8 ตุลาคม 2024
9 K

การหยิบหนังสือสักเล่มขึ้นมาอ่าน อาจสะท้อนถึงความรู้สึก สิ่งที่เราสนใจ หรือแม้แต่เหตุการณ์ที่เรากำลังเผชิญอยู่ และหากเล่มนั้นโดนใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม ก็อาจกลายเป็นเล่มโปรดที่เราผูกพันจนอยากจะเก็บไว้อ่านไปอีกนานแสนนาน

เมื่องานมหกรรมหนังสือระดับชาติเวียนกลับมาจัดอีกหนในวันที่ 10 – 20 ตุลาคมนี้ ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ The Cloud จึงชวน 23 สำนักพิมพ์มาเล่าถึงความน่าสนใจของหนังสือเล่มใหม่ พร้อมคำแนะนำเล็ก ๆ ว่าเหมาะกับใครบ้าง เพื่อให้ผู้อ่านได้ตามหาเล่มที่ใช่ ได้เจอหนังสือเล่มโปรด จนอยากจะ ‘อ่านกันยันโลกหน้า’ ตามคอนเซปต์ของงานปีนี้

หากพร้อมแล้ว เลื่อนสายตาไปตามหาหนังสือคู่ใจกันในบทความนี้เลย 

01

ชื่อหนังสือ : THAILAND STATIONERY ร้านเครื่องเขียนไทยใกล้ฉัน

ผู้เขียน : อี ฮยอนกยอง

ผู้แปล : วณิชชา จินศิริวานิชย์

สำนักพิมพ์ : แซลมอน

บูท : F32 

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Salmon Books

ลิงก์ข้อมูลหนังสือ : salmonbooks.net/product/stationery

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : เรื่องราวที่อยู่ในสิ่งของรอบตัวและร้านรวงเก่าแก่ หรือมองหาหนังสืออ่านเพลิน ๆ สักเล่มที่ได้ย้อนความทรงจำในวันวานของตัวเอง

“หนังสือที่บันทึกถึงร้านเครื่องเขียนไทยหลายร้านซึ่งมีเรื่องเล่าเฉพาะตัว ตั้งแต่ร้านตำนานของเหล่านิสิตจุฬาฯ ร้านรวยอารมณ์ศิลป์จากเชียงราย ไปจนร้านที่อยู่คู่ชาวขอนแก่นมากว่า 50 ปี ผ่านสายตาของ ฮั่น-อี ฮยอนกยอง อาร์ตไดเรกเตอร์สาวชาวเกาหลี (แต่เล่มนี้เป็นฉบับภาษาไทยนะ) นอกจากผู้อ่านจะได้ซอกแซกดูสตอรีของร้านนั้น ค้นหาแรร์ไอเทมร้านนี้แล้ว ยังได้เห็นความไทย ๆ ซุกซ่อนอยู่ทุกการเปิดประตูเข้าร้าน 

“ที่สำคัญจนขอหยิบไฮไลต์สีเหลืองมาขีดสักนิด คือเชื่อว่าสายตาที่เป็นประกายและความรู้สึกเมื่อไปเยือนแต่ละร้านของคุณฮั่น ผู้หลงรักเครื่องเขียนตั้งแต่เด็ก อาจทำให้คุณอยากออกไปตามรอยร้านเครื่องเขียนในเล่ม ร้านในความทรงจำของตัวเอง หรือไม่ก็เสิร์ชอินเทอร์เน็ตหาว่า ‘ร้านเครื่องเขียนใกล้ฉัน’ เลยล่ะ” 

ชนัดดา ตันนพรัตน์ 

บรรณาธิการ

02

ชื่อหนังสือ : คู่มือนักกินสามัญประจำบ้าน (Food for Life: The New Science of Eating Well)

ผู้เขียน : Tim Spector

ผู้แปล : พลอยแสง เอกญาติ

สำนักพิมพ์ : bookscape

บูท : D31

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Bookscap, bookscape.co

ลิงก์ข้อมูลหนังสือ : bookscape.co/books/in-stock/intelligent-lifestyle/food-for-life

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : การได้ลิ้มรสอาหารอร่อยและมีสุขภาพดี (แบบไม่ทำร้ายโลก)

“นี่คือคู่มือวิทยาศาสตร์อาหารเพื่อการกินดี-กินเป็น-กินอร่อย ที่ทุกคนควรมีติดบ้าน! นอกจากจะให้หลักการพื้นฐานของการกินที่ดีต่อสุขภาพแบบมีวิทยาศาสตร์รองรับแล้ว เล่มนี้ยังแตกต่างจากหนังสือคำแนะนำด้านการกินทั่ว ๆ ไป เพราะทำให้เราเข้าใจความซับซ้อนของอาหารจริง ๆ ไม่ตัดสินง่าย ๆ ว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนั้นไม่ดี เพราะอาหารนั้นมีหลายมิติ และร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกันไป เราจึงควรฟังเสียงร่างกายและออกแบบการกินที่เหมาะกับเรา 

“ทั้งยังสอดแทรกด้วยเกร็ดรุ่มรวยเรื่องอาหาร การเลือกวัตถุดิบ หรือสารพัดวิธีปรุงให้อร่อยล้ำยิ่งขึ้น และนอกจากแนะวิธีเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพแล้ว ยังให้ข้อมูลผลกระทบของอาหารต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เราเลือกกินสิ่งที่ดีต่อร่างกาย ดีต่อใจ และดีต่อโลกได้อย่างแท้จริง”

ณัฏฐพรรณ เรืองศิรินุสรณ์

บรรณาธิการบริหาร

03

ชื่อหนังสือ : Outlive ศาสตร์และศิลป์ของการอยู่นานและอยู่ดี

ผู้เขียน : PETER ATTIA, MD และ BILL GIFFORD

ผู้แปล : มันตา คลังบุญครอง

สำนักพิมพ์ : Sophia

บูท : G47

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Sophia Publishing

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : การสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวัยชรา ไม่เพียงแค่อยู่ให้ยาวนาน แต่ยังต้องการใช้ชีวิตอย่างเต็มเปี่ยมไปด้วยพลัง สดชื่น และสุขภาพแข็งแรงทุกช่วงชีวิต รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การปรับโภชนาการ การนอนหลับ และการจัดการความเครียด

“ความน่าสนใจของหนังสือเล่มนี้อยู่ที่การพูดถึงการดูแลสุขภาพที่ดีในระยะยาว ไม่ใช่แค่ยืดอายุขัย (Lifespan) แต่เน้นเรื่องการมีคุณภาพชีวิตที่ดีตั้งแต่วันนี้ ยาวไปถึงการมีสุขภาพดีในวัยชรา (Healthspan) ซึ่งหมายถึงการรักษาคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นในช่วงบั้นปลายชีวิต 

“แม้หลายคนเชื่อว่าการป่วยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เมื่ออายุมากขึ้น แต่ Outlive แสดงให้เห็นว่าเราป้องกันโรคร้ายได้ตั้งแต่ต้นเหตุ เริ่มจากการทำความเข้าใจโรคเพชฌฆาตเงียบที่คร่าชีวิตมนุษย์มากที่สุด คือโรคมะเร็ง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานชนิดที่ 2 และโรคความเสื่อมจากระบบประสาท และป้องกันโรคเหล่านี้ด้วย 4 เสาหลัก คือการออกกําลังกาย โภชนาการ การนอนหลับ และการดูแลสุขภาพอารมณ์ Outlive อัดแน่นไปด้วยเทคนิคการดูแลสุขภาพที่ทำตามได้ไม่ยาก อ่านแล้วจะรู้สึกสนุกเหมือนได้ออกแบบคัมภีร์การมีสุขภาพที่ยืนยาวในแบบของเราเอง”

ศศกร วัฒนาสุทธิวงศ์

Deputy Managing Director สำนักพิมพ์ในเครืออมรินทร์

04

ชื่อหนังสือ : คู่มือสามัญประจำเดือน

ผู้เขียน : ลูอีสเซอ ที. ซยอร์วัลด์ และ เยเต แซนด์เบค

ผู้แปล : บุลวัชร เสรีชัยพร

สำนักพิมพ์ : Naked Publishing ในเครือ Barefoot Banana

บูท : C06

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : www.barefootbanana.co, Barefoot Banana, barefootbanana.books

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : ข้อมูลชุ่มเลือดตรงไปตรงมา ผ่านตัวอักษร A-Z พร้อมภาพประกอบสีสันสดใส ครอบคลุมทุกคำถามเกี่ยวกับประจำเดือน เหมาะสำหรับทุกเพศ และ (เกือบจะ) ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นผู้ปกครอง ครูหรือผู้ใกล้ชิดกับเด็ก ผู้กำลังจะมีและผู้มีประจำเดือน รวมไปถึงผู้ที่ไม่มีประจำเดือนแต่อยากเข้าอกเข้าใจผู้มีประจำเดือนมากขึ้น

คู่มือสามัญประจำเดือน คือหนังสือที่จะอยู่เป็นเพื่อนทั้งในวันที่มาน้อยและมามาก ควรมีติดไว้ทุกบ้าน ดั่งยาสามัญประจำบ้าน ‘ประจำเดือน’ เป็นเรื่องสามัญธรรมดาที่ใกล้ตัวและเกี่ยวพันกับทุกคน จึงอยากชวนนักอ่านไม่ว่าจะเป็นผู้มีหรือไม่มีประจำเดือน มาทำความรู้จักประจำเดือนในหลากหลายแง่มุมให้ใกล้ชิดขึ้นอีกนิด เพื่อเข้าใจตัวเองและคนที่อยู่รอบตัวเรามากขึ้น”

ศศิกานต์ จรทะผา

บรรณาธิการ

05

ชื่อหนังสือ : ทำไมเป็นคนแบบนี้? : คู่มืออ่านตัวตนของผู้คนในโลกอันหลากหลาย

ผู้เขียน : โตมร ศุขปรีชา

สำนักพิมพ์ : Brown Books

บูท : J14, F32, H39, G43, J02, E31, E15

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Brown Books และ www.brownbooksbkk.com

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : คำตอบบางอย่างเพื่อทำความเข้าใจผู้คนรอบข้างและตัวเอง ว่าในบางขณะ ทำไมเขาและเราถึงได้มีพฤติกรรมแบบนี้ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือคนที่อยากตั้งคำถามและอยากหาคำตอบว่า ‘ทำไมเป็นคนแบบนี้?’

“หนังสือเล่มนี้เกิดขึ้นเพราะผู้เขียนอยาก ‘ทำความเข้าใจ’ ผู้คนในโลก และอาจหมายรวมถึงตัวของผู้เขียนเองด้วยว่าเพราะอะไร ในบางขณะเราจึงกลายเป็น ‘คนแบบนี้’ ไปได้ ไม่ว่าจะเป็นการ ‘เห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาล’ การกลายเป็นคน Toxic ในบางขณะ การพูดโกหก ไล่ไปจนถึงเรื่องที่แลดูเล็กน้อย เช่น ทำไมบางคนถึงนอนดึกตื่นสาย ทำไมบางคนจึงถูกมองว่าหน้าตาดี สวยหล่อกว่าคนอื่น หรือทำไมคนที่ ‘เรียนเก่ง’ ถึงมักจะ ‘เปลี่ยนโลก’ ไม่ได้

ทำไมเป็นคนแบบนี้?: คู่มืออ่านตัวตนของผู้คนในโลกอันหลากหลาย จึงคือความพยายามในการ ‘ทำความเข้าใจ’ มนุษย์หลากประเภท ด้วยการพาผู้อ่านไป ‘ตอบคำถาม’ ถึงบางแง่มุมของชีวิต ว่าเพราะเหตุใดมนุษย์จึงเป็นดังที่เป็น ด้วยมุมมองหลากแบบทั้งจิตวิทยา สังคมวิทยา พฤติกรรมศาสตร์ ประสาทวิทยา หรือกระทั่งวิวัฒนาการ แม้หลายพฤติกรรมของมนุษย์ที่ปรากฏในหนังสือเล่มนี้อาจถูกมองว่าไม่ค่อยเป็นที่พึงปรารถนาสักเท่าไหร่ หลายเรื่องแสดงให้เห็นความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ แต่หากคุณเชื่อว่าความไม่สมบูรณ์แบบของมนุษย์ไม่ใช่ข้อบกพร่อง แต่คือเรื่องที่เราควรเรียนรู้เพื่อทำความเข้าใจแล้วล่ะก็ นี่คือหนังสือที่คุณต้องอ่าน”

สุธรรม ธรรมรงค์วิทย์

บรรณาธิการสำนักพิมพ์ Brown Books

06

ชื่อหนังสือ : The Science of Can and Can’t

ผู้เขียน : Chiara Marletto

ผู้แปล : สุวิชชา จันทร

สำนักพิมพ์ : Salt Publishing

บูธในงานหนังสือ : J14

บูธที่ฝากหนังสือจำหน่าย : G43, D18, H39, I31, J02

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Saltread, salt.co.th 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : วิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ และผู้ที่สนใจธรรมชาติในแง่ของความเป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้

“หนังสือเล่มนี้นำเสนอมุมมองที่น่าสนใจและท้าทายเกี่ยวกับวิทยาศาสตร์และความเป็นไปได้ในจักรวาลที่น่าติดตามหลายแง่มุม โดยนำเสนอแนวคิดใหม่ที่เรียกว่า ทฤษฎีการคำนวณ (Constructor Theory) ที่มุ่งอธิบายกฎพื้นฐานของธรรมชาติในแง่ของสิ่งที่เป็นไปได้และเป็นไปไม่ได้ แทนที่จะมุ่งเน้นเพียงการทำนายเหตุการณ์ แนวคิดนี้ช่วยให้เราเข้าใจปรากฏการณ์ทางฟิสิกส์ในมุมมองที่แตกต่างและกว้างขวางมากขึ้น 

“นอกจากนี้ Marletto ยังอธิบายว่าทฤษฎีการคำนวณประยุกต์ใช้ได้กับหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นฟิสิกส์ควอนตัม ชีววิทยา หรือแม้แต่การประมวลผลข้อมูล ซึ่งช่วยให้ผู้อ่านเห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างศาสตร์ต่าง ๆ และเปิดมุมมองใหม่ในการแก้ปัญหาที่ซับซ้อน ทั้งยังท้าทายมุมมองดั้งเดิมเกี่ยวกับความเป็นไปได้และข้อจำกัดในธรรมชาติ 

“ที่น่าสนใจไม่แพ้กันคือการนำเสนอด้วยภาษาที่เข้าใจง่าย ใช้อุปมา-อุปไมยที่ชาญฉลาด และยกตัวอย่างที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน ทำให้หัวข้อที่ซับซ้อนกลายเป็นเรื่องที่น่าสนใจและเข้าถึงได้สำหรับผู้อ่านทั่วไป”

ณภัทร ปัญกาญจน์

ผู้จัดการสำนักพิมพ์

07

ชื่อหนังสือ : เน็กซัส : ประวัติย่อการสื่อสาร จากยุคหินสู่เอไอ

ผู้เขียน : ยูวัล โนอาห์ แฮรารี

ผู้แปล : ดร.นำชัย ชีววิวรรธน์, ธิดา จงนิรามัยสถิต, ผศ.ดร.ป๋วย อุ่นใจ

สำนักพิมพ์ : ยิปซี

บูท : I31

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์ ยิปซี

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : มุมมองใหม่ ๆ หรือกำลังสงสัยใคร่รู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสิ่งที่ยึดโยงมนุษยชาติเข้าด้วยกัน หรือคนที่ชื่นชอบหนังสือตระกูล เซเปียนส์ บอกเลยว่าเล่มนี้ไม่ควรพลาด!

“หากจะมีอะไรที่ทำให้มนุษย์แตกต่างจากสัตว์อื่น ๆ สิ่งนั้นคือ ‘เรื่องเล่า’ และ ‘สารสนเทศ’ ใครที่เคยอ่าน เซเปียนส์ อาจได้แง่คิดเกี่ยวกับการขึ้นมาครองโลกของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เล่มนี้เลือกเจาะลึกลงในประเด็นของ ‘เรื่องเล่า’ และ ‘เรื่องอุปโลกน์’ ที่ยึดโยงมนุษย์เข้าด้วยกัน และทำให้เรารวมตัวกันเป็นชุมชนขนาดใหญ่อย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนบนโลก ไม่ว่าจะศาสนา คติทางการเมือง กฎหมาย ระบบราชการ อินเทอร์เน็ต ปัญญาประดิษฐ์ ไปจนถึงข่าวลวงและทฤษฎีสมคบคิด 

“หนังสือจะพาเราไปดูว่าทั้งหมดนี้ล้วนมีส่วนในการสร้างสรรค์และบ่อนทำลายสังคมอย่างไรบ้าง อย่างระบบราชการอันน่าเบื่อหน่ายและเชื่องช้า แท้จริงแล้วกลับเป็นสิ่งยึดโยงสังคมได้อย่างไร และพาเราตั้งคำถามเกี่ยวกับการชี้นำสังคมโดยชนชั้นนำผ่านสารสนเทศและเรื่องเล่าที่สร้างปั้นแต่งขึ้น และเราอาจเคยมองโลกในแง่ดีว่าเทคโนโลยี วิทยาการที่ล้ำหน้าขึ้นจะทำให้เผด็จการหมดไป แต่ผู้เขียนเองก็ย้ำเตือนว่าทุกวันนี้มีเผด็จการหลายแห่งที่ใช้วิทยาการอันล้ำหน้าเพื่อควบคุมประชาชนอย่างเข้มข้นกว่าเดิม โดยยกหลายเคสที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบันมาเตือนสติ และการเข้ามาของปัญญาประดิษฐ์ในฐานะเครื่องมืออาจเร่งให้ทุกอย่างแย่ลงด้วยซ้ำ ลองคิดเล่น ๆ ว่าหากผู้นำเผด็จการประเทศหนึ่งตัดสินใจอัปโหลดจิตของตัวเองใส่ในปัญญาประดิษฐ์ แม้ร่างกายจะสูญสลาย แต่สมองกลนี้จะไม่มีวันตาย แล้วโลกเราจะเป็นอย่างไร”

อันญา โฉมชา

บรรณาธิการสำนักพิมพ์

08

ชื่อหนังสือ : วัยเยาว์อันสิ้นสูญ : Lord of the Flies พิมพ์ครั้งที่ 3

ผู้เขียน : วิลเลียม โกลดิ้ง

ผู้แปล : ต้องตา สุธรรมรังษี

สำนักพิมพ์ : Lighthouse Publishing

บูท : G47

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Lighthouse Publishing 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : เรื่องราวระทึกใจเกี่ยวกับกลุ่มเด็กที่ต้องเอาตัวรอด และค่อย ๆ เผยด้านมืดออกมา

วัยเยาว์อันสิ้นสูญ : Lord of the Flies คือหนึ่งในวรรณกรรมเอกของโลกสมัยใหม่ แม้เหตุการณ์จะเล่าถึงการติดเกาะของเหล่าเด็กชายชาวอังกฤษในช่วงสงครามโลกอันเป็นสถานที่และช่วงเวลาที่ห่างไกลจากปัจจุบัน ทว่าเรื่องเล่าถึงสัญชาตญาณการเอาตัวรอด การต่อสู้ดิ้นรนเพื่อเป็นผู้นำ ตลอดจนการช่วงชิงอำนาจระหว่างความใจดีกับความป่าเถื่อนภายในจิตใจ ซึ่งถูกล่อหลอกให้ปรากฏออกมาจากความอ่อนแอของตนเอง วัยเยาว์อันสิ้นสูญ นำเสนอประเด็นปัญหาสากลที่ว่า แท้ที่จริงแล้วเราต่างมี ‘ด้านมืด’ อยู่ภายใน รอแค่เพียงเวลาและสถานการณ์ที่เหมาะสมให้มันเผยออกมาเท่านั้น เล่มนี้เขียนโดย วิลเลียม โกลดิ้ง เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาวรรณกรรมในปี 1983 งานของเขามักตั้งคำถามต่อความเป็นมนุษย์ที่ดำรงอยู่ภายใต้เงื่อนไขอันจำกัดและบีบรัดสภาวะจิตใจ นำไปสู่ข้อถกเถียงถึงปัญหาเชิงศีลธรรมอันสลับซับซ้อน งานวรรณกรรมของเขาจึงมีมิติที่ลึกซึ้งละเอียดอ่อนและกินใจผู้อ่านมาทุกยุคสมัย”

กองบรรณาธิการ Lighthouse Publishing

09

ชื่อหนังสือ : แด่ทุกครอบครัว

ผู้เขียน : เรื่องโดย อเล็กซานดรา มักซ์ไอเนอร์, ภาพโดย อังเคอ คูห์ล

ผู้แปล : โสภาพร ควร์ซ

สานักพิมพ์ : SandClock Books

บูท : B44

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Sandclock.books, www.sandclockbooks.com 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : หนังสือสำหรับผู้อ่านทุกวัย ไม่ว่าจะมาจากครอบครัวแบบใด หรือจะ (ไม่) สร้างครอบครัวแบบใดเป็นของตัวเอง เพราะเป็นหนังสือที่ไม่ตีกรอบว่าครอบครัวที่ดีควรมีหน้าตาอย่างไร เพียงแต่นำเสนอครอบครัวอย่างที่มันเป็นตามค่านิยมที่เปลี่ยนไปตามกาลเวลา รวมทั้งเล่าประเด็นความหลากหลายในสังคมปัจจุบันอย่างครอบคลุม 

แด่ทุกครอบครัว ชนะเลิศรางวัลวรรณกรรมเยาวชนเยอรมัน ปี 2011 เล่าเรื่องครอบครัวอันเป็นสถาบันพื้นฐานแรกที่เด็กทุกคนรู้จัก ทว่าสิ่งที่เป็นพื้นฐานไม่ได้ปราศจากความซับซ้อนและความหลากหลายเลย 

“หนังสือเล่มนี้นำเสนอแง่มุมหนึ่งของความหลากหลายในสังคมเรา สะท้อนผ่านครอบครัวรูปแบบต่าง ๆ ตั้งแต่ครอบครัวพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว ครอบครัวปะติดปะต่อ ครอบครัวอุปถัมภ์ ครอบครัวสีรุ้ง ไปจนถึงครอบครัวที่เกี่ยวดองกันโดยเสน่หา ผ่านรูปร่างหน้าตา ผ่านคำเรียกพ่อแม่และชื่อเล่น ผ่านอารมณ์ความรู้สึกสารพัด ทั้งสุข เศร้า เกรี้ยวกราด ห่างเหิน 

“แต่ไม่ว่าแบบไหน ทุกครอบครัวทั้งแสนธรรมดาและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวไปพร้อมกัน แด่ทุกครอบครัว จึงเป็นหนังสือภาพที่อุทิศให้ทุกบ้าน ทุกเชื้อชาติ ทุกเพศ ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่อยากแนะนำ”

สุธินี จ่างพิพัฒนวกิจ 

บรรณาธิการสำนักพิมพ์

10

ชื่อหนังสือ : ปิดตาสู้

ผู้เขียน : Gianrico Carofiglio

ผู้แปล : นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

สำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี

บูท : H30

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : อ่านอิตาลี, www.readingitaly.store 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : นิยายอ่านสนุกวางไม่ลง เดินเรื่องเร็ว เนื้อเรื่องสะเทือนใจแต่ไม่ขาดอารมณ์ขัน และมีตอนจบแบบหักมุม

ปิดตาสู้ เป็นนวนิยายสืบสวนสอบสวนที่มีเนื้อเรื่องเข้มข้น ด้วยประเด็นความรุนแรงในครอบครัว การล่วงละเมิดทางเพศเด็ก และสิ่งที่มีอำนาจเหนือกระบวนการยุติธรรม นอกจากนั้นผู้อ่านยังจะได้เห็นการพิจารณาคดีในศาลของอิตาลี เห็นความเข้มแข็งของคนที่เคยตกเป็นเหยื่อ และเหนื่ออื่นใด คุณจะหลงรักทนายปากจัดผู้เป็นตัวละครหลักของเรื่อง

นันธวรรณ์ ชาญประเสริฐ

ผู้แปล

11

ชื่อหนังสือ : ในนามของความมั่นคงภายใน: การแทรกซึมสังคมของกองทัพไทย

ผู้เขียน : พวงทอง ภวัครพันธุ์

สำนักพิมพ์ : ฟ้าเดียวกัน

บูท : J11

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : sameskybooks.net, ฟ้าเดียวกัน, sameskybooks, สำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : หนังสือที่จุดชนวนความสนใจเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ของ กอ.รมน. และกองทัพไทยโดยรวม

“ความมั่นคงภายในที่ว่านี้เป็นความมั่นคงของใคร และเพื่อใครกันแน่… คำตอบคงไม่ได้อยู่ในหนังสือเล่มนี้ แต่หนังสือเล่มนี้ตีแผ่ให้เราเห็นว่าทหารในฐานะชนชั้นนำสูบเอาทรัพยากรส่วนรวมไปใช้ในการแทรกซึมและควบคุมสังคมด้วยข้ออ้างเรื่องความมั่นคงภายในนานเกินไปแล้ว ความมั่นคงภายใน ตลอดจนความมั่นคงของชาติคืออะไรกันแน่นั้น เป็นเรื่องที่ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยต้องช่วยกันขบคิดให้คำนิยาม มิใช่ปล่อยให้ทหารว่าเอาตามใจชอบ”

กองบรรณาธิการฟ้าเดียวกัน

12

ชื่อหนังสือ : กาม(วิ)ปริต (ab)normal desire

ผู้เขียน : อาซาอิ เรียว

ผู้แปล : อิศเรศ ทองปัสโณว์

สำนักพิมพ์ : ไดฟุกุ

บูท : O17

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์ ไดฟุกุ

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : คำตอบให้กับความสงสัยว่า ทำไมรสนิยมทางเพศเดี๋ยวนี้ช่างหลากหลายเหลือเกิน ดูเหมือนเราเข้าใจ แต่เราเข้าใจและยอมรับเรื่องนั้นจริงหรือเปล่า

“ครั้งแรกในไทยกับนวนิยายนำเสนอความหลากหลายของรสนิยมทางเพศที่ทำให้คนอ่านเข้าใจและอยากเชื่อมโยงกับคนอื่นมากขึ้น กาม(วิ)ปริต (正欲) เป็นนวนิยายรางวัลที่สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในญี่ปุ่น เรื่องราวในเล่มจะพาคุณไปอย่างช้า ๆ แต่ล้ำลึกถึงวิถีชีวิต ความคิด การเป็นไปของอคติและการยอมรับความหลากหลายทางเพศในยุคเรวะ ซึ่งถือเป็นศักราชใหม่ของญี่ปุ่น ประเทศที่คนใส่ใจเรื่องการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพื่อก้าวไปข้างหน้าให้ว่องไว พวกเขาจะยอมรับความแตกต่างหลากหลายที่มาทำให้ระบบระเบียบคลอนแคลนและสังคมวุ่นวายได้อย่างไร วิธีรับมือและปรับตัวของทั้งฝ่ายคนกลุ่มน้อยและของฝ่ายคนกลุ่มใหญ่ที่สนุกอย่าบอกใคร อัดแน่นอยู่ในเล่มนี้”

อลีน เฉลิมชัยกิจ 

เจ้าสำนักไดฟุกุผู้มีความหลากหลายทางเพศ

13

ชื่อหนังสือ : ชุดใหม่ใจกะพริบ กับนิวยอร์กทริปของมิสซิสบราวน์

ผู้เขียน : William Norwich

ผู้แปล : สธน ตันตราภรณ์

สำนักพิมพ์ : อะโวคาโด บุ๊กส์

บูท : C16

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : www.avocadobooks.co และ @avocadobooksTH ในทุกโซเชียลมีเดีย

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : นิยายเรื่องราวเรียบง่าย งดงาม อบอุ่นหัวใจ แฝงมุมมองปรัชญาชีวิต และแทรกเกร็ดความรู้วงการออกแบบเครื่องแต่งกาย

“นิยายที่เล่าเรื่องราวของ มิสซิสบราวน์ หญิงชนบทที่ใฝ่ฝันจะมีชุดกระโปรงแบรนด์เนมสักชุด จึงตัดสินใจเดินทางไปผจญภัยในนิวยอร์กด้วยตัวคนเดียว เพื่อตามหาชุดที่เธอปรารถนามาเติมเต็มความรู้สึกบางอย่างในจิตใจ 

ชุดใหม่ใจกะพริบ กับนิวยอร์กทริปของมิสซิสบราวน์ ถ่ายทอดแง่งามของชีวิตทั้งภายในและภายนอก โดยบอกเล่าเรื่องราวของบุคคลผู้มีจิตใจดี พร้อมถ่ายทอดความงามของบรรดาพัสตราภรณ์ และแทรกเกร็ดความรู้เกี่ยวกับการออกแบบเครื่องแต่งกายและแวดวงแฟชั่นอเมริกัน เขียนโดย William Norwich อดีตบรรณาธิการนิตยสาร Vogue สหรัฐอเมริกา แปลโดย สธน ตันตราภรณ์ อดีตรองบรรณาธิการนิตยสาร Vogue ประเทศไทย และออกแบบปกโดย นักรบ มูลมานัส

จักรกฤต โยมพยอม

บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์อะโวคาโด บุ๊กส์

14

ชื่อหนังสือ : แอปเปิลสามผลร่วงหล่นจากฟ้า 

ผู้เขียน : นารีเน อับกาเรียน นักเขียนชาวอาร์เมเนีย 

ผู้แปล : ช้องนาง ปรีชาเจริญศิลป์ (แปลจากภาษารัสเซีย) 

สำนักพิมพ์ : Library House

บูท : I41

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Library House, www.libraryhousebangkok.com  

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : นวนิยายที่มอบความอบอุ่นในหัวใจ และคนที่อยากไปเที่ยวอาร์เมเนียโดยการตีตั๋วเดินทางผ่านวรรณกรรม

แอปเปิลสามผลร่วงหล่นจากฟ้า เป็นงานเขียนของนักเขียนดาวรุ่งชาวอาร์เมเนีย (ปัจจุบันพำนักอยู่ที่กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย) ภูมิภาคที่คนไทยอาจยังไม่คุ้นเคยหรือยังรู้จักไม่มากนัก เนื้อหาเกี่ยวกับความสัมพันธ์หลายมิติของผู้คนในหมู่บ้านมารัน ซึ่งอยู่บนเทือกเขาห่างไกล

“เราจะได้เห็นวัฒนธรรมดั้งเดิมและแนวทางการใช้ชีวิตที่ดำรงจากรุ่นสู่รุ่น ได้ลิ้มรสอาหาร-เครื่องดื่ม ได้พูดคุยกับพ่อเฒ่าแม่แก่ ได้เห็นมิตรภาพและความเอื้ออารีแสนบริสุทธิ์แบบชาวชนบท ได้เข้าใจสารัตถะแห่งความเป็นมนุษย์ข้อใหญ่ นั่นคือทุกชีวิต หากยืนยาวพอ เราจะได้ผ่านพบเรื่องราวมากมาย ได้เป็นผู้มองเห็น เป็นผู้รับฟัง ได้เป็นผู้บอกเล่าเรื่องเก่าในอดีต และเป็นผู้ที่มีโอกาสตื่นรู้และยึดถือความดี”

รังสิมา ตันสกุล

บรรณาธิการบริหารไลบรารี่ เฮ้าส์

15

ชื่อหนังสือ : หากถามว่าชีวิตที่ผ่านมาฉันเคยเสียใจเรื่องไหนที่สุด

ผู้เขียน : 노우티 (KnowT) 

ผู้แปล : ธิญาดา สิทธิจารย์ 

สำนักพิมพ์ : Be(ing) 

บูท : E31 

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Biblio, www.biblio-store.com 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : พลังใจจากถ้อยความดี ๆ ที่ช่วยปลอบประโลม ทำให้รู้สึกว่าตัวเรามีคุณค่า และคืนวันที่ผ่านพ้นไปนั้นอาจมีความหมายมากกว่าที่เคยคิด 

“รวมเรื่องจริงขนาดสั้นของ 35 บุคคลที่หลายคนรู้จักกันดี อาทิ เบนจามิน แฟรงกลิน, ปาโบล ปิกัสโซ, ริวอิจิ ซากาโมโตะ, เอ็มมา วัตสัน, โจเซฟ พิลาทิส โดยไม่ได้เล่าประวัติของพวกเขาแบบยาวเหยียดละเอียดยิบ แต่จะหยิบเอาบางฉากของชีวิตมาเปิดเผยให้เราเห็นหลากหลายมุมมอง สุขเศร้า เจ็บปวด ผิดหวัง จนถึงวันที่พวกเขาลุกขึ้นหยัดยืนในตัวตนจนประสบความสำเร็จ ได้เป็นคนในแบบที่ตัวเองคาดหวังหรือใฝ่ฝัน 

“ผู้เขียน หากถามว่าชีวิตที่ผ่านมาฉันเคยเสียใจเรื่องไหนที่สุด มีวิธีการเล่าเรื่องที่อ่านสนุกไม่น่าเบื่อ น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความจริงใจขณะอธิบายกับเราว่า ไม่มีใครที่ไม่เคยเสียใจมาก่อน แต่เราแบ่งบานงดงามได้หลังผ่านคืนวันแสนบอบช้ำ ไม่เป็นไรหากวันนี้เรายังล้มลงและร้องไห้ ขอเพียงเรายังไม่หมดหวัง จะต้องมีวันที่ดีรอคอยเราอยู่อย่างแน่นอน”

นิสากรม์ ทองทา

Creative Content

16

ชื่อหนังสือ : ไปหาเธอที่ปลายทาง

ผู้เขียน : มาฮา ฮาราดะ

ผู้แปล : กนกวรรณ เกตุชัยมาศ

สำนักพิมพ์ : ซันเดย์ อาฟเตอร์นูน 

บูท : E31, J02, A26, G47

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Sunday Afternoon Page, typhoonbooks.com 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : พลังงานดี ๆ และแรงบันดาลใจ โดยเฉพาะนักอ่านที่กำลังรู้สึกเหนื่อยล้ากับชีวิตประจำวันที่วนลูป หรือมีปัญหาที่ยังก้าวข้ามไปไม่ได้  

ไปหาเธอที่ปลายทาง คือเรื่องเล่าขนาดสั้นของเหล่าหญิงสาวที่กำลังพบเจออุปสรรคในชีวิต ช่วงเวลานั้นเอง พวกเธอหยุดพักจากการงานหรือปัญหาที่เจอ แล้วออกไปพบปะผู้คน ธรรมชาติ และโอบรับประสบการณ์ใหม่จากการเดินทาง นั่นทำให้ทัศนคติของพวกเธอค่อย ๆ เปลี่ยนไป 

“นอกจากนี้ สารที่ผู้เขียนต้องการสื่อ คือความสำคัญของการก้าวไปข้างหน้าครั้งใหม่ ซึ่งถูกถ่ายทอดออกมาอย่างเรียบง่าย ทว่าสร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจ ผลงานของ มาฮา ฮาราดะ เล่มนี้ติดอันดับหนังสือขายดีที่ประเทศญี่ปุ่นมานานหลายปี”

ปาลิดา พิมพะกร

บรรณาธิการบริหาร ซันเดย์ อาฟเตอร์นูน

17

ชื่อหนังสือ : ความรักหน้าตาประมาณแมว (Awwwfluffy Story)

ผู้เขียน : โบนิตา อาดา

สำนักพิมพ์ : P.S. Publishing

บูท : E15

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : pspublishing.nativewhale.com 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : หนังสือสำหรับคนที่ตั้งคำถามซ้ำ ๆ ว่าความรักหน้าตาเป็นแบบไหนไม่ว่าคุณจะมีแมวหรือไม่ และเหล่าทาสแมวที่ตกอยู่ใน Toxic Relationship แต่ยังยืนยันที่จะรัก แม้จะไม่ได้ครอบครองใจแมวก็ตาม

ความรักหน้าตาประมาณแมว โดย โบนิตา อาดา เล่าเรื่องราวชวนหัวเราะและร้องไห้ระหว่างมนุษย์ที่มีความวิตกกังวลใจเป็นเจ้าเรือนและบรรดาแมวแสนฮีลใจที่สอนให้เธอปล่อยวางความฟุ้งซ่านจากอดีต เติบโตและใช้ชีวิตแบบมีความสุขอยู่กับปัจจุบัน ด้วยบทเรียนจากการเฝ้ามองเจ้าเหมียวเติบโต แม้จะแลกมาด้วยเลือดและรอยเล็บก็ตาม 

“ในเล่มนี้ คุณจะได้พบกับประโยคที่ทำงานใกล้ใจ ไม่ว่าคุณจะมีแมวเป็นของตัวเองหรือไม่ ผ่านการสบตากับความรักที่ไม่รีดเค้นหรือคาดหวังสิ่งใด รักที่ยังอยู่เคียงข้างแม้ในวันที่คุณแหลกสลายในโลกที่อะไร ๆ ดูจะไม่เป็นไปดั่งใจหมาย แมวจะอยู่ตรงนี้ เป็นบ้านของใจในวันที่เหนื่อยล้า ปลอบประโลมและโอบกอดจิตวิญญาณของคุณในห้วงเวลาแห่งการเยียวยา จนกว่ารอยยิ้มจะกลับมาเปื้อนหน้าคุณอีกครั้ง”

ณัฐพร เทพานนท์

นักการตลาดสร้างสรรค์

18

ชื่อหนังสือ : แมวสอนเซน 

ผู้เขียน : James Norbury

ผู้แปล : อรดา ลีลานุช

สำนักพิมพ์ : นานมีบุ๊คส์

บูท : D02 

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Nanmeebooks Fan 

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : หนังสือเกี่ยวกับแนวคิดเซนที่เล่าสนุกอ่านเพลิน

“ในเมืองห่างไกล แมวแก่ตัวหนึ่งถือว่าตัวเองฉลาดเท่าที่จะเป็นไปได้ จนกระทั่งได้ยินเรื่องราวของต้นสนโบราณที่อยู่ห่างไกล ซึ่งใต้กิ่งก้านของมันเต็มไปด้วยปัญญาอันไร้ขอบเขต แมวจึงเริ่มออกเดินทางลึกเข้าไปในป่าเพื่อค้นหาต้นไม้นั้น ระหว่างทางเขาได้พบเพื่อนใหม่มากมาย และได้พบกับลูกแมวที่เต็มไปด้วยพลังแห่งความหนุ่มสาว ปัญญาใดที่แมวถ่ายทอดให้กับเพื่อน ๆ ของเขาได้ และอาจสำคัญยิ่งกว่านั้น มีอะไรที่เขายังต้องเรียนรู้อีกบ้าง 

แมวสอนเซน มาพร้อมกับภาพประกอบที่สวยงามและเสียงเล่าที่อ่อนโยน เล่มนี้นำเรื่องเล่าโบราณของแนวคิดเซนมาเล่าใหม่ให้อ่านง่ายขึ้น ผสมกับเรื่องราวใหม่ที่ผู้เขียนแต่งขึ้น โดยยังคงกลิ่นอายการเล่าเรื่องแบบเซนเอาไว้ใช้เรื่องเล่าหลักที่คลุมเรื่องเล่าย่อย ๆ จากผู้เขียนและผู้วาดภาพประกอบของหนังสือขายดีระดับโลกอย่าง Big Panda & Tiny Dragon (แพนด้ายักษ์กับมังกรจิ๋ว) สู่หนังสือปรัชญาภาพประกอบ มาสำรวจความงดงามของการเดินทางเพื่อการค้นหาคำตอบทางจิตวิญญาณ และการต่อสู้ดิ้นรนตามเส้นทางแห่งจิตวิญญาณ”

กองบรรณาธิการนานมีบุ๊คส์

19

ชื่อหนังสือ : แห่งใดหรือคือบ้าน

ผู้เขียน : นิ้วกลม

สำนักพิมพ์ : KOOB

บูท : G43

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Roundfinger

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : บ้านของหัวใจ

แห่งใดหรือคือบ้าน เป็นบันทึก​การเดินทางที่ชวนครุ่นคิดถึงคำถามสำคัญของยุคสมัยว่า ‘บ้าน’​ ที่เราตามหานั้นอยู่ที่ใด อะไรคือองค์ประกอบของที่พักหัวใจที่เรารู้สึกสบายใจ เป็นตัวเอง และเป็นสุข” 

สราวุธ​ เฮ้งสวัสดิ์​ 

ผู้ก่อตั้งสำนักพิมพ์ KOOB

20

ชื่อหนังสือ : DEATH WISH 10 วันก่อนฉันตาย

ผู้เขียน : Atompakon

สำนักพิมพ์ : 10 มิลลิเมตร

บูท : F42 

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตร

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : หนังสือที่จะทำให้คุณตระหนักถึงเวลาชีวิตที่ยังเหลืออยู่

DEATH WISH 10 วันก่อนฉันตาย ว่าด้วย 10 เรื่องสั้นของ 10 ชีวิต กับ 10 วันสุดท้ายในชีวิต ผลงานเรื่องและภาพโดย Atompakon ที่จะพาเดินทางดำดิ่งลงลึกไปในความเจ็บปวดและจะพาล่องลอยสู่แสงสว่างวันใหม่”

ปืน 

ผู้จัดการสำนักพิมพ์ 10 มิลลิเมตร

21

ชื่อหนังสือ : หนังสือ/รูปร่าง/ว่างไร้ (The Book of Form and Emptiness)

ผู้เขียน : Ruth Ozeki

ผู้แปล : ศรรวริศา

สำนักพิมพ์ : กำมะหยี่ 

บูท : I06

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์กำมะหยี่

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : การปลอบใจจากการสูญเสียผู้เป็นที่รัก หนทางเยียวยาจิตใจจากความเจ็บปวด ความเป็นไปได้ของความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับวัตถุ เรื่องราวอ่านสนุกที่หนังสือเป็นตัวเอก เล่มหนา ๆ อ่านกันยาว ๆ เต็มอิ่ม 

หนังสือ/รูปร่าง/ว่างไร้ (The Book of Form and Emptiness) มีการเล่าเรื่องที่แปลกใหม่ การใช้กลวิธีเมตาฟิกชันโดยให้หนังสือรู้ตัวว่าเป็นหนังสือและเป็นผู้เล่าเรื่อง แทรกประเด็นทางจิตวิทยาได้อย่างแยบยลไม่ยัดเยียด สะท้อนความเข้าใจเรื่องความจริง เชื่อมโยงวัฒนธรรมอเมริกัน-ญี่ปุ่นที่แตกต่างเข้าด้วยกันได้อย่างน่าติดตาม”

อธิชา กาบูล็อง

บรรณาธิการบริหาร ป้าเจ้าสำนัก

22

ชื่อหนังสือ : เบิกบานด้วยปัญญา : เปิดใจรับความเปลี่ยนแปลง อ้าแขนรับอิสรภาพ (Joyful Wisdom: Embracing Change and Finding Freedom) 

ผู้เขียน : Yongey Mingyur Rinpoche with Eric Swanson

ผู้แปล : นัยนา นาควัชระ

สำนักพิมพ์ : สวนเงินมีมา

บูท : F24

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : ทางออกของปัญหาในชีวิต หรือหากยังไม่มีปัญหา ไม่มีความยุ่งยากในชีวิต มีความสุขความพอใจกับชีวิตอยู่แล้ว ก็นำคำสอนเหล่านี้มาใช้เป็นเครื่องตรวจสอบสภาพพื้นฐานของชีวิตได้ ช่วยให้เราค้นพบและบ่มเพาะศักยภาพในตัวเอง

“ผู้เขียนชี้วิธีใช้ปัญญาในการมองปัญหา ข้อติดขัดคับข้องในชีวิตประจำวันที่อาจยังไม่ใช่เรื่องใหญ่หรือวิกฤตชีวิตอะไร ทำให้เราได้เข้าใจ ‘ทุกข์’ หรือความรู้สึกไม่เป็นสุขของผู้คนร่วมยุคร่วมสมัย เพื่อเข้าถึงศักยภาพในตัวเองที่จะเปลี่ยนสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้เป็นปัญญาในการแก้ไข จัดการกับปัญหาทางอารมณ์ และปัญหาส่วนตัวอื่น ๆ”

นงลักษณ์ สุขใจเจริญกิจ

การตลาด สื่อสารองค์กร สำนักพิมพ์สวนเงินมีมา

23

ชื่อหนังสือ : ตำรับสร้าง(รส)ชาติ

ผู้เขียน : นริศ จรัสจรรยาวงศ์

สำนักพิมพ์ : มติชน

บูท : J02

ช่องทางติดตามสำนักพิมพ์ : Line : @matichonbook, Matichon Book, matichonbook

หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนที่กำลังมองหา : หนังสือที่เล่าประวัติศาสตร์ผ่านหลักฐานร่วมสมัยอย่างหนังสือตำราอาหาร ซึ่งหากมองผิวเผินแล้วอาจจะนึกว่าหนังสือประเภทนี้นำเสนอเพียงสูตรอาหาร แต่ถ้ามองให้ลึกลงไปจะพบว่าตำราเหล่านี้ได้สะท้อนสภาพสังคมไทยในอดีต ทั้งในมิติการเมือง สังคม และวัฒนธรรม รวมถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ที่น้อยคนจะได้รู้

“นี่ไม่ใช่หนังสือตำราอาหารการครัว แต่เป็นหนังสือที่จะพาทุกคนย้อนเวลาเพื่อสืบหาตำราอาหารเล่มแรกที่ตีพิมพ์ขึ้นในสังคมไทย ภายใต้บริบทแวดล้อมที่ทำให้ตำราอาหารสูตรต่าง ๆ ถือกำเนิดขึ้น เดิมทีเคล็ดวิชาอาหารการครัวถ่ายทอดกันเฉพาะในหมู่คนวงใน บ้านแต่ละหลัง วังแต่ละแห่ง จึงมีสูตรลับเฉพาะอันเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง 

“จนกระทั่งการเข้ามาของเทคโนโลยีการพิมพ์และปรากฏการณ์วังแตกหลังการปฏิวัติ 2475 ที่ทำให้เหล่าข้าราชบริพารรวมถึงเชื้อพระวงศ์บางคนเริ่มตีพิมพ์สูตรอาหารจากสำนักของตนในวาระโอกาสต่าง ๆ มากยิ่งขึ้น จนกลายเป็น Soft Power อย่างหนึ่งของฝ่ายอนุรักษนิยมที่เริ่มกลับมามีบทบาททางการเมืองตั้งแต่ช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จนสถาปนาความเป็นเลิศของรสชาติไทยได้ 

“นอกจากนี้ หนังสือยังนำเสนอวัฒนธรรมอาหารใหม่ ๆ ที่เฟื่องฟูขึ้นในช่วงคาบเกี่ยวกับการปฏิวัติ 2475 ไม่ว่าจะเป็นการตามรอยภัตตาคารอาหารจีนและ ‘กุ๊กช็อป’ ดังในอดีต การเกิดขึ้นของ ‘ลัทธิโปรตีนนิสต์’ ที่มาพร้อมกับกระแส ‘ตื่นถั่วเหลือง’ ของรัฐบาล จอมพล ป. พิบูลสงคราม อีกทั้งผู้เขียนยังได้รวบรวมรายชื่อตำราอาหารสำคัญตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนถึงปัจจุบันไว้ถึง 101 ชิ้น”

พีรณัฐ เปี่ยมศักดิ์สันติ

บรรณาธิการเล่ม

Writer

ธัญญารัตน์ โคตรวันทา

ธัญญารัตน์ โคตรวันทา

มนุษย์อยู่ไม่ติดบ้าน มีงานอดิเรกคือการเดิน