The Cloud x การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

Ban’s Diving เป็นรีสอร์ตบนเกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ดำเนินธุรกิจเข้าสู่ปีที่ 30 ด้วยการบริหารของ รำลึก อัศวชิน สาวแกร่งแห่งแบนส์ ซึ่งก่อตั้งร่วมกันกับ นิรัตน์ อัศวชิน เมื่อ พ.ศ. 2536

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

ก่อนหน้านั้น นิรัตน์ทำกิจการดำน้ำบนเกาะพะงัน ก่อนพบรักกับรำลึก และย้ายมาสร้างครอบครัวและกิจการดำน้ำด้วยกันบนเกาะเต่า ซึ่งเป็นร้านดำน้ำแห่งที่ 2 ของเกาะ แต่เป็นร้านดำน้ำเจ้าแรกบนเกาะที่มีคนไทยเป็นเจ้าของ ซึ่งปัจจุบัน ‘Ban’s Diving’ เป็นโรงเรียนสอนดำน้ำที่ผลิตนักดำน้ำฝีมือดีมากมาย ทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งสถาบันแห่งนี้มีชื่อเสียงเลื่องลือจนเป็นที่รู้จักระดับโลก มีให้เลือกเรียนหลายหลักสูตร มีครูสอนดำน้ำรองรับหลายภาษา เช่น เกาหลี สวีเดน ญี่ปุ่น จีน เยอรมัน ฝรั่งเศส ฯลฯ

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

จากร้านดำน้ำเล็ก ๆ มีอุปกรณ์ราว 10 ชุดบริเวณท่าเรือเกาะเต่า แถมด้วยบริการขายตั๋วเครื่องบิน และบริการโทรศัพท์ ค่อย ๆ ขยับขยายสู่ร้านอาหารหลังคามุงจาก (บริเวณหาดทรายรี) และบังกะโล จำนวน 10 หลัง โดยได้รับการสนับสนุนที่ดินจำนวน 2 ไร่ จาก คุณบุญธรรม ไกรวัฒนพงศ์ 

“นั่นคือโอกาสของเราจริง ๆ ถ้าไม่มีคุณบุญธรรม ชีวิตและครอบครัวเราคงไม่มีวันนี้ เราคุยกับสามีว่าถ้าวันไหนเราพร้อม เราจะช่วยเหลือชุมชนแห่งนี้ เพราะที่เรามีกินมีใช้ ก็เพราะทรัพยากรธรรมชาติของที่นี่ เราตั้งใจไว้ว่าจะช่วยพัฒนาเกาะเต่าให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน นั่นเป็นจุดเริ่มต้นค่ะ”

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน
Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

เมื่อ พ.ศ. 2544 นิรัตน์เริ่มวางมือจากโรงแรม และเริ่มต้นทำงานช่วยเหลือสังคม ตลอดจนลงสมัครเลือกตั้งสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบล ทำให้รำลึกและน้องสาวต้องบริหารอย่างจริงจัง

และนิรัตน์ยังเป็นผู้ก่อตั้งชมรมรักษ์เกาะเต่า ชมรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทั้งทางบกและทางทะเล พร้อมทั้งให้ข้อมูลความรู้เรื่องการจัดการขยะตั้งแต่ต้นทางยันปลายทาง ตั้งแต่ทะเลยันภูเขา

“สามีของเรามีแนวคิดเรื่องอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่ 20 กว่าปีที่แล้ว เพราะชาวเกาะเต่าคิดว่าต้นทุนของเราคือธรรมชาติ สิ่งที่เราควรทำและทำได้ นั่นคือการอนุรักษ์ และก่อนสามีเสีย เขามีความฝันว่าอยากเห็นเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่อยู่จวบจนชั่วลูกชั่วหลาน สิ่งนั้นจุดประกายให้เราอยากทำการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ รวมถึงแบ่งปันกลับคืนสู่สังคมและสิ่งแวดล้อมในวันที่เราพร้อม

“ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากความศรัทธาที่เรามีต่อเขา และความรักที่เรามีต่อเกาะเต่า เราและชาวแบนส์จึงตั้งใจสานฝันของเขา สิ่งไหนที่เขาอยากทำ เราก็จะทำให้ครบ” รำลึกเล่าถึงสิ่งที่ชาวแบนส์ยึดถือ

ภายหลัง Ban’s Diving Resort เริ่มครบครันมากขึ้น ทั้งบริการอินเทอร์เน็ต รูปแบบและจำนวนห้องพัก มินิมาร์ต คาเฟ่ ยันร้านเสริมสวย รำลึกนิยามสิ่งนี้ว่า ‘มีทุกอย่างครบ จบที่แบนส์!’

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

เธอยังจัดตั้งศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่า (องค์กรสาธารณประโยชน์) เพื่อเป็นต้นแบบให้กับชุมชน และเป็นอนุสรณ์ให้กับ แบน-นิรัตน์ อัศวชิน ชายผู้เป็นที่รักและผู้ก่อตั้งรีสอร์ตแห่งนี้ โดยศูนย์เรียนรู้รักษ์แบนเกาะเต่าเปิดอบรมและให้ความรู้กับนักเรียน นักศึกษา นักท่องเที่ยว และผู้ประกอบการบนเกาะ เป็นการแบ่งปันความรู้ด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่ Ban’s Diving Resort ทำมาโดยตลอด

แล้ว Ban’s Diving Resort ทำอะไรบ้างเรื่องสิ่งแวดล้อม – คงเป็นคำถามที่คุณและเราสงสัย

‘ใช้พลังงานหมุนเวียน สร้างเชื้อเพลิงชีวภาพ ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมในห้องพักทุกห้อง รีไซเคิลขยะ ทำสวนปลอดสารเคมี เสิร์ฟผลไม้และผักจากสวนในร้านอาหารของเรา’ – นี่คือคำตอบหมวดการอนุรักษ์ที่เราอ่านเจอในเว็บไซต์ของ Ban’s Diving Resort

เรามีโอกาสนั่งรถกอล์ฟทัวร์พื้นที่ของรีสอร์ตตั้งแต่เลียบหาดทรายจนถึงพื้นที่บนไหล่เขา แทบทุกอณูล้วนมีการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรในหลากหลายมิติอย่างที่บนเว็บไซต์ว่าไว้

เริ่มตั้งแต่ร้านอาหาร มีการคัดแยกขยะเศษอาหาร (Food Waste) เป็นประจำทุกวัน โดยขยะเศษอาหารจะถูกนำไปทำเป็นแก๊สชีวภาพ เศษผักและผลไม้นำไปทำเป็นอีเอ็มบำบัดน้ำเสีย เปลือกไข่นำไปทำปุ๋ยและผงไข่ไล่มด 

ส่วนคาเฟ่ ถ้ามีกากกาแฟเหลือในปริมาณมากก็รวบรวมไว้สำหรับทำปุ๋ย บ้างแปลงร่างกลายเป็นสครับกาแฟ-สบู่ หรือไม่ก็นำไปดับกลิ่นอับในห้องพัก รำลึกเปรยกับเราว่า อะไรก็ตามที่ก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม รีสอร์ตแห่งนี้ก็พยายามอย่างยิ่งที่จะจัดการให้ได้ทั้งหมด

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

ภายในพื้นที่ของรีสอร์ตมีโรงแยกขยะของตัวเองด้วย อย่างขยะพลาสติกจะถูกนำไปขาย สร้างรายได้เล็ก ๆ ให้พนักงาน ขยะบางส่วนนำไปรีไซเคิล ขยะพวกแก้วถูกนำไปบดเพื่อใช้เป็นส่วนผสมในงานก่อสร้างและซ่อมบำรุง ขยะอันตรายถูกรวบรวมปีละครั้งเพื่อส่งให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดนำไปกำจัดต่อไป

และที่นี่ก็ผลิตน้ำยาทำความสะอาดจากวัตถุดิบธรรมชาติใช้เอง รับรองว่าเป็นมิตรกับผู้ใช้งานแน่นอน แถมยังแบ่งปันให้กับชุมชนและจำหน่ายให้กับผู้ประกอบการในราคาย่อมเยามาก

“น้ำจืดเป็นสิ่งที่สำคัญมากบนเกาะ ที่รีสอร์ตของเราไม่เคยขาดน้ำค่ะ” เธอยิ้มน้อย ๆ

“เพราะเรามีระบบการจัดการน้ำ มีอ่างเก็บน้ำเป็นของตัวเอง มีบ่อซับน้ำ ฤดูฝนก็รองน้ำฝนเก็บไว้ใช้ ส่วนน้ำเสียก็บำบัดเพื่อใช้รดน้ำในสวนหย่อมและไม้ยืนต้น และบนเกาะเต่าไม่มีรถดูดสิ่งปฏิกูล รีสอร์ตเรารับดูดมา 20 กว่าปีแล้วค่ะ แล้วนำมาจัดการด้วยการหมักเป็นแก๊สเพื่อใช้ในรีสอร์ต”

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน
Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

บนไหล่เขามีฟาร์มเล็ก ๆ เลี้ยงไก่และเป็ดเพื่อนำไข่มาประกอบอาหารให้แขก ในสวนก็มีผึ้งโพรงไทยคอยผสมเกสรและดอมดมน้ำหวานรสอร่อยจากดอกไม้สวย ๆ ระหว่างทางที่รถกอล์ฟแล่นไปเรื่อย ๆ เรามองเห็นผลไม้เต็มสวน โดยเฉพาะแก้วมังกร รำลึกว่าออกดอกผลดีมาก อร่อยจนต้องบอกต่อ

“อย่างผลไม้เราจะทดลองปลูกดูก่อน โดยเป็นผลไม้ท้องถิ่นที่เข้ากับพื้นที่ได้ เช่น มะม่วง กระท้อน แก้วมังกร ลูกหม่อน ฯลฯ เพราะเราชอบทานผลไม้อยู่แล้ว และอยากให้ลูกค้าได้ทานผลไม้ที่ปลอดภัย ไร้สารพิษ เลยตั้งใจปลูกไว้ในรีสอร์ต บางส่วนก็ขายในมินิมาร์ต บางส่วนก็แบ่งปันให้กับชุมชน

“เราชอบทำสวนอยู่แล้ว เลยทำปันรักษ์ฟาร์มขึ้นมา เพื่อเป็นต้นแบบในการทำฟาร์มและให้คนอื่น ๆ มาศึกษาเรียนรู้ อย่างการเปิดพื้นที่ให้เด็ก ๆ มาทำกิจกรรมนอกห้องเรียนที่ศาลาปันรักษ์ เช่น เรียนรู้เรื่องการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม เพราะการปลูกฝังเรื่องการอนุรักษ์ตั้งแต่ยังเล็ก ๆ เป็นสิ่งที่ดีนะคะ”

Ban’s Diving ที่พักบนเกาะเต่าที่ผลิตนักดำน้ำทั่วโลกมา 30 ปี และมุ่งมั่นสู่รีสอร์ตยั่งยืน

ในฐานะที่รีสอร์ตแห่งนี้เป็นโรงเรียนสอนดำน้ำระดับโลก จึงเห็นว่าการอนุรักษ์ทางทะเลเป็นเรื่องสำคัญ นอกจากมีโครงการพัฒนาแนวปะการังเทียม การปลูกถ่ายเศษปะการัง การดำน้ำเพื่อกำจัดเศษขยะใต้ท้องทะเล ยังมีหลักสูตรดำน้ำเพื่อการอนุรักษ์ให้เลือกถึง 5 หลักสูตร ซึ่งเราค่อนข้างชอบที่ที่นี่ทำให้นักท่องเที่ยวเห็นปัญหาสิ่งแวดล้อมทางทะเลจริง ๆ เพื่อให้เขาตระหนักและช่วยกันแก้ไข

รีสอร์ต 30 ปีบนเกาะเต่าที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แบ่งปันความรู้และชุมชนมีส่วนร่วม
รีสอร์ต 30 ปีบนเกาะเต่าที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แบ่งปันความรู้และชุมชนมีส่วนร่วม

นอกจากการจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมภายในรีสอร์ตแล้ว รำลึกยังจัดงาน Spotlight Koh Tao 2023 เพื่อให้ชุมชน ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว มีส่วนร่วมกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนด้วย ซึ่งเป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทะเลและสิ่งแวดล้อมบนเกาะเต่า มีกิจกรรมให้ทำมากมาย อาทิ ปลูกฟื้นฟูปะการังเทียม ซ่อมทุ่นจอดเรือ สร้างบ้านปลากับชาวประมง ฯลฯ พ่วงด้วยตลาดกรีนเกาะเต่า

“ในงานมีเมนูอาหาร Zero Food Waste ด้วยนะคะ ทำจากวัตถุดิบที่มีอยู่แล้วในครัว เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นให้เกิดความคุ้มค่ามากที่สุด หรือกิจกรรมผ้ามัดย้อมสีธรรมชาติจากกาบมะพร้าวเราก็มี”

เราคุยกับ สุดใจ สุขใจ ผู้สอนเวิร์กช็อป CoCo Tie Dye Koh Tao ถึงการเป็นส่วนหนึ่งของงาน Spotlight Koh Tao 2023 เธอเล่าว่าบนเกาะเต่ามีมะพร้าวเยอะ ทั้งต้นมะพร้าวและลูกมะพร้าวที่เหลือจากการใช้งาน (ร้านคั้นกะทิหรือร้านน้ำผลไม้) เธอนำกาบมะพร้าวมาใช้ประโยชน์ด้วยการนำมาทำสีย้อมธรรมชาติ แถมกาบมะพร้าวที่เหลือจากกระบวนการเวิร์กช็อปก็ถูกนำไปทำปุ๋ย ไม่เหลือแม้แต่ Waste

“กิจกรรมของเราเป็น 1 ใน 12 กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการอนุรักษ์บนบก เราเลือกกาบมะพร้าวที่เป็นขยะบนเกาะ มาสร้างประโยชน์และทำเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นของฝากจากเกาะเต่า ซึ่งงาน Spotlight Koh Tao 2023 จะทำให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้เรื่องการอนุรักษ์ และตระหนักถึงสิ่งแวดล้อม”

นอกจากเป็นนักจัดเวิร์กช็อปมัดย้อมสุดสนุก เธอยังเป็นผู้ประกอบการเอเจนซี่ทัวร์บนเกาะเต่า และเป็นคนเกาะเต่าแท้ ๆ ที่ทำงานด้านการอนุรักษ์มาตั้งแต่ชมรมอนุรักษ์เกาะเต่าถูกก่อตั้งขึ้นมา

“เรามองว่าการอนุรักษ์สำคัญมาก ในมุมของผู้ประกอบการก็มีการประชุมหารือกันว่าจะทำยังไงให้เกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีทรัพยากรใต้ทะเลที่สมบูรณ์และยั่งยืน โดยเกิดการทำลายสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด ขณะเดียวกันก็ต้องสร้างเพิ่มด้วย ซึ่งการช่วยกันรับผิดชอบมันน่ารักมาก

“ในฐานะคนเกาะเต่า สิ่งที่อยากเห็น คือเราอยากเห็นการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเกิดขึ้นกับเกาะเต่า อยากเห็นชุมชนและนักท่องเที่ยวตื่นตัวกับการอนุรักษ์ ทำกิจกรรมเชิงอนุรักษ์มากขึ้น แต่ส่งผลกระทบน้อยที่สุดกับธรรมชาติ ซึ่งมันจะสำเร็จได้ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน ทั้งผู้ประกอบการ ชุมชนบนเกาะเต่า และนักท่องเที่ยวด้วย”

รีสอร์ต 30 ปีบนเกาะเต่าที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แบ่งปันความรู้และชุมชนมีส่วนร่วม

ทำไมถึงต้องลุกขึ้นมาทำเพื่อการท่องเที่ยวและสิ่งแวดล้อมขนาดนี้ – เราถามผู้บริหารหญิง

“เพราะเรามองว่าต้นทุนของเราคือธรรมชาติ หน้าที่ของเราคือการอนุรักษ์และสร้างเพิ่ม เราเชื่อว่าการท่องเที่ยวจะยั่งยืนได้ มันต้องควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ และต้องดำเนินธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ถ้าหวังแต่จะได้อย่างเดียวโดยไม่คิดจะรักษา ความยั่งยืนก็ไม่เกิด

“ทั้งหมดที่แบนส์ทำก็เพื่ออย่างน้อยจะเป็นต้นแบบให้ชุมชนมาศึกษาเรียนรู้และเห็นคุณค่าของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและการจัดการทรัพยากร และเป็นพื้นที่แลกเปลี่ยน-แบ่งปันความรู้ให้กับผู้ประกอบการท่องเที่ยวด้วยกัน เพราะภาพสุดท้ายที่เราอยากเห็น คือเราอยากเห็นเกาะเต่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่รับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม และอยู่อย่างยั่งยืนตราบจนชั่วลูกชั่วหลาน” เธอตอบสิ่งที่ตั้งใจ

รีสอร์ต 30 ปีบนเกาะเต่าที่มีการบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน แบ่งปันความรู้และชุมชนมีส่วนร่วม

แววตาของรำลึกบ่งบอกความรักที่เธอมีต่อเกาะเต่า เกาะเล็ก ๆ ที่เป็นทั้งชีวิตของเธอ

“เกาะเต่าเป็นจุดเริ่มชีวิตของเรา ที่นี่ทำให้ครอบครัวของเราลืมตาอ้าปาก จากพื้นที่ 2 ไร่ กับโอกาสในวันนั้น ชีวิตนี้เราคงตอบแทนพระคุณนั้นไม่ไหว มันทำให้เราคิดเสมอว่าอะไรก็ตามที่เราทำให้พื้นที่แห่งนี้ได้ เราจะทำ เรามีความสุขทุกครั้งที่ทำเพื่อสังคม และสิ่งหนึ่งที่เราอยากบอกกับพี่แบน คือ

“ตอนนี้เราชาว Ban’s Diving ได้สานฝันให้พี่แบนเกือบครบถ้วนแล้ว ร้านดำน้ำของเราติดอันดับโลกตามที่พี่แบนอยากให้เป็น ส่วนการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน เราอาจจะทำยังไม่สำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เรากำลังรวบรวมพลังกัน ระหว่าง Ban’s Diving กับชุมชน และเราเชื่อว่า ถ้ามีใจจะทำ ก็สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้ว ที่สำคัญต้องมีศรัทธา… เพราะศรัทธาจะทำให้เรามีพลังในการสู้ต่อกับทุก ๆ เรื่อง” 

การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนไม่อาจเกิดขึ้นได้เพียงคนคนเดียว แต่ต้องอาศัยความรับผิดชอบและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เราเชื่อว่าในการบริหารของรำลึกจะทำให้ Ban’s Diving Resort เข้มแข็ง, เข้มแข็งจนเป็นแบบอย่างให้กับเพื่อนพี่น้องผู้ประกอบการ ชุมชนบนเกาะเต่า ตลอดจนนักท่องเที่ยว ได้ตระหนักและเข้าใจถึงปัญหา จนร่วมแรงกาย-ใจ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 

เพราะสิ่งเดียวที่ทุกคนปรารถนา คือการเห็นเกาะเต่าอยู่อย่างยั่งยืนตราบชั่วลูกชั่วหลาน

3 Things

you should do

at Ban’s Diving Resort

01

ลงเรียนหลักสูตรดำน้ำ สัมผัสความมหัศจรรย์ท่ามกลางมหาสมุทร มีให้เลือกเรียนตั้งแต่ระดับพื้นฐาน ระดับสูง ฟรีไดฟ์ หลักสูตรสำหรับเด็ก และหลักสูตรเพื่อการอนุรักษ์

02

นั่งโยคะ นอนอ่านหนังสือ หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ศาลาปันรักษ์ ศาลาไม้ไผ่ภายในรีสอร์ตที่มองเห็นวิวสวนและธรรมชาติแสนสบายตา

03

เวิร์กช็อปทำผ้ามัดย้อมจากกาบมะพร้าว หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจากธรรมชาติ ที่ศูนย์เรียนรู้รักษ์แบน มีพี่ ๆ ใจดีคอยสอนอย่างเป็นกันเอง สนุก ได้ความรู้ และต่อยอดได้

Ban’s Diving Resort
  • 3/1 หมู่ 1 ตำบลเกาะเต่า อำเภอเกาะพงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี 84360 (แผนที่)
  • 07 745 6466
  • www.bansdivingresort.com
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานเกาะสมุย (เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน)
  • 370 หมู่ 3 ตำบลอ่างทอง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  • 07 742 0504
  • TAT Koh Samui x Koh Phangan x Koh Tao

Writer

สุทธิดา อุ่นจิต

สุทธิดา อุ่นจิต

กรุงเทพฯ - เชียงใหม่ สู่ ลาดพร้าว - สุขุมวิท , พูดภาษาพม่าได้นิดหน่อย เป็นนักสะสมกระเป๋าผ้า ชอบหวานน้อยแต่มักได้หวานมาก

Photographer

วีรยุทธ คงมี

วีรยุทธ คงมี

ช่างภาพที่หลงไหลในการดำน้ำเชิงอนุรักษ์