ผมเริ่มสังเกตว่าหน้าตาของคาเฟ่ใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นเริ่มกลับมาเป็นสไตล์มินิมอลเรียบง่าย ในขณะเดียวกันคนดื่มกาแฟและบาริสต้าต่างมีเรื่องให้สนทนากันมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ประจำวันทั่วไปจนลึกลงไปในเรื่องราวของกาแฟในแก้วที่กำลังยกขึ้นดื่ม
ความเรียบง่ายอยู่ในทั้งสไตล์การตกแต่งร้านไปจนถึงอุปกรณ์ไม่กี่ชิ้นที่กั้นระหว่างบทสนทนาของคนดื่มกับบาริสต้าคือเครื่องชงกาแฟ อุปกรณ์ที่ดูแปลกตาและวิธีการชงกาแฟแบบใหม่ๆ มักจะเป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนาระหว่างลูกค้ากับบาริสต้าได้อยู่เสมอ ไม่นานมานี้ผมกำลังสนใจการเปิดตัว ‘Modbar’ เครื่องชงกาแฟที่เรียกว่าพลิกโฉมหน้าตาของบาร์กาแฟไปเลยก็ว่าได้
Modbar คือเครื่องชงกาแฟที่ถูกออกแบบมาให้ดูเรียบง่าย ซ่อนระบบเครื่องชงนวัตกรรมที่ล้ำสมัยที่สุด เอาไว้ใต้เคาน์เตอร์ ส่วนที่โชว์ออกมามีเพียงส่วนที่ใช้งานเช่นหัวชง หรือก้านสตรีมนมเท่านั้น หน้าตาที่ดูมินิมอลแบบล้ำๆ นี้ทำให้ผมคิดว่า Modbar น่าจะกำหนดแนวโน้มหน้าตาของบาร์กาแฟในอนาคตได้มากทีเดียว
ณ วันนี้มีร้านกาแฟหลายร้านเริ่มหันมาเลือกใช้ความเรียบง่ายของ Modbar มากขึ้น ผมอยากแนะนำ 4 คาเฟ่ 4 สไตล์ในกรุงเทพที่เริ่มนำ Modbar มาใช้เป็นเครื่องชงกาแฟในร้าน
Bluekoff
Modbar เครื่องแรกในไทยถูกติดตั้งที่คาเฟ่ของ Bluekoff ผู้นำเข้าเครื่อง Modbar เพื่อใช้ทั้งเป็นเครื่องสาธิตและใช้ชงจริงสำหรับผู้สนใจด้วย
เครื่องชงกาแฟสีดำด้านแบ่งเป็นหัวชงเอสเพรสโซ 2 หัว เครื่องสตรีมนมร้อน 1 หัว และเครื่องดริปกาแฟแบบออโต้อีก 1 หัว ถูกใช้แทนเครื่องชงเอสเพรสโซแบบเดิม โดยซ่อนระบบหม้อต้ม และตัวเครื่องไว้ใต้เคาน์เตอร์บาร์หินสีดำ ในคาเฟ่โทนสีดำที่ดูเคร่งขรึม ทำให้ตอนเปิดตัวครั้งแรก Modbar สีดำด้านได้รับความสนใจอย่างมาก
คาเฟ่ของ Bluekoff แทบจะเป็นไม่กี่คาเฟ่ที่สามารถหาเมล็ดใหม่ๆ น่าสนใจไว้ลองชิม เพราะ Bluekoff เป็นผู้นำเข้าเมล็ดกาแฟทั้งแบบกรีนบีนจากหลายแหล่งปลูกดีๆ ทั่วโลก รวมถึงแหล่งปลูกในประเทศไทยที่ Bluekoff พัฒนากาแฟไทยมาตั้งแต่เริ่มต้นแบรนด์ด้วย
ระดับการคั่วของกาแฟที่หลากหลายระดับทำให้สามารถชิมกาแฟได้ทั้งแบบคลาสสิคเอสเพรสโซ่ หรือจะลองดูวิธีการดริปด้วยเครื่องดริปแบบออโต้ของ Modbar ดูก็ได้
แนะนำให้ลองเลือกเบเกอรี่ที่ Bluekoff ทำเองมากินคู่กับกาแฟด้วยนะครับ อันที่แนะนำเลยคือ Cascara Croissant ที่ใช้ Cascara หรือเปลือกเมล็ดกาแฟมาเป็นส่วนผสมของแป้งครัวซองต์ ซึ่งหาทานที่อื่นไม่ได้นะครับ





Bluekoff
อาคารพร้อมพันธุ์ 2 ชั้น 1 ปากซอยลาดพร้าว 3
เปิด-ปิด | จันทร์-เสาร์ 08.30 – 17.00 น. (ปิดวันอาทิตย์)
Website l https://www.bluekoff.com/
Facebook l BlueKoff
Oneday Wallflower
คาเฟ่นี้ไม่ได้มินิมอลอย่างที่อื่นๆ เป็นคาเฟ่ที่ซ่อนอยู่ในตึกเก่าโบราณหลังร้านดอกไม้ย่านเมืองเก่า มีบรรยากาศที่ดูลึกลับ น่าค้นหา เดินขึ้นบนบันไดไปยังชั้นสอง จะพบกับบาร์กาแฟสีทองแดงวาววับผสมกับไม้แผ่นเผาไฟเป็นผนังของเคาน์เตอร์บาร์ รวมถึงผนังด้านหลังเคาน์เตอร์ที่เพนต์เป็นรูปแผนที่โลกบนแผ่นไม้ด้วย
ความกลมกลืนของหัวชง Modbar สีเงินเงาวับเข้ากันดีกับโทนการตกแต่งโดยรวมของร้าน ที่มีความดุดันจากทั้งสีดำและทองแดงสลับกับนานาดอกไม้ที่ตกแต่งอยู่เต็มร้านให้สมกับเป็นคาเฟ่ลึกลับที่อยู่ในร้านดอกไม้
เมนูที่นี่เน้นเมนูกาแฟ ทั้งเอสเพรสโซ่ และแบบฟิลเตอร์ ส่วนที่ได้รับความนิยมมากจากลูกค้าส่วนใหญ่คือ เมนูจากไซรัปและสปาร์กลิงโซดาผสมกับผลไม้ให้ความสดชื่นอย่างเลมอนและเบอร์รี่ต่างๆ ทานคู่กับสิ่งที่ไม่ควรพลาดอีกอย่างคือ เค้กหน้าตาสวยงามที่มีให้เลือกเยอะมาก
Oneday Wallflower มี ‘Wallflowers Upstairs’ เป็นบาร์และร้านอาหารบนดาดฟ้า เปิดในช่วงเย็นๆ สามารถขึ้นไปนั่งรับลม ดูแสงไฟย่านเมืองเก่าได้ และอีกไม่นานร้านอาหารเต็มรูปแบบอย่าง ‘The grounds of wallflower’ ที่เราเห็นเค้าโครงความสวยงามแบบลึกลับมีเสน่ห์ตั้งแต่ยังสร้างไม่เสร็จก็จะเปิดให้บริการแล้วด้วย
Oneday wallflower
ซอยนานา เยาวราช
เปิด-ปิด | 11.00 – 19.00 น. (ปิดวันพุธ)
Facebook l Oneday wallflowers
Roots at Sathon
ร้านกาแฟ ‘Roots’ เปิดสาขาใหม่ล่าสุดที่สาทร คอนเซปต์ร้านใหม่คือนำเสนอกาแฟไทยจากแหล่งปลูกต่างๆ ของไทยที่ Roots เข้าไปทำงานร่วมกับเกษตรกร
Roots at Sathon อยากจะสื่อสารความตั้งใจในการทำกาแฟจากเกษตรกรไทยจนถึงคนดื่มผ่านการพูดคุยระหว่างบาริสต้าและลูกค้า ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ Roots เลือกใช้ความน้อยและเรียบง่ายของ Modbar เพื่อให้บาริสต้าได้สื่อสารกับลูกค้าได้มากขึ้น
ร้านใหม่ของ Roots บรรยากาศอบอุ่น ดูเป็นมิตร การตกแต่งตั้งใจให้นึกถึงความเป็นต่างจังหวัดของไทย เคาน์เตอร์บาร์ที่ใช้ติดตั้ง Modbar ทำขึ้นมาจากดินจากแหล่งปลูกกาแฟ อัดกันจนแน่น เห็นเป็นชั้นดินสลับสีกัน หัวชง Modbar สีขาวเข้ากับบรรยากาศที่ตั้งใจให้ดูอบอุ่นของร้านที่ใช้วัสดุธรรมชาติอย่างดินและไม้เป็นส่วนใหญ่
เมนูที่ชงด้วย Modbar เป็นเมนูคลาสสิกเอสเพรสโซ่ แต่พิเศษตรงที่จะใช้เพียงแค่เมล็ดไทยทั้งหมดในการชง ทำให้เห็นความแตกต่างของรสกาแฟจากแหล่งปลูกที่ต่างกัน
Roots at Sathorn
ภิรัชทาวเวอร์ แอท สาทร
เปิด-ปิด | ทุกวัน 08.00 – 19.30 น.
Facebook l RootsBkk
Kad Kokoa
บ้านไม้เก่าถูกรีโนเวตด้วยไม้ จากบ้านไม้เก่าและยุ้งข้าวจากภาคเหนือให้กลายเป็นคาเฟ่ในบ้านไม้น่ารักกลางเมือง ใช้ชื่อเหนือๆ อย่าง ‘Kad Kokoa’ หรืออ่านว่า กาด โกโก้
ผิดจากรูปลักษณ์ภายนอก ภายในคาเฟ่เต็มไปด้วยเครื่องไม้เครื่องมือทำช็อกโกแลตครบวงจร เพราะที่นี่เป็นคาเฟ่ช็อกโกแลตรูปแบบ Bean to Bar ที่ทำช็อกโกแลตเองตั้งแต่เป็นเมล็ดโกโก้ ผ่านกระบวนการต่างจนกลายเป็นช็อกโกแลตแท่ง และเป็นขนมเครื่องดื่มอีกหลายอย่าง
ความพิเศษของ Kad Kokoa คือช็อกโกแลตที่ใช้ในร้านทำมาจากเมล็ดโกโก้ที่ปลูกจากแหล่งปลูกในไทยทั้งสิ้น แหล่งปลูกที่แตกต่างกันก็ทำให้รสชาติของช็อกโกแลตที่ได้ออกมาแตกต่างกันค่อนข้างชัดเจน ช็อกโกแลตแท่งของ Kad Kokoa จึงมีขายหลายแบบแบ่งตามแหล่งปลูกเป็นหลักมีทั้งเชียงใหม่ ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ และจันทบุรี ที่ใช้เป็นส่วนผสมหลักของเมนูอื่นๆ ในร้านด้วย
เครื่องดื่มที่ไฮไลต์ในร้านคงหนีไม่พ้นช็อกโกแลตเช่นกัน เมนูหลากหลายทั้งขนมและเครื่องดื่มที่ครีเอตขึ้นจากช็อกโกแลตไทยรสชาติดีไม่แพ้ช็อกโกแลตจากต่างประเทศเลย
นอกจากช็อกโกแลตที่ดีแล้ว ยังเน้นเครื่องดื่มที่นอกเหนือจากช็อกโกแลตให้ดีอีกด้วย โดยเฉพาะกาแฟ Kad Kokoa ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นี่เป็นอีกคาเฟ่หนึ่งที่ให้ความสำคัญกับกาแฟในร้าน และเครื่องชงที่มีประสิทธิภาพอย่าง Modbar ทำให้เห็นถึงความตั้งใจในการเลือกใช้ส่วนผสมและวัตถุดิบรวมถึงอุปกรณ์แบบไม่มีกั๊กของร้านนี้
ส่วนเมนูที่อยากแนะนำคงไม่พ้น Mocha เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างกาแฟและช็อกโกแลตที่ดีนั่นเองครับ
Kad Kokoa
ซอยนราธิวาส 17
เปิด-ปิด | Soft Opening 09.00 – 17.00 น. (ปิดวันพุธ)
Facebook l KAD KOKOA
หากสนใจเครื่องชง Modbar สามารถติดต่อได้ที่ Bluekoff ผู้นำเข้าเครื่องจากอิตาลีโดยตรง