19 กันยายน 2024
698

ผู้หญิงธรรมดา มีปมเรื่องพ่อหายตัวไป คนในหมู่บ้านไม่ต้อนรับ อยู่มาวันหนึ่งโดนไล่ออกจากงาน ต้องกลับบ้านไปหาแม่ที่ไม่สบาย แต่อดีตเก่า ๆ ก็ตามมาหลอกหลอนผ่านวิทยุสื่อสารที่พ่อทิ้งไว้ให้ จนเกิดเป็นการออกตามหาพ่อ

ว่ากันตามตรง ถ้าจำเรื่องย่อแค่นี้เข้าไปดูหนังเรื่อง ตาคลี เจเนซิส (TAKLEE GENESIS) คุณจะพบว่ามันเป็นแค่ 1% ของหนังเท่านั้น

ตาคลี เจเนซิส เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ มะเดี่ยว-ชูเกียรติ ศักดิ์วีระกุล ในวัย 43 ปีที่ทะเยอทะยานที่สุดในชีวิต นำแสดงโดย พอลล่า เทเลอร์, ปีเตอร์ คอร์ป ไดเรนดัล, วอร์-วนรัตน์ รัศมีรัตน์ และ ณัฐชา เจสสิก้า พาโดวัน

ตลอดเส้นทางการทำงาน มะเดี่ยวถูกจดจำในฐานะผู้กำกับที่ขึ้นชื่อเรื่องหนังความสัมพันธ์ทุกรูปแบบ จนอาจทำให้ผู้คนแตกตื่นเมื่อทราบว่าหนังเรื่องล่าสุดนี้เป็นไซไฟฟอร์มยักษ์เรื่องแรกของไทยที่จัดจำหน่ายโดยค่าย Warner Bros. ทั้งยังเข้าฉายในระบบ IMAX เต็ม ๆ ตาด้วยความยาว 2 ชั่วโมง 26 นาที 

แท้จริงแล้วหนังของมะเดี่ยวมีปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติสอดแทรกอยู่เสมอ

เขาแจ้งเกิดจากการทำหนังผีในตำนานอย่าง คน ผี ปีศาจ เล่าเรื่องพี่สาวผู้หายตัวไปปริศนาใน รักแห่งสยาม การกลับชาติมาเกิดของคนรักใน ดิว ไปด้วยกันนะ หรือฝันหวาน ๆ ของแฟนคลับวงดนตรีใน ฝัน-หวาน-อาย-จูบ ทว่า เขาร้อยเรียงมันด้วยความสัมพันธ์ของผู้คนที่ดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ

มะเดี่ยวชื่นชอบวิทยาศาสตร์ตั้งแต่เด็ก สั่งสมความรู้มากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทคโนโลยีเติบโตตามโลก สตูดิโอคำม่วนของเขาทำงานในสำนักงานแบบเสมือนหรือ Virtual Office ก่อนเราทุกคนจะรู้จักโควิด-19 เสียอีก

แม้หนังของเขาจะพาเรากระโจนโลดโผนออกนอกอวกาศมากแค่ไหน สุดท้ายมันจะพาเรากลับมามองความหวังอันน้อยนิดและเศษเสี้ยวของความรักที่หลงเหลืออยู่

มะเดี่ยวเองก็ไม่ต่าง ต่อให้คิดค้นภาษาต่างดาวหรือสร้างวงแหวนแห่งกาลเวลาสำเร็จ ปัจจุบันขณะก็ยังคงเป็นของขวัญ

หลังคนรักตายจากไปด้วยโรคร้าย เขารับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม เพื่อหวังว่าการได้ดูแลใครสักคนต่อไปจะหล่อเลี้ยงชีวิตเขาด้วยเช่นกัน

ที่สำคัญ มะเดี่ยวในวัย 43 ไม่ได้ใช้ความทะเยอทะยานไปจนหมดสิ้น เพราะรู้ดีว่าชีวิตนี้มีแต่เรื่องตลกร้ายที่เขากำกับไม่ได้

ทำไมประวัติในเฟซบุ๊กของคุณถึงเขียนว่า ชีวิตกูคือ Dark Comedy

(หัวเราะ) ชีวิตไม่เคยมีอะไรได้มาง่าย ๆ เลย มักจะมีความพยายามเพื่อให้ได้มันมา บางทีก็เกือบจะได้มาแล้วก็หายไป มีทั้งสมหวัง ผิดหวัง ซึ่งส่วนใหญ่จะผิดหวัง แต่ก็ตลกไปกับมัน 

ถ้ามองย้อนกลับไป เหตุการณ์อะไรที่พอจะนิยามประโยคนั้นได้

เรากำกับหนังตอนอายุ 22 ฟังดูว่าเหมือนได้มาง่ายจัง เริ่มต้นตั้งแต่อายุยังน้อย แต่จริง ๆ มันแลกมาด้วยอะไรหลายอย่าง เราต้องทำหนังสั้นเรื่อย ๆ ถึงเวลาก็เอาไปประกวด เข้าเทศกาล พัฒนาตัวเอง กล้องวิดีโอก็ยืมเพื่อนทำหนังสั้นก่อน แม่ถึงจะยอมซื้อให้ พอได้มาก็ใช้กล้องตัวนี้สร้างงานให้ตัวเอง โชคดีว่าเราทำเพราะมีความสุขที่ได้ทำ 

ถึงจุดหนึ่งเราก็ทำหนังฉายในโรงได้ด้วยความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ จากสปอนเซอร์ ผู้หลักผู้ใหญ่ ก็ไม่ได้เชื้อเชิญ เราเอาบทไปนำเสนอ วิ่งหาโอกาส กระทั่งได้ทำตอนอายุ 22 เราไม่ได้เป็นลูกใครหลานใคร ไม่มีตังค์ทำหนังเองด้วยซ้ำ ภาพที่เห็นว่าเราประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อยแลกมากับอะไรแบบนี้ ใครจะมาสนใจล่ะ แต่ไม่ง่ายเลยแต่ละก้าวย่าง

คำโปรยหนึ่งของ ตาคลี เจเนซิส คือเรื่องนี้เป็นหนังที่ทะเยอทะยานที่สุดในชีวิตมะเดี่ยว ยังเป็นความทะเยอทะยานเดียวกันกับตอนทำหนังยาวเรื่องแรกไหม

ทะเยอทะยานเป็นคำที่ดี เราชอบ มนุษย์เรามีความสะดวกสบายจากการทำสิ่งที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ 

เราทะเยอทะยานจากการเล่าเรื่องที่อยากเล่า หนังพาเราไปสู่พรมแดนใหม่ ๆ เหมือนที่เคยทำได้กับหนัง LGBTQ 

ตาคลี เจเนซิส เป็นหนังที่อยู่ในหัวมานานแล้ว เราหาทางทำมันให้ได้ ก่อนหน้านั้นมีหนังภาคต่อของ 13 เกมสยอง ก็ไม่ค่อยรอด (หัวเราะ) ซึ่งก็ถูกแล้วที่ไม่ได้ทำ มันคงดูไม่จืด เจ๊งไปแล้ว 

เอาจริง ๆ ต่อให้เราทำหนังแนวอื่นประสบความสำเร็จ หนังไซไฟก็ยังเป็นของแสลงสำหรับหนังไทยอยู่ดี แต่สิ่งที่ต้องมองคืออะไร ในยุคนี้ใครก็ทำหนังโรแมนติก-คอเมดี้ได้ใน TikTok ทางรอดคือโรงภาพยนตร์ต้องเป็นมหรสพที่คนอยากไปดู มันต้องยิ่งใหญ่พอ 

จากประสบการณ์ 20 ปีในวงการ เค้กก้อนใหญ่ของหนังทั่วโลกคือแอคชัน สัตว์ประหลาด ไซไฟ ผี นอกนั้นก็มีดราม่า-คอเมดี้เป็นซับเซต เราไม่อาจหาญจะไปแข่งกับวงการฮอลลีวูดหรอก แต่ถ้ามีโอกาสขึ้นมาได้ เราจะลองดูไหม 

ทำไมต้องตอนนี้ ประเทศไทยพร้อมกับหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ขนาดนี้แล้วเหรอ

มันไม่เคยพร้อมอยู่แล้ว (หัวเราะ) ไม่เคยมีอะไรพร้อม 

กาเหว่าที่บางเพลง ก็เป็นหนังไซไฟฟอร์มยักษ์ของไทย รายได้ 50 ล้านในยุคนั้น ประสบความสำเร็จมาก ปักษาวายุ ก็โคลนนิ่งคน เรื่องอื่น ๆ ที่ตามมาก็ล้มลุกคลุกคลาน 

คำถามว่าเราพร้อมไหมในยุคนี้ เราใช้โปรแกรมเดียวกันกับเมืองนอกนะ ฝีมือคนไทยไม่ได้น้อยไปกว่าต่างชาติเลย มีหนัง CG หรือหนังเมืองนอกที่ใช้ CG บ้านเราทำ เราว่ามันสุกงอมพอที่จะไปด้วยกันได้ แค่อาศัยการเล่าเรื่องที่เป็นของเรา 

สงสัยว่าทำไมคนชอบมองหนังไซไฟเป็นของแสลง ทั้งที่เราอยู่กับสิ่งเหล่านี้มาโดยไม่รู้ตัว เช่น เรื่องผี พญานาค ก็เป็นทั้งไซไฟและสัตว์ประหลาด

ใช่ ไซไฟกับผีมีการเล่าเรื่องเหมือนกัน คือการสำรวจเขตแดนที่เราไม่รู้จัก ผีคือการมีอะไรไม่รู้ก๊อกแก๊กในบ้าน เล่นกับความกลัวของคนจนนำไปสู่คำตอบบางอย่างที่เหนือธรรมชาติ ไซไฟก็มีแสงสว่างว็อบแว็บรำไร ตัวละครพยายามตามหาความจริงแต่ถูกอะไรไม่รู้ลักพาตัวไป 

คำว่าของแสลงคือคนขี้เกียจทำความเข้าใจ คนไทยไม่ชอบหนังไซไฟเพราะต้องอธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ ไม่ชอบหนังกีฬาเพราะต้องอธิบายกติกา เขาอยากมาดูความบันเทิง เราต้องก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ไปด้วยการรีบทำให้เขาเข้าสู่หนังเร็ว ๆ 

วิธีย่อยหนังให้ส่งถึงคนดูได้ง่ายที่สุดของคุณคืออะไร

หนังเรื่องนี้มีเส้นเรื่องตัวละคร มีวิทยาศาสตร์อธิบายปรากฏการณ์แปลกประหลาดที่เกิดขึ้น มีประวัติศาสตร์ที่อธิบายอีกว่าทำไมวิทยาศาสตร์ถึงมาเกิดขึ้นที่นี่ ทั้งหมดจะขมวดรวมกันแล้วนำไปสู่หนังทั้งเรื่อง

ตอนเขียนก็อธิบายมันไปหมดเลย บทเราหนาประมาณ 100 หน้า ตอนถ่ายก็ทำความเข้าใจกับนักแสดง พยายามถ่ายตามบทให้เที่ยงตรงที่สุด หนังถ่ายเสร็จยาว 3 ชั่วโมงกว่า แล้วเราก็มานั่งดูว่าอะไรที่ไม่ต้องรู้ก็ได้ อะไรที่จำเป็นต้องรู้ อะไรที่ไม่แน่ใจ อาศัยการตัดต่อช่วย ทำให้หนังเหลือ 2 ชั่วโมง 26 นาที ทำยังไงดี ยังยาวอยู่เลย (ส่งเสียงโหยหวน)

แสดงว่าคนทำงานก็ต้องเข้าใจภาพเดียวกันกับคุณ

ใช่ แต่ถ้าคุณไปสัมภาษณ์ดาราคนอื่น ๆ เขาจะบอกว่าไม่เข้าใจนะ (หัวเราะ) ยื่นบทให้ดาราอ่านเขาก็ไม่เข้าใจ มานั่งเจอกันก็ไม่เข้าใจกันไปใหญ่ แต่ท้ายที่สุดทุกคนไว้ใจพี่มะเดี่ยว ทั้งดารา ทีมงาน ทีม CG ทีมถ่ายทำ ปล่อยให้อีมะเดี่ยวทำไป 

1 วันของการถ่ายคือการบอกว่าวันนี้เราจะถ่ายอะไร ไปเห็นห้องเขียว ๆ แล้วชี้ว่าตรงนี้มีประตู มีเครื่องจักร เราไม่ค่อยบรีฟนักแสดงมาก ไม่ให้เขาเห็นตัวประหลาดต่าง ๆ ด้วยซ้ำ ใครขอดูก็ไม่ให้ดู (หัวเราะ) 

เขาจะรีแอคกับสิ่งที่เขาไม่รู้ได้ยังไง

เพราะสิ่งที่เขาเห็นในหนังก็เป็นสิ่งที่เขาไม่รู้เหมือนกันไง 

เรากำกับการแสดงมาประมาณหนึ่ง ถ้าเขารู้ว่าสัตว์ประหลาดสูง 6 ฟุต มีเขา มีหาง เขี้ยวยาว เขาจะดีไซน์ แต่ถ้าเขาไม่รู้ เขาจะมีความพิศวงในแววตา ซึ่งนี่แหละคือสิ่งที่ต้องการ 

การเป็นหนังที่ได้ฉายในโรงภาพยนตร์ IMAX ทำให้คุณทำงานเปลี่ยนไปไหม 

โอ้โห พอทุกอย่างใหญ่ แม้แต่แอคติ้งแค่ขยับตานิดเดียวเราก็เห็น จะมีประโยชน์อะไรถ้า CG สวยงามแต่นักแสดงบ้ง ขึ้น IMAX ขยาย 4 เท่าก็ยิ่งหนักกว่าเดิม 

เรามีความฝันตั้งแต่แรกว่าชีวิตหนึ่งจะต้องทำหนังแล้วได้ขึ้น IMAX เพราะเราดู IMAX ตั้งแต่เริ่มต้นเข้าวงการ แล้วประสบการณ์นั้นยิ่งใหญ่มาก สั่งสมวิธีคิดของผู้กำกับว่าเขาทำยังไง Avatar มีวิธีการวางภาพแบบนี้ คริสโตเฟอร์ โนแลน ก็ถ่าย The Dark Knight แบบหนึ่ง ถ่าย Interstellar แบบหนึ่ง Oppenheimer ก็ใช้ IMAX คุ้มมากแม้ไม่ใช่หนังบู๊ด้วยซ้ำ เขามีวิธีการใช้สื่อเล่าหนังได้น่าสนใจ เราก็เก็บประสบการณ์มาแล้วจินตนาการตลอด 

พอทั้งสำนักงานใหญ่ของ Warner Bros. และ IMAX ตอบรับมา เราโคตรดีใจที่หนังเราได้รับการยอมรับในระดับสากล แต่ก็ต้องคุมคุณภาพ CG จนเลื่อนหนังไป 2 รอบ เป็นบทเรียนว่า ถ้าจะทำหนัง CG ต้องรัดกุมกว่านี้ อย่าทะลึ่งไปบอกใครว่าอีก 3 เดือนเสร็จ มันไม่เสร็จหรอก (หัวเราะ) 

คุณไม่ได้เพิ่งสนใจหนังไซไฟ แต่หนังส่วนใหญ่ของคุณมักมีความเหนือธรรมชาติซ่อนอยู่เสมอ

จินตนาการเป็นจุดที่คนจะเอาตัวเขาเองใส่ไปในหนัง กลมกลืนไปกับหนัง ถ้าบอกหมดทุกอย่างมันก็ไม่น่าสนใจอีกต่อไป 

การดูเฉย ๆ ก็เหมือนกินข้าวที่คนป้อน แต่จินตนาการทำให้เรามีเรื่องคุยกันต่อ แล้วหนังจะสถิตอยู่ในใจ ในสมองของคุณ 

เหมือนที่คนยังคอยถามว่า จูน (รับบทโดย พลอย เฌอมาลย์) ใน รักแห่งสยาม หายไปไหน

(หัวเราะ) ใช่ มันเป็นสัจนิยมมหัศจรรย์ 

ทำไมหนังไซไฟของคุณถึงต้องเล่าเรื่องผ่านความสัมพันธ์

มันก็เลยกลายเป็นสิ่งที่แปลกใหม่ล่ะมั้ง ในทางกลับกัน ไม่ว่าจะเรื่องอะไร มันคือการเล่าผ่านคน เราอยากเห็นว่าเขาจะต่อสู้กับชะตากรรมยังไงจนจบเรื่อง 

หนังไซไฟส่วนใหญ่คนจะมองว่าเป็นหนังผู้ชาย ไปทะยานดาวกู้โลก ช่วยลูกช่วยเมีย แต่ ตาคลี เจเนซิส เป็นอีกมุม พอลล่าเป็นผู้หญิงธรรมดา มีปมเรื่องพ่อหายไป แม่ก็ไม่เชื่อ คนในหมู่บ้านก็ประนามว่าเป็นลูกเมียเช่า ไม่ประสบความสำเร็จสักอย่าง อยู่มาวันหนึ่งโดนไล่ออกจากงาน แล้วกลับบ้านไปหาแม่ที่ไม่สบาย แต่อดีตเก่า ๆ ก็ตามมาหลอกหลอนผ่านวิทยุสื่อสารที่พ่อเคยมอบให้ จนเกิดเป็นการค้นหาพ่อ หรือสรุปคือผู้หญิงธรรมดา ๆ ที่ตามแก้ความฉิบหายที่ผู้ชายก่อเอาไว้

ทุกจุดในหนังมีผู้หญิงปรากฏอยู่เสมอ เราไม่ได้ตั้งใจให้เป็น Girl Power แต่หนังมีความเป็นแม่ แล้วความเป็นแม่นี่แหละที่เป็นพลังของจักรวาล พอนักแสดงหญิงหลายคนรวมตัวกันเล่นบทบาทความเป็นแม่ เมีย ลูกสาว จึงดูยิ่งใหญ่กว่าความไซไฟทั้งหมดอีกนะ

เพิ่งรู้มาว่าสัญญาของหนังเรื่องนี้ถูกส่งมอบในงานศพ

(หัวเราะ) ใช่ ส่งมอบให้ พี่อ้วน (โปรดิวเซอร์จากค่ายเนรมิตรหนัง ฟิล์ม) ในงานศพของ พี่โจ๊ก โปรดักชันดีไซเนอร์คู่ใจตั้งแต่เริ่มทำซีรีส์ปี 2014 

คิดว่าเหตุการณ์นั้นบอกอะไรคุณ

ชีวิตกูถึงเป็นตลกร้ายนั่นไง (หัวเราะ) มันมีอะไรแบบนี้เกิดขึ้นเรื่อย

อะไรทำให้คุณเป็นผู้กำกับที่ใจกว้าง ทำหนังได้หลายแนว ยอมรับเด็กรุ่นใหม่ แถมยังไม่ปิดกั้นเทคโนโลยี 

คงเป็นความเป็น LGBTQ ที่ผ่านโลกที่ไม่ได้รับการยอมรับมาก่อน

เราต้องสำรวจทุกสิ่งอย่าง เพราะเรารู้ว่าการถูกปิดประตูใส่เป็นยังไง พอประตูบานนั้นเปิดแล้ว เราก็เปิดรับความคิดอื่น ๆ เปิดรับความเห็นที่ไม่เหมือนเรา ได้รู้ว่าโลกนี้ทำงานยังไง วิธีคิดเป็นยังไง

พอเราไม่ถูกยอมรับ เราก็ไม่อยากเป็นแบบนั้นกับใครอีก 

เจ้าพ่อ IT อย่างคุณมองความรักสมัยใหม่เปลี่ยนไปไหม

ความรักยังมีเหมือนเดิม แต่ความละเอียดอ่อนของคนยุคนี้อาจน้อยลง เมื่อก่อนเรามีเวลาเรียนรู้ สัมผัสความละเอียดอ่อนก่อนเราตกลงปลงใจกัน ตอนนี้เล่นแอปฯ แป๊บหนึ่งก็ได้แล้ว ความรักถูกด้อยค่าลง สิ่งอื่นถูกนำมาทำให้รู้สึกว่าสำคัญมากกว่าในสังคมทุนนิยม เงินกับความรักเลือกอะไรล่ะ 

เราเชื่อว่าความรักหรือสิ่งที่ให้กันโดยไม่มีเรื่องผลประโยชน์มาเกี่ยวข้องยังมีอยู่นะ เป็นสิ่งที่เรายังให้คนอื่นได้อยู่ ยังสอนลูกสอนหลานว่าอยากเป็นมนุษย์แบบนี้ได้ ไม่ได้บอกว่าความรักชนะทุกสิ่ง แต่ความรักสำคัญ สิ่งเหล่านี้ต้องใช้ประสบการณ์ชีวิตในการไปพบเจอมัน

คุณที่ผ่านประสบการณ์ความรักมาอย่างโชกโชน ดีไซน์ความรักในหนังเรื่องนี้ยังไง

ลึกซึ้งและยิ่งใหญ่ สุดท้ายหนังเราจะกลับไปสู่มวลของความสัมพันธ์และการเรียนรู้จากตัวตนอยู่ดี 

บางเรื่องเล็กน้อยเราก็เรียนรู้จากการเป็นเจ้านาย ที่ผ่านมาเราก็สุดแสนจะดุ เกรี้ยวกราด คำพูดฝังใจคนที่เราเคยด่าจนทำให้ชีวิตเขาพัง กว่าจะเคลียร์กันได้ต้องใช้เวลาประมาณหนึ่ง หรือสำรวจตัวเองว่าเราคงได้รับการส่งต่ออะไรบางอย่างในชีวิตให้ติดกับเรื่องนี้ ทำไมแม่ถึงจำเรื่องเล็กน้อยของตัวเราในอดีตได้ทั้งที่เราลืมไปแล้ว นั่นเพราะเราสำคัญกับใครสักคน อย่าไปคิดว่าเราไม่สำคัญ และการส่งต่อความคิด ความรู้สึก ความทรงจำ จะไปรอเราในอนาคตเสมอ 

ถ้ามีเทคโนโลยีอย่างไทม์แมชชีนเกิดขึ้นจริง คุณจะเลือกข้ามไปดูอนาคตหรือย้อนอดีตเพื่อแก้ไขบางอย่าง

เราเคยคิดกับตัวเองและเคยคิดกับตัวละคร (หัวเราะ) เคยคิดขำ ๆ ว่าถ้าได้กลับไปในอดีตกูจะเอาโพยหวยไป ทำทุกวิถีทางให้ร่ำรวย แต่ถ้าเกิดขึ้นได้จริงเราคงย้อนกลับไปหาแฟนที่ตาย ย้อนกลับไปหาพ่อเพื่อแก้ไขบางช่วงเวลาที่ผิดพลาด แต่คำถามต่อมาคือทั้งหมดจะช่วยอะไรเราในวันนี้ได้จริงเหรอวะ กูจะเจอกับอะไรในอนาคต แล้วจะตั้งรับยังไง 

ถ้าถามความรู้สึกตอนนี้คือโชคดีนะที่ไม่เกิดขึ้น ปัจจุบันเลยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

น่าคิดตรงที่คนชอบเทคโนโลยีมาก แต่อยากอยู่กับปัจจุบันมากกว่า

อืม ใช่ เวลาและความสัมพันธ์ที่เรามีให้ใครต่อใครสำคัญมาก เราจะใช้มันอย่างระมัดระวัง

เราไปรับเด็กมาเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม มันใสซื่อมาก บางคนเคยมีเรื่องฝังใจในอดีต เราจะทำยังไงให้เขาลืมสิ่งนั้นแล้วมูฟออนต่อไปได้

กับคนรักคุณก็ดูแลจนวาระสุดท้าย การรับเลี้ยงเด็กก็เป็นการดูแลชีวิตคนคนหนึ่ง หน้าที่ที่ต้องดูแลคนอื่นสำคัญยังไงกับชีวิตคุณ

ถ้าเราไม่มีใครให้ดูแลหรือเราไม่มีความหมายกับใคร ชีวิตก็คงโคตรจะว่างเปล่าเลย

เคยมีความรู้สึกช่วงที่อยู่เฉย ๆ ไม่มีใครเข้ามาว่าไม่รู้จะอยู่ไปทำไม ไม่ได้อยากตายนะ เรามีครอบครัวดี มีแม่ มีพี่สาว มีคนรายล้อมที่ดูแลตัวเองได้ ทุกคนใช้ชีวิตปกติ แต่มันปกติเกินไป (หัวเราะ) บ้านข้าง ๆ ตอนงานปีใหม่มีเด็กวิ่งเจี๊ยวจ๊าว มีชีวิตชีวา แม่เราก็ชีวิตดี แต่นางจะอยู่กับเราไปได้กี่ปี แล้วกิจวัตรที่ทำกับผู้สูงอายุไม่มีอะไรหวือหวา ชีวิตเราก็จะเอื่อยเฉื่อย เราอยากสร้างความทรงจำใหม่ ๆ 

ใครจะเป็นคนดูแลคุณ

เราเชื่อว่าเราดวงบริวารดี คนที่อยู่ด้วยกันในบริษัททำงานมา 10 – 20 ปีด้วยซ้ำ แต่เรากลับไม่ได้มองว่าจะให้ใครมาดูแล ไม่ได้คิดหรอก อาจจะคิดว่าอายุ 50 กว่าแล้วตายไปเลย จะได้ไม่ต้องเป็นภาระใคร (หัวเราะ) เราเอนจอยกับชีวิตที่ไม่เคยห่างหายจากคน ไม่เคยเหงา 

คุณได้อะไรกลับมาจากการเลี้ยงเด็กบ้าง

ได้ความหวังในชีวิต ได้ส่งต่อความรู้ พ่อ พี่ทราย เจริญปุระ ก็เป็นผู้กำกับ ทุกวันนี้พี่ทรายก็เป็นนักแสดงคุณภาพ มีคุณูปการต่อวงการ มันคือสิ่งเหล่านี้มั้งที่เขาจะมอบให้เราได้ คือความภาคภูมิใจ ความรู้สึกที่ได้ทำอะไรสำเร็จสักอย่าง ความรู้สึกที่เรามีประโยชน์กับใครสักคน

อะไรทำให้มะเดี่ยวมีหนังตลอด ไม่ขาดหายไปจากวงการ ถ้าเทียบกับผู้กำกับอื่น ๆ ที่ 5 ปีจะมีหนังสักเรื่อง

ขยัน! (หัวเราะ) เราคงไปทำมาหากินอาชีพอื่นไม่ได้แล้ว เราขายคอนเทนต์ เราเป็นนักเล่าเรื่อง นอกจากทำหนังตัวเองเราก็ทำหนังให้คนอื่น ขายโปรเจกต์ทุกปี รัก โศก ตลก บู๊ ผี ซีรีส์ ละคร หนัง เดินขายของตามบริษัทต่าง ๆ เก็บข้อมูลไว้ติดตามความเคลื่อนไหวของวงการ แล้วใจเราคือรักการเล่าเรื่อง สุดท้ายเวลาคนซื้องานเรา เขาซื้อสตอรีเราด้วย

คิดว่าเป็นหน้าที่ของผู้กำกับไหมที่ต้องสร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ หรือชี้นำสังคมอยู่ตลอด

สร้างสรรค์อะไรใหม่ ๆ ควรทำอยู่แล้ว แต่การชี้นำสังคมเมื่อ 10 ปีก่อนตอนไม่มีลูกกับทุกวันนี้มันคนละเรื่องเลย 

แต่ก่อนคือทำไมต้องเป็นหน้าที่กู พ่อแม่อยู่ไหน แต่พอเราได้คลุกคลีกับเด็ก เราเห็นเลยว่าสื่อมีอิทธิพลต่อการรับรู้ของเด็กจริง ๆ บางอย่างที่เขาเห็นว่ามันอยู่ในสื่อได้ เขาก็คิดว่าทำได้ ตอนนี้เราเป็นห่วงเรื่องความรุนแรง ขณะที่เราก็ทำหนังฆ่ากันอยู่ (หัวเราะ) เวลาจะให้ลูกดูอะไรก็ต้องอธิบาย เรามีส่วนต้องรับผิดชอบ แล้วเรากำลังจะกลายเป็นคนแก่ที่น่าเบื่อ 

Clint Eastwood กำกับหนังจนถึงอายุ 80 มะเดี่ยวอยากเป็นแบบนั้นไหม

ทุกวันนี้คือออกกองที่ไหนก็ได้ที่มันไม่ร้อนอะมึง (หัวเราะ) 

เรายังอยากสำรวจหนทางใหม่ ๆ อยู่เหมือนกัน หนังรัก หนังผี หนังไซไฟ ทำมาหมดแล้ว อาจจะเหลือหนังแอคชันจริงจังอีกอัน ชีวประวัติอีกอัน ก็คงหมดเรื่องที่จะทำแล้วมั้ง แล้วสักพักคงกลับไปทำอาชีพเก่าคือการเป็นนักดนตรี นักแต่งเพลง

นักเล่าเรื่องยิ่งแก่ ยิ่งประสบการณ์เยอะ ถ้าเรื่องที่เล่ายังทำให้เด็กรุ่นนี้ฟังแล้วตาเป็นประกาย ก็คงเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้เราทำสิ่งนี้ต่อไปได้

ถึงวันนั้นแล้วคุณจะยังกำกับหนังด้วยมือหรือใช้คอมพิวเตอร์

ถามเราตอนนี้ คงไม่ใช้คอมพิวเตอร์ 

เราลองใช้ AI มาหมดแล้ว รีวิวให้ได้ ทั้งเขียนบท ทำวิดีโอ แต่งเพลง ยังไม่ถึงจุดที่เวิร์ก แต่ทุกวันนี้ก็น่ากลัวจะแย่อยู่แล้ว ความสามารถในการเขียนของมันทดแทนผู้ช่วยนักเขียนได้เลยนะ แต่ในการขึ้นไอเดียใหม่ ๆ ยังไม่ดีพอ 

AI เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่แล้ว สังเคราะห์ขึ้นมาเป็นไอเดียที่น่าจะทำให้เราพึงพอใจ แต่การเรียนรู้ของมนุษย์ซับซ้อนมาก วันนี้เรามานั่งคุยกัน เรียนรู้อะไรจากกันและกัน แล้วประสบการณ์ก็สังเคราะห์ออกมาเป็นไอเดียก้อนหนึ่ง เป็นบทความที่คุณเขียน เป็นโพสต์ที่เราโพสต์ เป็นหนังที่เราสร้าง มันคือผลงานที่มีจิตวิญญาณอยู่ในนั้น

Writer

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

นักอยากเขียน บ้านอยู่ชานเมือง ไม่ชอบชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้ มีคติประจำใจว่าอย่าเชื่ออะไรจนกว่าหมอบีจะทัก รักการดูหนังและเล่นกับแมว

Photographer

มณีนุช บุญเรือง

มณีนุช บุญเรือง

ช่างภาพสาวประจำ The Cloud เป็นคนเชียงใหม่ ชอบแดดยามเช้า การเดินทาง และอเมริกาโน่ร้อนไม่น้ำตาล