Tokyo Toy Museum คือการพบกันของคนสองวัย วัยนึงเด็กมาก กับอีกวัยสูงอายุมากๆ

ที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ของเล่นที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ทั้งธรรมชาติของเด็กที่รักการเล่นสนุก และธรรมชาติของของเล่น ของเล่นในนี้ส่วนใหญ่ทำจากไม้ และจำลองความเป็นธรรมชาติเอาไว้

เริ่มจากการแปลงตึกโรงเรียนหลังเก่ามาทำเป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นให้เด็กๆ และแบ่งมุม แบ่งโซนการเล่น แยกตามวัยและความสนใจของเด็กๆ ชั้นหนึ่งสำหรับเด็กเล็ก 0 – 2 ขวบและผู้ปกครอง เพราะเป็นวัยที่ยังต้องมีผู้ปกครองตามติด ห้องเล่นมีของเล่นเสริมพัฒนาการและได้ฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ ของเล่นพื้นผิวเกือบทุกอย่างล้วนทำจากไม้

Tokyo Toy Museum ชื่นใจ

ถัดมาที่ชั้นสอง จะมีช็อปสำหรับเลือกซื้อของเล่นเสริมพัฒนาการทั้งหลาย มีตู้กดกาชาปองที่น่ารักมาก ของที่อยู่ในไข่เป็นของเล่นชิ้นเล็กๆ และเป็นของเล่นที่ทำจากไม้ คงคอนเซปต์ไม่มีวางเลยสักอย่าง

Tokyo Toy Museum

ในชั้นนี้มี Good Toy Gallery ที่จัดแสดงของเล่นซึ่งได้รับรางวัลของเล่นที่ดีจากที่ต่างๆ อย่าง Good Design และ Kids Design ตรงกลางห้อง ก็เอาของเล่นเหล่านี้บางส่วนมาให้เด็กๆ ได้ทำลองเล่นกันจริงๆ ชื่นใจเพลิดเพลินมาก เลือกเล่นของเล่นชิ้นนั้นชิ้นน้ีไม่มีเบื่อ บางครั้งคุณยายผู้เฝ้าห้องก็จะเดินเข้ามาอธิบายว่าของเล่นชิ้นนั้นชิ้นนี้มันดียังไง ช่วยเรื่องไหนให้กับเด็กๆ

Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum

ที่โถงทางเดินและห้องถัดไปก็จัดแสดงนิทรรศการหมุนเวียนเกี่ยวกับของเล่น การเล่น หรือประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ ที่จะปรับเปลี่ยนหัวข้อปีละ 2 – 3 ครั้งค่ะ

Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum

มาถึงโซนในสุดของชั้นนี้ คือป่าของเล่นไม้ มีเขาวงกตเล็กๆ ให้เด็กๆ ได้ใช้ทักษะการคิดปีนป่ายหาทางออก มีบ่อบอลไม้ บล็อกไม้ชิ้นใหญ่ๆ ให้เขาสร้างเรื่องราวได้ตามใจ มีอะไรให้เด็กๆ ได้เล่นสนุก ได้สร้างจินตนาการและใช้กล้ามเนื้อ

Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum

ความใส่ใจของที่นี่คือ ของเล่นต่างๆ ในนี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้ และถึงยามบ่ายเมื่อแสงแดดส่อง เราเห็นว่าเกือบทุกห้องติดม่านกรองแสง เพื่อให้ยังคงมีแสงธรรมชาติส่องเข้ามา แต่ก็ช่วยปกกันของเล่นให้เด็กๆ เล่นได้นานๆ โดยไม่โดนแดดทำลาย

Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum

มาถึงชั้นสาม ชั้นนี้จะเหมาะกับเด็กโตขึ้นมาหน่อย มีห้องเล่นเกมที่ให้ผู้ใหญ่ได้ประลองกับเด็ก เราจะเห็นภาพคุณปู่คุณย่านั่งเล่นเกมแข่งกับเด็ก เป็นที่น่ารัก บางมุมเป็นคุณปู่สอนทดลองวิทยาศาสตร์ให้เด็กรุ่นหลาน ส่วนมุมโน้นเป็นคุณย่าคุณยายสอนวิธีชงชา แล้วพากันจิบ เป็นที่น่าเอ็นดู มีห้องสอนประดิษฐ์ของเล่นจากวัสดุใกล้ตัว มีมุมฟาร์มให้เด็กๆ ง่วนกับการเก็บผักผลไม้ ชื่นใจสนุกมาก ทั้งเล่นทั้งลองอะไรที่ไม่เคยมาก่อน

Tokyo Toy Museum

ในมุมฟาร์มก็เก็บแอปเปิ้ลจากต้นไม้ที่ทำจากไม้ ลูกแอปเปิ้ลเองก็เป็นไม้ ความน่ารักคือเขาจำลองแบบให้เด็กได้เรียนรู้ถึงผักแต่ละชนิดด้วย อย่างผักที่เป็นหัวอย่างแครอทหรือหัวผักกาด ก็จะเก็บแบบซ่อนไว้ใต้กล่องที่จำลองเป็นดินในแปลงผัก เห็ดก็เสียบๆ ไว้ให้ตอนเก็บเด็ดดึงได้ และยังมีตะกร้าสานใบจิ๋วบ้างใหญ่บ้างให้เด็กๆ แปลงร่างเป็นชาวสวนน้อย

Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum Tokyo Toy Museum ชื่นใจ Tokyo Toy Museum

ออกมาที่ส่วนเอาต์ดอร์ของพิพิธภัณฑ์ เด็กๆ ก็ยังไม่หยุดเล่น เพราะยังมีที่ให้เล่นกันต่อ นั่นคือส่วนสนามเด็กเล่น สนามที่เด็กจะได้ปีนเนินเขาเตี้ยๆ มุดลอดท่อน้ำ พาตัวเองไปยังจุดสูงสุดของภูเขา ที่น่ารักคือมีสระว่ายน้ำ แต่ไม่มีน้ำ ไม่รู้ว่าปกติมีน้ำหรือไม่มีนะคะ แต่วันที่เราไปไม่มี แต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคต่อการเล่นและจินตนาการของเด็กๆ เพราะเด็กที่อยู่ในสระนี้กำลังทำท่าว่ายน้ำกันอยู่ทุกคน ในจินตนาการของเขาคงคิดว่ากำลังว่ายท่าฟรีสไตล์กันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย บางคนทำท่าเหมือนดำน้ำ น่ารักจนอดยิ้มออกมาไม่ได้กับความคิดของเด็กๆ

สนามเด็กเล่น สนามเด็กเล่น

ตลอดทั้งวันที่เด็กๆ ใช้กล้ามเนื้อปีนเขาก็แล้ว เล่นสมมติเก็บผักก็แล้ว และยังออกมาจินตนาการว่ายน้ำอย่างหนักหน่วงกันอีก ก็ได้เวลานั่งพักปิกนิกกินข้าวปั้นที่คุณแม่พกมาในย่ามใบใหญ่กันที่ข้างสนามเด็กเล่น

ชื่นใจยังคงสนุกกับการเล่นสมมติ ที่บางครั้งแม่ชักจะอินกับบทบาทที่ชื่นใจมอบให้ จนอยากจะเข้าไปเล่นต่อที่มุมฟาร์มเก็บแอปเปิ้ล แล้วต่อด้วยปาร์ตี้จิบชากับคุณย่าคุณยายด้วยซะเลย 🙂

Tokyo Toy Museum

เปิด 10.00 – 16.00 . *หยุดทุกวันพฤหัสบดี
ตั๋วเด็ก (อายุ 6 เดือนนักเรียนประถม) ราคา 500 เยน  (เด็กทารก 0 – 5 เดือนเข้าฟรี)
ตั๋วนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นขึ้นไป ราคา 800 เยน
ตั๋วคู่สำหรับผู้ใหญ่+เด็ก ราคา 1,200 เยน

เดินทาง

รถไฟใต้ดินสาย Marunouchi สถานี Yotsuya-sanchōme เดิน 7 นาที
รถไฟใต้ดินสาย Shinjuku สถานี Akebonobashi เดิน 8 นาที

Writer & Photographer

Avatar

พนิดา เอี่ยมศิรินพกุล

เริ่มต้นงานแรกหลังเรียนจบและงานเดียวจนถึงปัจจุบันคืองานในวงการสิ่งพิมพ์ รักงานบรรณาธิการและงานเขียน ตอนนี้มีอาชีพเป็นคุณแม่และภรรยาที่ทำงานที่รักไปด้วย อ่อนไหวง่ายและภูมิต้านทานต่ำเมื่อเจอกับเรื่องราวกระจุกกระจิก และคอยหาเวลาว่างเพื่อเก็บมาเป็นซีรีส์กุ๊กกิ๊ก ไกด์ อยู่เสมอ