสภาคบ่ายให้พ่อกับแม่ได้นั่งจิบกาแฟ แล้วช้อปปิ้งบ้างนิดๆ หน่อยๆ (ย้ำว่านิดๆ หน่อยๆ นะคะ :p)
Parkleken Draken
Stockholm
สนามเด็กเล่นแห่งนี้อยู่ในสวนสาธารณะ Drakenbergsgatan Park เดินออกจากสถานี Hornstull จะเห็นแม่น้ำ Årstaviken สามารถเดินเลียบแม่น้ำไปถึงสวนสาธารณะได้ค่ะ
สนามเด็กเล่นแห่งนี้มีเจ้ามังกรยักษ์ที่ไม่ดูน่ากลัว เพราะมันไม่พ่นไฟ แต่พ่นน้ำให้เด็กๆ เล่นแทน
บางครั้งจะมีกิจกรรมให้เด็กๆ และครอบครัวมาเพนต์สีตกแต่งเจ้ามังกรนี้ให้สดใสกันอีกด้วย แต่เดิมเจ้ามังกรมีอยู่แล้วตั้งแต่ปี 1975 ก่อนจะรีโนเวตสนามเด็กเล่นตรงนี้ขึ้นมาใหม่โดยกลุ่มสถาปนิกที่ออกแบบพื้นที่ให้ตอบรับไปกับเจ้ามังกร มีไข่มังกรที่ตอนกลางคืนจะเรืองแสงด้วย
ส่วนกลางวันเป็นที่ให้เด็กๆ ปีนเล่นกระโดด รอบๆ ยังแบ่งเครื่องเล่นเป็นโซนๆ มีชิงช้าสำหรับเด็กเล็ก เด็กโต มีค่ายกลให้เด็กๆ ปีนป่าย มีสไลเดอร์หลากหลายแบบแล้วแต่ความกล้าของเด็กๆ มีสนามทราย บ้านไม้ โต๊ะปิงปอง เป็นสนามเด็กเล่นที่เล่นกันได้ทุกเพศทุกวัยไม่เพียงแค่เด็กๆ
Diana Memorial Playground
London
สนามเด็กเล่นแห่งเรือโจรสลัดนี้อยู่ในสวนเคนซิงตัน (Kensington Gardens) ซึ่งสร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์แด่เจ้าหญิงไดอาน่า มีพระราชวังเคนซิงตันอยู่ไม่ไกล สนามเด็กเล่นนี้เปิด-ปิดเป็นเวลา เปิดตอน 10 โมง แต่เวลาปิดไม่เท่ากันในแต่ละฤด
เป็นสนามเด็กเล่นกว้างๆ ที่จัดแต่ละมุมไว้ให้เด็กๆ ได้เล่นแบบใช้จินตนาการและกล้ามเนื้อต่างๆ เรือโจรสลัดลำใหญ่คือเรือที่เด็กๆ ต้องขึ้นไปพิชิต จะขึ้นไปได้ก็ต้องไต่ขึ้นไป อยากเล่นก็ต้องไปเอาความสนุกมาให้ได้ด้วยสองมือสองขาของตัวเองนี่แหละ
บรรยากาศของสนามเด็กเล่นคล้ายๆ มาเข้าค่าย เพราะมีหลายมุมหลายด่านให้พิชิต และได้ใช้เล่นสมมติเสริมจินตนาการด้วย มุมเต็นท์กระโจมก็น่ารัก มุมหีบสมบัติก็ชวนเปิดค้นหาว่ามันมีอะไรไหม
ความใส่ใจและสนามเด็กเล่นที่ดีก็คือ มันควรแบ่งโซนเด็กเล็กเด็กโต เพราะวิธีการเล่นของเด็กแต่ละวัยไม่เหมือนกัน ซึ่งทีนี่ก็จะมีแบ่งโซนเอาไว้แบบนั้น และด้วยความที่มันค่อนข้างกว้างและมีหลายมุม ผู้ปกครองที่ไปด้วยควรดูแลใกล้ชิดนะคะ
The King’s Garden Playground
Copenhagen
ในสวนสาธรณะ The King’s Garden Playground มีแลนด์สเคปอันสวยงาม ที่ด้านในสวนมีสนามเด็กเล่นเล็กๆ ที่รู้จักกันในนามของ Dragon Playground ด้วยว่าพระเอกของสนามเด็กเล่นนี้คือเจ้ามังกรที่นอนเฝ้าไข่มังกรใบยักษ์อยู่
แม้สนามเด็กเล่นไม่ใหญ่ แต่ก็ใส่ใจแฝงรายละเอียดเอาไว้ ในแต่ละเส้นทางจะต้องฟันฝ่าไปกันคนละแบบ ซึ่งส่วนใหญ่เครื่องเล่นในนี้จะเป็นลักษณะฝึกการทรงตัวให้เด็กๆ เตี้ย สูง แคบ กว้าง ต้องก้าวสั้น ก้าวยาว หรือกระโดด ชวนให้เด็กๆ ต้องทดลอง ทดสอบกันหน่อย
Valby Nature Playground
Copenhagen
ออกจากตัวเมืองโคเปนเฮเกนไปหน่อยจะเจอสวนสาธารณะและสนามเด็กเล่นที่ใหญ่ที่บิ๊กเบิ้มมาก เขาว่าใหญ่เป็นอันดับสองในโคเปนเฮเกนค่ะ เข้ามาเราจะเจอกับฝูงหงส์กำลังรับแดดรับลมกันอยู่ มองไปสุดตาจะเห็นแต่สีเขียวตัดกับท้องฟ้า และจะเริ่มได้ยินเสียงเด็กไกลๆ หลังเดินผ่านเนินเขาเตี้ยๆ ไป (ทางเดินปกติก็มีค่ะ แต่อยากได้บรรยากาศเลยเดินไปทางที่มีเนินซะหน่อย)
หอคอยทรงบิดเบี้ยวกับทางเดินไม้ เนินเขาที่มีทางขึ้นหลายแบบให้เด็กเลือกปีนขึ้นไปได้ตามนิสัย รักการผจญภัยเชิญไต่ขึ้นไปด้วยสองมือสองเท้า อยากได้อุปกรณ์ช่วยเชิญทางบันไดไม้ที่ต้องอาศัยการทรงตัว เข้ามาในนี้แล้วเหมือนอยู่ในแคมป์ของเด็กๆ มีอุโมงค์ให้มุด ลอด มีเขาวงกต มีเนิน มีสะพาน และมีหอคอยรูปทรงแปลกตั้งโดดเด่น
แต่ละหอคอยจะมีคอนเซปต์ต่างกันไป คือหอคอยแสง หอคอยลม หอคอยสีเขียว หอนก และหอคอยแห่งการเปลี่ยนแปลง พื้นที่สนามเด็กเล่นเชื่อมต่อกันด้วยสะพานไม้ มีจักรยานให้เด็กๆ ได้ขี่เล่นสำรวจพื้นที่ด้วย มีบ่อทราย มีดอกไม้ และมีสัตว์ตามธรรมชาติอาศัยอยู่
อย่างหนึ่งที่เราเห็นจากการเล่นของชื่นใจในสนามเด็กเล่นคือ เมื่ออยู่ในแต่ละที่ชื่นใจจะมีวิธีเล่นตามจินตนาการ อย่างที่นี่ พอเห็นเนินเขาชื่นใจก็รีบปีนขึ้นไปทางบันได ตรงไหนกล้าก็เดินขึ้นไปสองขา ตรงไหนเริ่มหวั่นๆ ก็จะย่อตัวต่ำ แล้วใช้มือเข้าช่วย
เมื่อขึ้นไปถึงชื่นใจจะเล่นสมมติตามแต่งบทในหัวจะพาไป อย่างที่นี่ชื่นใจเรียกหาแผนที่ เราเลยส่งกระดาษให้แผ่นหนึ่ง ชื่นใจก็ถือกระดาษนี้แล้วชี้บอกทางเหมือนหาสมบัติอยู่ บางทีก็สมมติว่าเป็นหอคอยเจ้าหญิงฝึกหัด ไต่ไปพูดไปไม่หยุด สนุกไปอีกแบบค่ะ
Playground with Towers
Copenhagen
ในย่าน Fælledparken Østerbro มีสนามเด็กเล่นน่าไปหลายแห่ง เท่าที่เวลาอำนวยเราเลือกไปที่ Playground with Towers เมืองจำลองแห่งการเล่นของเด็กๆ ที่จำลองตึกในโคเปนเฮเกนมาให้เด็กๆ ได้พิชิต
นอกจากมีเมืองจำลองแล้วยังมีหอคอยให้ปีนขึ้นไป ส่วนทางลงต้องสไลเดอร์ลงมา บางเนินมีทางขึ้นวิธีเดียวคือต้องไต่ เด็กๆ ต้องหาจังหวะและวิธีในแบบของตัวเอง นอกจากนั้นเด็กๆ ยังได้เรียนรู้ตึกที่มีเอกลักษณ์ต่างๆ ในโคเปนเฮเกนผ่านสนามเด็กเล่นแห่งนี้ไปในตัวด้วย
ในสนามเด็กเล่นเราจะเห็นเด็กตั้งแต่เล็กมาก แบบที่ยังเพิ่งยืนได้แต่ยังยืนไม่แข็ง คุณพ่อคุณแม่ก็พามาเล่นในพื้นที่กลางแจ้งแล้ว มาฝึกยืน ฝึกเดิน กันในสนามทราย ของเล่นก็คือพื้นทราย หยิบ จับ กำ ปั้นกันตรงนี้ ได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่กันอย่างสนุกสนานค่ะ
รวมๆ แล้วที่โคเปนเฮเกนมีสนามเด็กเล่นกลางแจ้งถึง 125 แห่ง เล็กบ้างใหญ่บ้างต่างกันไป นอกจากสวนสาธารณะที่เราอยากให้เมืองไทยมีเยอะๆ แล้ว สนามเด็กเล่นที่ปลอดภัยได้มาตรฐานก็เป็นอีกอย่างที่อยากให้มี