การเดินทางมาประเทศอังกฤษของเราในรอบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ มันเกิดขึ้นจริงๆ หรือฝันไป
ถุย!! นี่คือการเดินทางมาประเทศอังกฤษรอบแรกของเรา จุดมุ่งหมายในครั้งนี้คือการมาถ่าย Pre-wedding ให้กับเพื่อนสนิทของเรา ‘ชะนีพีชชี่ & สตีเฟ่นโอปป้า’ ยูทูเบอร์ชื่อดัง

ทริปนี้เกิดขึ้นอย่างปุบปับมาก (มีเวลาเตรียมตัว 10 วัน รวมระยะเวลาทำวีซ่า) ทำให้เราแทบไม่มีการเตรียมพร้อมหรือทำแพลนกินเที่ยวใดๆ เลยลองไปถามพี่ๆ ในวงการกาแฟดูว่ามีร้านไหนที่น่าสนใจบ้าง จนเกิดเป็น ‘คาเฟ่ในลอนดอน 5 ร้าน จากคำบอกเล่าของคนกาแฟ 5 คน’

01

Shoreditch Grind

จากคำบอกเล่าของ @kaizencoffeeco

ชื่อ Grind นี่แทบจะเป็นชื่อร้านแรกที่ทุกคนเอ่ยปากแนะนำเราเลยก็ว่าได้ จริงๆ แล้ว Grind มีหลายสาขามาก แถมแต่ละสาขาก็จะตั้งชื่อตามย่านที่ร้านตัวเองไปเปิดอยู่ เช่น Shoreditch Grind
พี่โบ พี่เคน และแพรว สามสมาชิกหลักจากร้าน Kaizen Coffee ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เราน่าจะชอบกาแฟของที่นี่นะ แถมยังตั้งอยู่ในย่านฮิปสเตอร์ของกรุงลอนดอนอีกต่างหาก ไม่ไปไม่ได้แล้วล่ะ!!

บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างอบอุ่น เพราะอุณหภูมิวันนั้นไม่ค่อยต่างจากกรุงเทพฯ เท่าไหร่เลย

พอเรามายืนอยู่ตรงหน้าบาร์แล้ว เสียงทีม Kaizen ที่อยู่ในหัว ทำให้เรามั่นใจว่าต้องสั่งเอสเพรสโซ่เท่านั้น แต่สิ่งที่ได้มาคือ Smashed Avocado ที่อร่อยมากกก!!

อ้อ ได้เอสเพรสโซ่กลับมาด้วยสิ!! เราว่ากาแฟของที่นี่คั่วออกมาได้กำลังดี ตัวที่เราลองเป็นเมล็ดคั่วกลาง แต่จำชื่อไม่ได้ มันจะมีความหวานอมเปรี้ยวอยู่กลายๆ บอดี้เบา แถม aftertaste ยังเป็นช็อกโกแลตอีกต่างหาก

02

Ozone Coffee Roasters

จากคำบอกเล่าของ @rodeo_tae บาริสต้ามาดกวนจาก RootsBKK ที่วันเที่ยวเยอะกว่าวันลา

ร้านนี้อยู่ห่างจาก Shoreditch Grind ไม่ถึง 2 นาที แต่จำไม่ได้ว่ากี่ก้าว พอเดินมาถึงก็พบกับบรรยากาศที่เงียบสงบตรงหน้าร้าน ทำให้เราอุ่นใจกับคำบอกเล่าที่ว่า ร้านนี้คิวยาวมาก!!

บรรยากาศนั่นแหละที่หลอกลวง เพราะคิวเขาตั้งกันอยู่ในร้าน!! รอกันไปสิ 15 นาทีกว่าจะได้โต๊ะ หลังจากนั้นเราก็ไม่รอช้า สั่งกันอย่างปอบลงเหมือนไม่ได้กินอะไรกันมาก่อน
สิ่งที่ดีที่สุดในร้านนี้คือ Omelette ถึงแม้ภายนอกจะเหมือนไข่เจียวที่ไหม้นิดๆ แต่ไส้ด้านในคือ ฟินมาก เพราะเขาตั้งใจเรียงให้ทุกการหั่นทำให้เราได้รับรสที่ต่างกัน ทานคำแรกจะโดนแซลมอน คำที่สองเป็นผักโขม มันหวาน และแครอทอบ ไฮไลต์คือมันหวานนี่แหละ มันหวานเป็นเหมือนกาวเชื่อมรสชาติของทุกอย่างให้เข้าด้วยกัน

ทานไปเพลินๆ ก็นึกถึงสิ่งที่พี่เต้บอกกับเราว่า อยากให้เราลองลาเต้เย็นแบบลอนดอนที่แท้ทรู

อะ!! ไหนๆ พี่เขาก็แนะนำมาแล้ว ลองดูก็ได้

ดื่มไปคำแรกถึงกับร้องโอ้โห โอ้โห!! นี่กาแฟหรืออะไร ทำไมขมเช่นนี้!!? แล้วหลังจากกาแฟแก้วนี้ กาแฟที่ว่าขมในลอนดอนก็ทำอะไรผมไม่ได้อีกเลย

03

Department of Coffee and Social Affairs

จากคำบอกเล่าของ @nuttnutty ฮอปเปอร์สาวคนสวย ที่ยังโสดอยู่ได้ไงก็ไม่รู้

อะไรดลใจให้เราลองหาชื่อร้านนี้ใน Google ดูก็ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ คือร้านสวยมาก เพราะเป็นร้านเล็กๆ มืดๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในตึกกระเบื้องสีเขียวนั่นเอง

พี่นัทบอกกับเราว่า พี่นัทไม่ได้ไปร้านนี้ แต่เจอตอนหาข้อมูลไปเที่ยว เลยเอาลิสต์มาให้เราเลือกดู ซึ่งจริงๆ แล้วถ้าไม่ได้ลิสต์คาเฟ่จากพี่นัท เราก็คงเก็บได้ไม่เยอะขนาดนี้หรอก กราบงาม!!

ด้วยความที่ยังไม่มีใครเคยไปรีวิว แถมเราก็ไม่เชื่อใจดาวใน Google เลยขอเริ่มต้นที่ลาเต้ร้อน ส่วนเมล็ดที่เลือกมาจะเป็นเมล็ดโคลอมเบีย ตามคำแนะนำของพนักงานสาวที่ทำให้เราหลง เพราะเธอบอกทางไปห้องน้ำผิด ถุย!! เธอบอกว่า เธอชอบเมล็ดนี้นะ มันทานง่าย และมีความเป็นช็อคโกแลตมาก

ซึ่งมันก็จริงของเธอ เพราะมันโคตรช็อกโกแลตเลย แถมมีติดเปรี้ยวนิดๆ ด้วย ส่วน aftertaste คือหอมมากๆ แต่เราก็กินไม่หมดหรอก เพราะโดนเพื่อนขอชิมแล้วก็เดินหายไปเลย ทำให้เราต้องเดินกลับไปซื้อใหม่อีกแก้ว แต่รอบนี้เป็นเอสเพรสโซ่แทน ซึ่งมันก็ดีไม่แพ้กันเลยแหละ อร่อยน้ำตาไหลมาก

04

Workshop Coffee

จากคำบอกเล่าของ @missymys สาวนักการตลาดสุดแซ่บจาก Nespresso Thailand

ร้านนี้เกิดจากบังเอิญเดินผ่านตอนที่ร้านปิดแล้ว เลยอยากลองกลับมาอีกในวันถัดไป เพราะมองทะลุกระจกเข้าไปแล้วร้านสวยมาก

วันรุ่งขึ้นจึงไม่รอช้า รีบกลับไปที่ร้านนี้อีกครั้งพร้อมถ่ายรูปหน้าร้านมาลง IG Story บังเอิ๊ญ เพื่อนมายของเราเห็นเข้า แล้วพิมพ์ตอบกลับมาว่า “ร้านนี้ดี!!” นั่นก็ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับเราในการสั่งเขาไปอีก แต่ด้วยอากาศของวันนั้นกลับมาร้อนอีกแล้ว จึงเป็นไฟลท์บังคับให้เราต้องสั่งลาเต้เย็น ซึ่งมันก็ดีมากจริงๆ เพราะที่ร้านนำกาแฟไป shake กับน้ำแข็งแล้วค่อยนำมาเสิร์ฟ ดูดไม่ถึงนาทีก็หมด เพราะรู้สึกเหมือนว่ากำลังดื่มนมที่แช่คอร์นเฟลกส์อยู่ เวลาหายใจออกมากลิ่นมันก็เป็นแบบนั้นเลยแหละ

แล้วเราก็พูดตามเพื่อนมายว่า ร้านนี้ดี!!

05

Paper Mache Tiger

จากคำบอกเล่าของ @olvh ฮอปเปอร์หนุ่มมาดเท่ชาวอังกฤษ

การที่เราเห็นร้านเปิดใหม่ระหว่างความเร่งรีบภายในทริปมักไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ แต่ร้านนี้ทำให้เราต้องเปลี่ยนแพลนที่จะไปกินวาฟเฟิลเจ้าเด็ด มาฝ่าลมฝนเพื่อไปถ่ายรูปร้านแทน ตัวร้านตั้งอยู่ในย่าน Angel ซึ่งถือว่าค่อนข้างไกลจากโซนที่เราอยู่

ความพีกก็คือ ตั้งแต่เดินออกจากสถานีรถไฟใต้ดิน ก็พบกับร้านกาแฟมากมาย นับรวมกันก็ได้เกือบ 10 ร้าน ซึ่งร้านที่เรากำลังจะไปนั้น อยู่ไกลที่สุด!!

ความพีคต่อมาคือ จากที่เราเห็นบรรยากาศร้านและการรีวิวกาแฟของคุณ Oliver ที่อยู่ในระดับที่ดีแล้ว พอไปถึงร้านเราก็รีบสั่งลาเต้ร้อนตามนางทันที พอดื่มคำแรกไป…อื้อหือ ขมมากเลยอะ คิดในใจว่าจะทำยังไงไม่ให้เหลือกาแฟไว้เยอะจนน่าเกลียด เลยเดินวนไปวนมาทำเป็นถ่ายรูป ก็เจอกับขวดน้ำตาล เลยยอมใส่น้ำตาลลงไป ซึ่งก็อร่อยตามที่คุณ Oliver บอกเป๊ะเลย

แต่สิ่งที่ดีงามของร้านนี้คือ เป็นร้านที่สวยมาก (ถ้าวันนั้นฝนไม่ตกนะ) บาร์กาแฟมีความมินิมอลมาก ส่วนโซนขายเสื้อผ้าก็ดูมีความเป็น Margaret Howell เบาๆ

ติดตามรีวิวคาเฟ่ลอนดอนเพิ่มเติมได้ทางเพจ OATKOMKRITCH