เริ่มโหมโรงเทศกาลกาแฟ Thailand Coffee Fest 2019 ด้วยการจัดทริป The Cloud Cafe Hopping : The Signature ขึ้นมาครั้งแรก ทริป 1 วันขนาดกะทัดรัดพาผู้อ่านที่รักในรสชาติและกลิ่นของกาแฟไปตะลุยสัมผัสเครื่องดื่มดีๆ จากคาเฟ่ที่เราเลือกแล้วว่ามีของ

ผู้ร่วมตะลุยชิมกาแฟร่วมกันกับเรามีผู้รักการตามหารสชาติใหม่ๆ ของกาแฟถึง 10 ท่านรวมถึง แป้งโกะ-จินตนัดดา ลัมะกานนท์ นักร้อง นักแสดงสาว ที่รักการไปฮอปปิ้ง ที่เราชวนเธอมาร่วมทริปกินกาแฟกับเราในครั้งนี้ด้วย

เพื่อให้การดื่มกาแฟทั้งวันไม่น่าเบื่อ เราเลยจัดทริปครั้งแรกด้วยคอนเซปต์เครื่องดื่ม Signature หรือกาแฟสูตรพิเศษที่แต่ละคาเฟ่ใส่ความสร้างสรรค์เพิ่มเข้าไปในกาแฟให้เป็นเมนูประจำร้านไม่สามารถหาทานได้จากที่ไหน

แต่ความพิเศษกว่านั้นของทริปนี้ คือกาแฟที่พาไปชิมของแต่ละคาเฟ่ก็ไม่ใช่เมนูที่เขาขายกันปกติในร้าน แต่เป็นเมนูพิเศษที่คาเฟ่ใจดีเหล่านี้เล่นใหญ่คิดขึ้นมาให้ใหม่ทั้งหมด บางเมนูเกิดจากการสร้างสรรค์เพื่อเข้าแข่งขันระดับชาติที่คงมีแต่กรรมการเท่านั้นที่เคยได้ชิม จัดมาเสิร์ฟให้กับทริปนี้โดยเฉพาะ

แต่ละร้านจะงัดสูตรเด็ดอะไรออกมาให้เราชิมบ้าง ไปลองดูกัน

 

 

Factory Coffee – Bangkok

เราเริ่มต้นตอนเช้าวันเสาร์ด้วยกาแฟของคาเฟ่ที่กำลังฮอตที่สุดในตอนนี้เลยก็ว่าได้ Factory Coffee Bangkok เป็นร้านที่เต็มตั้งแต่พลิกป้ายเป็น Open คาเฟ่นี้ได้รับความนิยมจากนักดื่มกาแฟทั้งไทยและต่างชาติ

เวลคัมดริงก์กาแฟเอสเพรสโซช็อตจากไร่แสนชัยเอสเตทถูกเสิร์ฟให้ผู้ร่วมทริปทุกคนเป็นการวอร์มเครื่อง

ระหว่างนั้นทีมบาริสต้าจาก Factory Coffee – Bangkok นำโดย บิว-เศรษฐการ วีรกุลเทวัญ เตรียมเมนู Signature ที่ร้านครีเอตให้ เมนูนี้ชื่อว่า Creamy Lemon กาแฟกับฟองนุ่มเนียนถูกรินลงไปบนน้ำแข็งก้อนกลมใสในแก้วค็อกเทล มวลฟองทบลงทับกันก่อนจะกลืนเป็นเนื้อเดียวในที่สุด เห็นความนุ่มตั้งแต่ดูด้วยตา ก่อนบาริสต้าจะบิดผิวเลมอนให้ละอองน้ำมันหอมระเหยพรมจนทั่วด้านบนสุดของฟอง ถูเปลือกเลมอนกับขอบแก้ว แล้วหย่อนตกแต่งไว้บนสุดเป็นอันเสร็จ

เมื่อยกดื่มสัมผัสแรกที่ได้คือกลิ่นหอมของเลมอน จิบครีมที่แน่นจนเกือบต้องงับเป็นคำแทนการดื่มให้ไหลลงคอ จิบจนถึงกาแฟชั้นล่าง กลิ่นหอมหวานของพีชเข้ามาผสมกับเลมอนเมื่อสักครู่ รวมถึงกลิ่นและรสเผ็ดซ่าติดปลายลิ้นจากวัตถุดิบอะไรบางอย่าง แก้วนี้ให้ความรู้สึกสดชื่นในทันที

บิวเล่าให้ฟังว่าแก้วนี้คิดขึ้นเพื่อให้คนกินกาแฟเข้าใจรสชาติของกาแฟแบบง่ายๆ ว่ารสที่แท้จริงของกาแฟสามารถมีรสหวาน เปรี้ยว และเกิดซับซ้อนได้แบบรสที่อยู่ใน Signature เพราะกาแฟเป็นผลไม้รสเปรี้ยวจึงมีความเป็นกรดอยู่บ้าง แต่ต้องทำให้ดื่มง่ายเพื่อให้คนรู้สึกคุ้นเคยเลยใช้กาแฟเอสเพรสโซ่สกัดช็อตให้ออกมาดีๆ เป็นส่วนผสมหลัก ผสมพีช และขิง ที่มาของกลิ่นรสเผ็ดซ่าอ่อนๆ บางๆ เมื่อสักครู่ ปั่นรวมกันให้เกิดโฟมแน่น บิวบอกว่า อยากให้ความรู้สึกดื่มง่ายเหมือนสัมผัสที่ดื่มกาแฟนม แต่ไม่ใช้นมเลยสักหยด ความหอมหวานของพีชจะเชื่อมรสชาติของกาแฟทั้งแก้วให้เข้ากัน ใส่ขิงเพื่อความซับซ้อน ก่อนจะปิดด้วยกลิ่นเปรี้ยวสดชื่นของเลมอน

คอนเซปต์ของ Creamy Lemon มีจุดประสงค์เดียวกันกับ Signature ทั้งหมดของ Factory Coffee – Bangkok คืออยากให้คนได้เข้าใจกาแฟมากขึ้น แต่การจะให้ทุกคนเข้ามาชอบกาแฟ เข้าใจกาแฟว่ามีความซับซ้อนของรสชาติมากกว่ารสขมนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เลยใช้วิธีคิดเมนูที่ดื่มง่ายก่อน บางเมนูเหมือนหลอกล่อให้คนดื่มอะไรอร่อยๆ แต่จริงๆ แล้วพวกเขากำลังสร้างความเข้าใจและให้คนเปิดใจกับรสอื่นๆ ของกาแฟที่มีมากมาย

 

93 army coffee

จากพญาไทมาถึงกล้วยน้ำไทโดยใช้เวลาไม่นานก็ถึง 93 army cafe คาเฟ่ที่ขนาดไม่ใหญ่ จุลูกทริปจำนวนกะทัดรัดของเราพอดี ชื่ออาร์มี่และดีไซน์ร้านเป็นฐานทัพไม่ใช่เพราะความเท่อย่างเดียว แต่มีที่มาจาก ลิซ-ชไมพร เจริญทั้งสมบัติ เจ้าของร้านที่เป็นลูกหลานของทหารกองพล 93 หน่วยทหารจากจีนใหญ่ของพรรคก๊กมินตั๋ง ที่ร่วมกับทางการไทยต่อต้านคอมมิวนิสต์ไนอดีต จนได้รับพระราชทานที่ดินและตั้งรกรากที่ดอยผาตั้ง จังหวัดเชียงราย และใช้ที่ดินนั้นปลูกกาแฟ ลิซได้นำ 2 สิ่งสำคัญของต้นตระกูลคือทหารและกาแฟมารวมกันจนกลายเป็น 93 army cafe

เมนูที่ลิซคิดขึ้นใหม่ให้กับชาวทริปมีชื่อว่า ‘Mocha Brew’ ซึ่งประกอบไปด้วยกาแฟจากดอยผาตั้งเป็นส่วนผสมหลักในเมนู และเมื่อเป็นมอคค่าเลยต้องมีส่วนผสมของช็อกโกแลต ลิซให้ความสำคัญของรสชาติแท้ๆ ของกาแฟมาก จึงให้ความสำคัญกับรสของช็อกโกแลตเช่นกัน

เลยได้ความร่วมมือจาก Chocolasia แบรนด์ช็อกโกแลตสัญชาติไทยแท้ที่ทำงานร่วมกันมานาน

ลิซเลือกใช้วิธีสกัดเย็นกับทั้งกาแฟและโกโก้นิบส์ (Cocoa Nibs) เนื้อของเมล็ดโกโก้ผ่านการหมัก การคั่ว และกะเทาะออกมาจนกลายเป็นเกล็ดเล็กๆ ที่จะให้รสชาติที่แท้จริงของโกโก้เลย ทั้งกาแฟ และโกโก้ถูกผ่านกระบวนการสกัดเย็นข้ามคืนได้เป็น Coffee Coldbrew และ Cocoa Nibs Coldbrew เราได้ลองชิมรสของทั้งสองแบบ จะได้กลิ่นและรสเจือจางบางๆ เหมือนดื่มชา

เมื่อเอาส่วนผสมทั้งสองอย่างผสมกัน ได้เครื่องดื่มที่ให้ยังคงมีรสแท้ของทั้งสองอย่าง ลิซโปะด้านบนด้วยครีมชีสขาวนวล ได้รับแรงบันดาลใจจากการทำชาชีส เครื่องดื่มยอดนิยม โรยด้านบนด้วยโกโก้นิบส์ ผงโกโก้ และมัทฉะอย่างดีเพื่อคุมโทนสีเขียวน้ำตาลแบบอาร์มี

วิธีการดื่มคือยกจิบ ให้ Coldbrew ด้านล่างไหลรวมกับครีมชีสด้านบน ผสมกันเป็นเนื้อเดียว จะได้รสชาติที่เกิดจากการรวมส่วนผสมทั้งหมด

93 army ยังจัด Army Waffle ขนม Signature ประจำร้านมากินคู่กันกับกาแฟ วาฟเฟิลนี้ได้สูตรแป้งมาจากคาเฟ่ร้านดังที่ลิซไปทำงานสมัยเรียนที่ไต้หวัน สูตรแป้งแน่นๆ นี้เป็นเอกลักษณ์พอๆ กับลายพรางที่เกิดจากการผสมผงมัทฉะอย่างดีเข้าไปด้วย วาฟเฟิลนี้จะต้องกินคู่กับซอสช็อกโกแลตและคาราเมลที่ลิซภูมิใจนำเสนอสูตรที่ลองผิดลองถูกเพื่อให้ได้ สี รส และกลิ่น คล้ายลูกอมคาราเมลยี่ห้อหนึ่ง

ใครที่อยากลองชิมเมนู ‘Mocha Brew’ ตามไปลองชิมได้เฉพาะในงาน Thailand Coffee Fest 2019 ได้ที่บูทของ Chocolasia มีจำนวนจำกัดด้วยนะ

 

BlueKoff

อิ่มแน่นทั้งกาแฟและขนม แต่ก็ยังฮอปกันไม่หมด คาเฟ่สุดท้ายของทริป เรายกขบวนจากพระราม 4 มาถึง BlueKoff ลาดพร้าวซอย 3

เมื่อเดินเข้ามาในคาเฟ่ BlueKoff นุ่น-ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์  CEO ของ BlueKoff และทีมต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น จัดแจงตกแต่งโต๊ะต้อนรับพวกเราอย่างดี ที่รองจาน ดอกไม้ประดับ ลิสต์อาหารเครื่องดื่มที่เราจะได้กินในวันนี้วางไว้บนจานอย่างสวยงาม สร้างความประทับใจให้กับพวกเราตั้งแต่แรก

BlueKoff ไม่ได้เรียกตัวเองว่าเป็นคาเฟ่ เพราะที่จริงแล้ว BlueKoff เป็นผู้จำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับกาแฟตั้งแต่เครื่องชง อุปกรณ์ชงกาแฟ จนไปถึงเมล็ดกาแฟมีลูกค้าเป็นคาเฟ่มากมาย ถ้าหากทำร้านขึ้นมาก็เหมือนไปแข่งกับลูกค้าของตัวเอง

บรรยากาศที่ดูเหมือนคาเฟ่ที่จริงแล้วเป็นห้องทดลองมากกว่า BlueKoff ใช้ที่นี่เพื่อแสดงการใช้เครื่องและอุปกรณ์ ทดลองทำเมนูใหม่ๆ จากสินค้าเพื่อทดสอบคุณภาพ และแสดงตัวอย่างให้ลูกค้าเห็น ทำให้เกิดเมนูสนุกๆ หลายเมนู

เมนู Signature ที่ BlueKoff จัดให้เราวันนี้เป็นเมนูพิเศษถึง 3 เมนู! แรกสุดมีชื่อว่า ‘The Signature no.5’ เมนูนี้มีความพิเศษเพราะเป็นเมนู Signature Drink ที่ BlueKoff ใช้ในการแข่งขัน Thailand Barista Championship ปี 2018 และคว้ารางวัลอันดับที่ 5 มาได้ หลังจากการแข่งขันเมนูนี้ยังไม่เคยมีใครเคยได้ชิมอีกเลย ทริปของเราจะเป็นกลุ่มแรกที่ได้ลองชิม

‘The Signature no.5’ ใช้กาแฟ Ethiopia Yergachef Guji Alice แปรรูปด้วยวิธีการยีสต์โปรเซส คาแรกเตอร์ของกาแฟจะมีกลิ่นดอกไม้ ผลไม้ และมีความหอมหวาน เป็นส่วนผสมหลัก ผสมกับซอสมะม่วงน้ำดอกไม้สกัดเข้มข้น ชาดอกหอมหมื่นลี้ออร์แกนิกสกัดเย็น

เมื่อยกดื่มด้วยแก้วไวน์เราจะได้กลิ่นของผลไม้เมืองร้อน ที่น่าแปลกใจคือมีกลิ่นพีชทั้งที่ไม่มีพีชเป็นส่วนผสมในเมนูนี้เลยสักนิด เป็นรสและกลิ่นใหม่ที่ผสมขึ้นจากส่วนผสมทั้งหมดที่ว่ามา

เมนูถัดมาเป็น Cascara Croissant เป็นครัวซองต์ไส้ไข่เค็มแบบพิเศษสุด เพราะแป้งครัวซองต์มีส่วนผสมของคาสคารา หรือเปลือกหุ้มเชอร์รี่กาแฟ ที่ในกระบวนการทำกาแฟนั้นจะต้องทิ้งเปลือกกาแฟจำนวนมหาศาล แต่ BlueKoff คิดที่จะเอาเปลือกที่ต้องทิ้งแบบสูญเสียประโยชน์นั้นมาพัฒนาต่อเป็นอะไรหลายๆ อย่าง หนึ่งในนั้นคือแป้งทำครัวซองต์ ผ่านกรรมวิธีต่างๆ จนได้ครัวซองต์รสอร่อยที่แป้งนุ่มหนึบ ไส้ไข่เค็มลาวาไหลเยิ้ม ทำให้ชาวกลุ่มฮอปเปอร์ที่เหมือนอิ่มท้องกันมาแล้วยังขออีกคนละชิ้นได้สบายๆ

เมนูสุดท้ายที่ BlueKoff จัดเตรียมไว้ให้ และเป็นเมนูสุดท้ายของทริปนี้คือ ‘Valen Pray’ เป็นกับซอสเบอร์รี่ผสมสตรอว์เบอร์รี่ แครนเบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ และแครนเบอร์รี่ผสมกัน กับพรีเมียมช็อกโกแลตที่ผสมจาก 4 แหล่งปลูกเพื่อให้ได้รสของช็อกโกแลตที่เข้ากับเบอร์รี่ คือตาฮิติ เวเนซุเอลา แทนซาเนีย และไอวอรีโคสต์ แต่ละแหล่งจะให้โทนของรสชาติไม่เหมือนกันเลย ที่เด่นๆ คือตาฮิติจะมีโทนเป็นเบอร์รี่และมีความเป็นไวน์

ซอสเบอร์รีจะอยู่ชั้นล่างสุด ตามด้วยนมและซอสช็อกโกแลตด้านบนสุด ตกแต่งด้วยโรสแมรี่ และบลูเบอร์รี่ วิธีการดื่มคือหยิบบลูเบอร์รี่ที่ดิปกับซอสช็อกโกแลตทานก่อน จุ่มก้านโรสแมรี่ลงในแก้ว ใช้ช้อนคนให้ส่วนผสมทุกอย่างเข้ากัน เมื่อดื่มเข้าไปสัมผัสแรกคือกลิ่นหอมของช็อกโกแลตกับโรสแมรี่เตะจมูก ก่อนที่ได้รับรสเปรี้ยวอมหวานของซอสเบอร์รี่นานาชนิด เชื่อมรสชาติทุกอย่างด้วยนม มวลแน่นขึ้น ทำให้แก้วนี้กลายเป็นกึ่งเครื่ิงดื่มกึ่งของหวานปิดท้ายที่ทุกคนต่างชื่นชอบ

ปิดทริปนี้ไปอย่างอิ่มท้องและอิ่มใจ ถึงทริป The Cloud Cafe Hopping 01 : The Signature นี้จะจบไปแล้ว

แต่ก็ยังเป็นแค่การเรียกน้ำย่อยเท่านั้น ใครอยากลองเมนู Signature อร่อยๆ ที่อยู่ในทริปนี้หรือของร้านอื่นๆ ที่มาออกบูทอีกมากมาย ตามไปชิมได้ที่งาน Thailand Coffee Fest 2019 : Sip to Start “เริ่มจิบ…ไม่รู้จบ” มหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดใน Southeast Asia ที่ The Cloud จัดขึ้นร่วมกับ สมาคมกาแฟพิเศษไทย ระหว่างวันที่ 14 – 17 มีนาคม 2562 ณ อิมแพค เอกซิบิชั่นฮอลล์ 5 – 6 เมืองทองธานี