ดีโมครีตัส นักปราชญ์ชาวกรีก กล่าวว่า ทุกสิ่งทุกอย่างประกอบขึ้นมาจากอนุภาคที่เล็กมากๆ อยู่และรวมตัวกันด้วยวิธีการต่างๆ โดยที่อนุภาคนั้นไม่มีการเปลี่ยนแปลงหรือแตกแยกเป็นชิ้นส่วนใดๆ ที่เล็กกว่านี้ได้อีก ดีโมครีตัสเรียกชื่อมันว่า อะตอม

ก่อนที่คุณจะสงสัยว่านี่ใช่ ‘วิกิพีเดีย’ หรือเปล่า เราขอให้ข้อมูลเรื่องทฤษฎีอะตอมอีกสักเรื่อง

ประโยชน์จากการรู้จักโครงสร้างอะตอม ทำให้เราสามารถศึกษากาแล็กซี ดวงดาว และดาวเคราะห์ต่างๆ โดยพิจารณาจากสเปกตรัมของดวงดาว

เหตุผลที่เรานัดหมายกับ อะตอม-ชนกันต์ รัตนอุดม ไม่ใช่เรื่องการค้นพบข้อทฤษฎีตำราทางวิทยาศาสตร์นี้ แต่ไม่รู้ว่าบังเอิญหรือจงใจ เพราะเพลงใหม่ที่เขาร่วมเป็น 1 ใน 8 ศิลปินที่มาร่วมในโปรเจกต์พิเศษ Mini Marathon Project ของพี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ นั้นเล่าถึงระยะทางอนันต์ในช่วงจักรวาลพอดิบพอดี

ก่อนจะใช้สิทธิ์หน้าที่ในทางมิชอบ แอบฟังเพลงหวานๆ นี้ก่อนใคร

การถ่ายทอดความรู้สึกของพี่เบิร์ด จากคำร้องและทำนองของนักร้องรุ่นน้องคนนี้ ทำให้เราเชื่ออย่างเต็มหัวใจว่าใครหลายคนจะได้รับพลังงานชั้นดีในแบบที่เขาทั้งคู่ถ่ายทอดและส่งต่อถึงแฟนเพลงเสมอมา

นอกจากเรื่องการทำงานกับพี่เบิร์ดในโปรเจกต์พิเศษ เราชวน อะตอม ชนกันต์ สนทนาถึงเส้นทางการตามหาความฝัน ตัวอย่างของคนที่ใช้พรสววรรค์ที่มีอย่างถูกทาง

พร้อมแล้ว ขอเชิญคุณเข้าห้องทดลองและสังเกตธรรมชาติ ปรากฏการณ์ที่อิเล็กตรอนในวงโคจรของอะตอมที่วิ่งมาชนกัน

อะตอม ชนกันต์

นักบินอวกาศฝึกหัด

ก่อนจะมาเป็นนักร้องหนุ่มในสไตล์แจ๊ส โซล อาร์แอนด์บี แบบนี้ อะตอมในวัยอนุบาลรักการร้องลูกทุ่งมาก่อน เพราะมีแม่ที่ชอบ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มาก ก่อนจะเริ่มหัดเล่นกีตาร์ในสมัยประถม ลองแต่งเพลงจากความเจ้าบทเจ้ากลอนของตัวเองในสมัยมัธยมต้น ลองทำเดโม่และยื่นสมัครเข้าค่ายเพลงในช่วงมัธยมปลาย

แต่นี่คือชีวิตจริงไม่อิงละครช่องสถานีไหนๆ การยื่นเดโม่เทปครั้งที่ 1 ไม่ใช่จุดเริ่มต้นที่ให้ผลตามความคิดฝัน เส้นทางสายดนตรีของเขา เริ่มต้นและออกเดินทางเหมือนใครหลายคนที่หลงใหลในเสียงเพลง

ในขณะที่ทุกคนก็รู้ว่าอะตอมเป็นนักเรียนกฎหมายจากโรงเรียนกฎหมายมีชื่อของประเทศ ที่ตัดสินใจเดินตามเส้นทางของครอบครัว โชคดีที่อะตอมไม่ได้ตัดสินใจเป็นนักกฎหมาย ทนาย หรืออัยการ ไปเสียก่อน เราจึงได้ฟังเพลงภาษาสวยๆ เนื้อหากินใจ ในแนวเพลงแปลกใหม่ อย่างที่เป็นอยู่

แต่ก็อดสงสัยไม่ได้อยู่ดี ว่าการทำเพลงในแบบของอะตอมนั้น ใช้หลักการหรือแนวคิดทางนิติศาสตร์ที่เรียนมาอย่างไรบ้าง

“ช่วยเรื่องการเขียนเนื้อเพลงนะ” อะตอมรีบตอบคำถาม แน่ล่ะ เชื่อแล้วก็ได้ว่าเรียนมา

“เวลาสอบ ไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไรก็ตามของกฎหมาย แน่นอนว่าไม่มีตัวเลือกคำตอบให้เขียนตอบสั้นๆ ในโจทย์ 5 ข้อนั้นกำหนดให้เขียนบรรยายคำตอบข้อละ 4 – 5 หน้า เขียนให้เหตุและผลสนับสนุนข้อกฎหมายนั้นๆ ผมจึงเชี่ยวชาญเรื่องเรียงความเหมือนนักศึกษากฎหมายทุกคน การเขียนและการใช้คำให้เหตุผลมากว่าศาสตร์สายอื่น ยิ่งผมเป็นคนชอบภาษา ชอบบทกลอน เมื่อประกอบกันจึงมีผลต่อการเขียนเพลง ลำดับความคิดให้เหตุผลและตรรกะของเพลง เน้นให้ประเด็นหลักของเนื้อเพลงชัดขึ้น” ได้ยินแบบนี้ เราก็ไม่แปลกใจว่าทำไมเพลงของนักร้องหนุ่มถึงออกมาตรงหัวใจเสมอ

ไม่ต้องถึงมือผู้พิพากษาก็ได้ แค่นี้ก็ยอมความแล้วทุกสิ่ง

อะตอม ชนกันต์ อะตอม ชนกันต์

สภาวะไร้น้ำหนัก

หลังจากส่งเดโม่เทปและเข้าสู่การเตรียมตัวเป็นศิลปิน บททดสอบแรกก็มาถึง

น้อยคนจะรู้ว่า กว่าที่เพลงแรกในชีวิตของเขาจะพาเขามาถึงทุกวันนี้ อะตอมต้องผ่านกระบวนการอดทนรอแบบที่ศิลปินฝึกหัดทุกคนล้วนต้องเจอ

เราถามอะตอมว่า เขามีวิธีบอกตัวเองอย่างไร ไม่ให้ถอดใจกลับไปเป็นทนายอาชีพเสียก่อน

“เรารอนานแค่ไหนก็ได้ มีจุดของการเปลี่ยนที่เราต้องการ จุดที่ถ้าผ่านจุดนี้แล้วไม่รอดเราจะยอมแพ้ ซึ่งก็คือ การที่เพลงของเราไปถึงคนฟังแล้วคนฟังไม่ชอบ ตอนนั้นแหละเราจะยอมถอดใจ แต่ช่วงเวลาที่รออยู่นั้นเพลงเรายังไม่ออกมาเลย เราก็เลยรู้สึกว่าถ้าไม่ลองให้รู้ตอนนี้เราคงเสียใจไปตลอดชีวิต” อะตอมบอกว่า เขาให้เครดิตความดื้อของตัวเอง

และในที่สุดเขาก็พบคำตอบว่าเขารอเพื่ออะไร อะตอมบอกว่า เขารอเพื่อคุยกับตัวเองให้รู้เรื่อง รอเพื่อเจอคนที่เข้าใจ คนที่ใช่ จนได้เจอทีมโปรดิวเซอร์ (กันต์ รุจิณรงค์ และ กวิน อินทวงษ์) เจอคุณอาร์ม (รัฐการ น้อยประสิทธิ์) และนั่นก็ทำให้เขามีความพร้อมมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

“จุดที่ใช่ จุดที่คลิกกัน คือจุดเหตุการณ์หรือความรู้สึกแบบไหน” เราถาม

“เหมือนเจอผู้หญิงเลย บอกไม่ถูกเหมือนกัน แต่มันคือเคมี มันคือความคุยกันรู้เรื่อง ความเข้าใจ ความไม่พยายามเปลี่ยนแปลงอีกฝ่ายหนึ่ง” อะตอมตอบ ก่อนเล่าความประทับใจช่วงที่ใช้เวลาอยู่ร่วมกับทีมงานทุกคนซึ่งล้วนทำงานเบื้องหลังให้กับ บุรินทร์ บุญวิสุทธิ์ และวง Groove Riders จึงทำให้อะตอมมีโอกาสร่วมทัวร์คอนเสิร์ตเก็บเกี่ยวประสบการณ์มากมาย

“ในเรื่องการทำงาน เราพบว่าเราชอบอะไรเหมือนๆ กัน เป็นเรื่องที่ทำให้คุยกันรู้เรื่อง เราชอบแนวดนตรีคล้ายกัน ชอบ Blues, Soul, Jazz ชอบดนตรีคนผิวสี อีกเรื่องคือประสบการณ์และความเชี่ยวชาญที่ทีมให้คำแนะนำกับผมเสมอ และที่สำคัญที่สุดคือ ความเชื่อในตัวเรา ไม่ว่าใครก็ตามล้วนต้องการอยู่กับคนที่เชื่อในตัวเราทั้งนั้น กับทีมนี้ผมได้ลองทำ ได้รับโอกาส มีงานเป็นชิ้นเป็นอัน ให้เวลาและพลังของเขาแก่เราอย่างเต็มที่เพื่อพัฒนาตัวเองขึ้นมาในฐานะศิลปิน” อะตอมตอบ และเป็นเราที่แอบยิ้มให้กับคำตอบเหล่านั้น ดีใจที่ใครบางคนเจอกับใครที่เหมาะและสมกัน และเราในฐานะคนฟังเพลงผู้ชื่นชอบดนตรีในแนว Blues, Soul, Jazz เหมือนกันจึงได้มีโอกาสฟังเพลงดีๆ จากศิลปินกลุ่มนี้

อะตอม ชนกันต์ เบิร์ด ธงไชย

สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น

เรื่องหนึ่งที่ต้องขอสารภาพตอนนี้อย่างเสียไม่ได้คือ เพลงของอะตอมมักจะมีพระเอกมิวสิกวิดีโอที่เก่งกาจเรื่องการดึงความสนใจ โชคดีที่จิตใจเราแข็งแกร่งพอประมาณ ไม่เสียสมาธิ จึงสัมผัสเนื้อความอันชอกช้ำที่ซ่อนอยู่ในบทเพลงได้เต็มที่

อะไรทำให้เนื้อเพลงของอะตอมหม่นหมองอย่างแตกต่าง

ในกระบวนการคิดและเขียนเพลงที่ดี อะตอมเล่าสั้นๆ ว่า นักเขียนเพลงที่ดีจะเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องภาษาเยอะๆ เพราะภาษาไทยละเอียดอ่อนมากเมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษ มีวรรณยุกต์ สัมผัส และการให้ความหมายของคำ

“คำแนะนำแรกๆ ที่พอจะให้ได้คือเรื่องของภาษา ลำดับต่อมาคือการฟังเพลง สำคัญมากๆ เป็นครูที่เราสามารถหาได้ทุกที่ ยิ่งสมัยนี้ยิ่งสบาย ก็อยู่ที่เราว่าจะขวนขวายขนาดไหน แต่ถ้าถามลักษณะเฉพาะของนักแต่งเพลงที่ดีเลยจริงๆ ข้อนี้ไม่รู้เลย ผมก็ไม่แน่ใจว่าคนอื่นเป็นอย่างไรบ้าง เขาอาจจะเป็นคนที่ละเอียดอ่อนกว่าคนปกติประมาณหนึ่ง” อะตอมตอบ ก่อนจะเสริมว่าความอ่อนไหวก็เป็นเรื่องจำเป็น เพราะหากไม่มีความรู้สึกต่อสิ่งใดง่ายๆ ก็คงเขียนอะไรไม่ได้

หนึ่งในเรื่องตลกร้ายที่แสนจริงก็คือ เมื่อโตขึ้นความอ่อนไหวที่เคยมีจะยิ่งหายไป ดังนั้นจึงอย่าแปลกใจ หากช่วงนี้เราจะได้ฟังเพลงใหม่จากอะตอมรัวๆ

สิ่งสำคัญต่อมาก็คือทำนอง เมโลดี้แปลกหูที่ถูกใจคนฟังเพลงเกิดจากรสนิยมการเลือกใส่แนวเพลงเท่ๆ แบบที่อะตอมและทีมโปรดิวเซอร์คู่ใจชอบ ผสมลงไปในความเป็นเพลงป๊อปฟังง่าย ละลายกำแพงระหว่างดนตรีในกระแสและนอกกระแส

และถ้าคุณเป็นแฟนตัวจริงของอะตอม คุณจะพบพรสวรรค์ข้อนี้

เรื่องเล่าและการเล่าเรื่อง อะตอมบอกว่า เขารักและผูกพันกับทุกเพลงที่แต่ง เพราะเรื่องราวเหล่านั้นเกิดขึ้นจริงกับตัวเขา

“ทุกครั้งที่อ่านเนื้อเพลงหรือทุกครั้งที่ได้ยิน ภาพจริงที่เกิดขึ้นก็วนอยู่ในนั้น” คำตอบของเขาทำให้เราเลี่ยงที่จะสบตาตรงๆ

แม้เรื่องราวในเนื้อเพลงจะเคยเกิดขึ้นจริงกับอะตอม เป็นเรื่องส่วนตัวมากๆ แต่แปลกดีที่เพลงของเขาก็วิ่งเข้าไปหาใจของคนฟังอย่างเราๆ ด้วย

อะตอม ชนกันต์ เบิร์ด ธงไชย

“ผมคิดว่ามันจริงใจดีนะที่เราได้แบ่งปันเรื่องของเราเข้าไปในเพลงจริงๆ แล้วคนฟังก็ตอบรับกลับมาด้วย เป็นความสัมพันธ์อีกรูปแบบที่เราเพิ่งได้สัมผัสเมื่อเป็นนักร้อง เวลาไปร้องสดแล้วคนดูร้องกลับมา เช่น เสียงตะโกนร้องที่ฟังดูแค้นใครเมื่อเพลง อ้าว ดังขึ้น หรือเต็มไปด้วยเสียงความสะใจ ผมว่าคนจะอินเพลงนี้ก็ยังรักคนที่มาง้ออยู่แหละ เป็นประสบการณ์ที่ใครก็คงเคยเจอ ความรู้สึกของการทำให้เป็นของตาย แล้วเมื่อถึงจุดหนึ่งที่ทำใจได้แล้วเขาดันกลับมา” อะตอมเล่าความรู้สึกและบรรยากาศที่เขารอพบเจอทุกครั้งเมื่อแสดงสด

โดยสรุปแล้ว นักร้องทุกคนล้วนมีคาแรกเตอร์ในการถ่ายทอดเพลงแตกต่างกันไป และสำหรับเขาที่อยู่ตรงหน้าเราตอนนี้ เขาบอกว่า เขาเป็นคนเล่าเรื่องและเรื่องก็เป็นของเขาอีก จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกอินไปใหญ่

“ผมรู้สึกว่าจุดร่วมของนักเขียนเพลงที่ดีเขาจะมีปมอะไรบางอย่าง ความเจ็บปวดหรืออะไรในชีวิต ความรู้สึกอ่อนไหวกับบางเรื่อง แล้วบรรยายมันออกมา แม้แต่เพลงรักก็ตาม ถ้าคุณจิตใจแข็งแรงไม่แคร์ใคร ใครจะมารักคุณ คุณก็ไม่สน มันก็คงเขียนเพลงรักออกมาไม่ได้”

เดาไม่ยาก ว่าเรื่องที่จะทำให้เขาอ่อนไหวที่สุดคงหนีไม่พ้นเรื่องความรัก

อะตอมหัวเราะรับแทนคำตอบ

“เรื่องความรักของผม จริงๆ มันก็ไม่ได้บ่อยกว่าคนรุ่นเดียวกันเท่าไหร่หรอก เพียงแค่รู้สึกว่ามันหนักและเราเองก็เป็นคนละเอียดอ่อนในการจับความรู้สึกเหล่านี้มาเขียนเป็นเพลง หรือการคิดถึงมันซ้ำๆ และถ่ายทอดมันออกมาเราค่อนข้างจะทำได้เยอะ เรื่องเรื่องเดียว โอเค มาเป็นถาด (หัวเราะ) มีเพลงอีกเยอะที่ก็ยังเก็บไว้เพราะคิดว่ายังดีไม่พอ อยู่ระหว่างพัฒนาให้เสร็จ แต่ 3 – 4 เพลงแรกที่ทุกคนได้ยินมันค่อนข้างจะสดมากๆ เขียนขึ้นมาในเวลาสั้นๆ อย่างเพลง PLEASE ผมใช้เวลาเพียง 2 ชั่วโมง แล้วไม่แก้เนื้อร้องอีกเลย”

“ถ้างั้นเราก็ต้องอวยพรให้อะตอมผิดหวังในความรักอีกบ่อยๆ จะได้มีเพลงดีๆ ฟังอีก” ทีมงานที่อยู่ร่วมวงสนทนานี้ด้วยกันร้องสรุปสิ่งที่ฟังเมื่อสักครู่ ก่อนที่อะตอมจะทิ้งท้ายเรื่องความเศร้าและสวยงามในความสัมพันธ์ว่า

“ผมคิดว่าที่มันแย่และเจ็บปวดเพราะมันเคยมีช่วงเวลาที่ดีมากๆ ด้วยกัน แล้วมันก็ต้องหยุด ต้องแยกกันไป และเราก็ไปนึกถึงช่วงเวลาที่ดีนี่แหละ ไม่งั้นก็คงไม่เศร้าหรอก”

ฟังแล้วก็อยากลอยตัวไปให้ไกล สู่ความเวิ้งว้างแล้วเคว้งคว้างให้ไกลโพ้น

ใช่ ถ้าไม่มีความสุขมาก่อน มันก็คงไม่มีความเศร้าให้คิดถึง

กอบกู้จักรวาลและกาแล็กซี่

อะตอม ชนกันต์ เบิร์ด ธงไชย

ตั้งแต่จำความได้ เด็กชายอะตอมรู้จักและจดจำพี่เบิร์ดผ่านทุกสื่อบันเทิงในบ้านเรา โทรทัศน์ หนัง ละคร เทปเพลง

“แม่ยังเคยเล่าให้ฟังว่า ผมเต้นเพลง พริกขี้หนู ในงานโรงเรียนสมัยอนุบาล แม้จะจำเรื่องราวทั้งหมดไม่ได้ แต่รู้เสมอว่าเพลงพี่เบิร์ดอยู่กับเรามาตลอด เรารู้ว่าพี่เบิร์ดเป็น superstar แต่เราก็เด็กเกินไปที่จะเข้าใจความหมายของคำนี้ ไม่รู้ความยากลำบากหรือเรื่องการวางตัวสำหรับการเป็นขวัญใจมหาชนของคนทุกเพศทุกวัย”

ในช่วงที่โตขึ้นและมีโอกาสทำงานในสายดนตรี เมื่ออะตอมย้อนกลับไปฟังเนื้อหาของเพลงพี่เบิร์ดอีกที เขาก็รู้สึกทึ่งระคนกับความตื่นเต้นที่พี่เบิร์ดได้ร่วมงานกับนักแต่งเพลงเก่งๆ มาโดยตลอด และยิ่งเป็นพี่เบิร์ดที่ถ่ายทอดอารมณ์ผ่านคำร้องเหล่านั้นออกมา ทุกอย่างก็ลงตัวไปหมด

ไม่แปลกใจว่าทำไมใครต่อใครถึงรักเพลงพี่เบิร์ดและร้องตามได้เสมอไม่ว่าเวลาจะผ่านมาเท่าไหร่

“เรารู้สึกว่าคงไม่มีพี่เบิร์ดคนที่ 2 ไม่มีอีกแล้วยุคที่ใครจะขึ้นมาเป็น superstar แบบนี้ได้อีก ด้วยพลัง ด้วยความคิด และความตั้งใจ ของคนในยุคนั้น เด็กรุ่นใหม่อย่างเราไม่มีทางทำได้แบบนั้น ความทุ่มเท่ ยอมสละชีวิตส่วนตัว และความสะดวกสบายบางอย่าง เพื่ออยู่กับแฟนเพลง เพื่ออยู่ตรงนี้ เพื่อทำงานของตัวเองให้ดี แบบที่พี่เบิร์ดเป็น ถ้าถามเราว่า เรายอมแลกสิ่งที่ต้องเสียไปเหมือนพี่เบิร์ดได้ไหม ตอบได้เลยว่า ทำไม่ได้จริงๆ พี่เบิร์ดเป็นคนสุดท้ายในความทรงจำของเราที่จะขึ้นไปอยู่จุดนั้นได้” อะตอมตอบ ก่อนที่เราจะถามเขาถึงเพลงพี่เบิร์ดที่เขาชอบที่สุด

เบิร์ด ธงไชย

“ผมชอบเพลง ขอบใจจริงๆ ได้ยินมานานแล้ว แต่ตอนเด็กเราไม่เข้าใจว่าขอบใจจริงๆ ขอบใจอะไร”

เราไม่จำเป็นต้องถามว่า อะตอมชอบเพลงนี้มากแค่ไหน หรืออะตอมในวันนี้รู้แน่ชัดแล้วใช่ไหมว่าพี่เบิร์ดขอบใจอะไร แต่โปรดติดตามเพลงลำดับต่อไปจากเขา ที่หยิบเนื้อเพลง ขอบใจจริงๆ ในท่อน ‘ฉันเจ็บครั้งนี้ ฉันมีเธอเป็นดั่งครู’ มาเป็นแรงบันดาลใจ

เพื่ออรรถรส เราจะเปิดเผยเนื้อความประมาณหนึ่งให้คุณได้เตรียมตัวก่อนใคร

จาก ‘ฉันเจ็บครั้งนี้ ฉันมีเธอเป็นดั่งครู’ สู่ถ้อยคำทักทายคุณครูในวันที่บังเอิญพบหน้า กับเนื้อหาประมาณว่า Good morning teacher. How are you today? และต่อด้วย I’m fine. I’m ok, better than yesterday แล้วนะ เป็นอย่างไรล่ะ ได้ยินแค่นั้นเราก็อยากให้เขาปล่อยเพลงนี้ออกมาในเร็ววัน

สำหรับโปรเจ็กต์นี้ อะตอมได้รับโจทย์ระยะทางวิ่งมาราธอนในช่วงแห่งการยืนยันที่จะไปต่อ แม้จะยากลำบาก ผ่านเพลงเนื้อหาน่ารักที่ชื่อว่า กว่าจักรวาล พูดถึงการยอมลำบากเพื่อคนที่รัก เพราะขอเพียงมีเธอรออยู่ ต่อให้ไกลแค่ไหนก็จะไปให้ถึง โดยมีแรงบันดาลใจจากเรื่องราวสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เป็นช่วงที่พ่อและแม่จะขับรถจากบ้านที่ศาลายา นครปฐม มาเยี่ยมที่หอพักใกล้มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิทยาเขตรังสิต ปทุมธานี ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ แม้อะตอมจะบอกให้ท่านทั้งสองไม่ต้องมาหาบ้างในบางสัปดาห์เพราะกลัวจะเหนื่อยเกินไป คำตอบจากพ่อและแม่ก็ทำให้เขาปฏิเสธไม่ลง คำที่บอกว่า เขาจะเข้าใจความรู้สึกนี้ในวันที่มีลูก ความไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหรือลำบากในระยะทางหากเพียงได้มาเห็นหน้า

เหตุผลที่เพลงนี้มีเนื้อหาสดใสและเต็มไปด้วยความสุขสมหวังกว่าที่เคย นักร้องหนุ่มผู้สารภาพว่ารักใคร่ในเพลงที่มีเนื้อหาเจ็บปวด รีบเฉลยว่า เขาแต่งเพลงนี้พร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่ได้จะร้องเองหรือคิดว่าจะให้ใครร้อง จนวันเข้าร่วมประชุมโปรเจ็กต์นี้ พี่เบิร์ด ทีมงาน และศิลปินท่านอื่นๆ ต่างก็เห็นตรงกันว่าเพลงนี้น่าจะเหมาะสม เพราะเนื้อหาค่อนข้าง positive

อะตอม ชนกันต์ เบิร์ด ธงไชย

ก่อนที่อะตอมจะเล่าอย่างติดตลกว่าเขาถ่ายทอดความคิดเชิงบวกเหล่านี้ไม่อยู่ เมื่อเทียบกับพี่เบิร์ดผู้ผ่านมาหมดแล้วทั้งเพลงเศร้า เพลงสดใส เพลงให้กำลังใจคน

“เราทึ่งในความสามารถของพี่เบิร์ด 8 ศิลปิน 8 สไตล์ พี่เบิร์ดเป็นได้ทุกอย่างจริงๆ จุดสำคัญที่ประทับใจมากๆ คือพี่เบิร์ดไม่มีกำแพง ไม่เคยตั้งกำแพงในการทำงานของตัวเองหรือเมื่อต้องร่วมงานกับใคร สัมผัสพลังเหลือล้นและความพร้อมที่จะเปิดใจลองทุกอย่าง ผมไม่เคยได้ยินคำว่าทำไม่ได้จากพี่เบิร์ดเลย ได้ยินแต่คำว่าลองดูๆ ซ้ำๆ แบบนั้น เป็นพลังที่ดีที่ทุกคนที่อยู่รอบตัวพี่เบิร์ดได้รับร่วมกัน” อะตอมเล่าความรู้สึกที่ได้รับจากการทำงานร่วมกับพี่เบิร์ดในโปรเจ็กต์นี้

จากเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่หมั่นจดตำราและทบทวนตัวเอง ผ่านการสังเกตพี่เบิร์ดอยู่ห่างๆ ในวันที่ได้รับโอกาสทำงานร่วมกัน ส่วนผสมที่ลงตัว ทั้งจากเนื้อเพลงที่เต็มไปด้วยเรื่องราวและถ้อยคำกินใจในแบบอะตอม รวมกับพลังความสดใสของพี่เบิร์ดที่ดึงพลังที่ดีให้ออกมาจากเพลงแบบที่พี่เบิร์ดทำอยู่เสมอ ส่งให้เพลงนี้เข้าไปอยู่ในใจของทุกคนได้ไม่ยาก

ราวกับจะบอกว่า จักรวาลของคุณจะกว้างเท่าไหร่ไม่สำคัญ ในวันที่คุณตัดสินใจจะไปแล้ว ลองมองหาเหตุผลที่ทำให้เราอยู่ตรงนี้

ต่อให้นานเพียงไหน ต่อให้ไกลกว่านั้น ฉันจะไปให้ถึงสักวัน เมื่อรักที่เธอให้ฉันยิ่งใหญ่กว่าจักรวาล

อะตอม ชนกันต์

Writer

นภษร ศรีวิลาศ

นภษร ศรีวิลาศ

บรรณาธิการธุรกิจ The Cloud 4.0 แม่บ้านและฝ่ายจัดซื้อจัดหานิตยสารประจำร้านก้อนหินกระดาษกรรไกร ผู้ใช้เวลาก่อนร้านเปิดไปลงเรียนตัดเสื้อ สานฝันแฟชั่นดีไซเนอร์ในวัย 33 ปัจจุบันเป็นแม่ค้าที่ทำเพจน้องนอนในห้องลองเสื้อบังหน้า ซึ่งอนาคตอยากเป็นแม่ค่ะ

Photographer

Avatar

นินทร์ นรินทรกุล ณ อยุธยา

นินทร์ชอบถ่ายรูปมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ซื้อฟิล์มให้ไม่ยั้ง ตื่นเต้นกับเสียงชัตเตอร์เสมอต้นเสมอปลาย เพื่อนชอบชวนไปทะเล ไม่ใช่เพราะนินทร์น่าคบเพียงอย่างเดียวแน่นอน :)