7 ธันวาคม 2024
1 K

ทำงานเข้าช่วงสิ้นปี เชียงรายน่าจะเป็นจังหวัดสุดท้ายที่เราเดินทางไปเยี่ยม 

เลือกวันไปทริป 3 วัน 2 คืนแบบคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่ พอขึ้นเครื่องบินที่มีชาวต่างชาติเต็มลำถึงได้รู้สึกตัวว่า ฉันกำลังไปเชียงรายวันลอยกระทง

บรรยากาศสนามบินแม่ฟ้าหลวงวันนี้ครึกครื้นเป็นพิเศษ มีป้ายโฆษณาเชิญชวนไปร่วมงานลอยกระทงแทบทุกแห่งหน แต่ความตั้งใจแรกของเราคือขึ้นไปบ้านปางต้นผึ้ง ตำบลแม่พริก อำเภอแม่สรวย เพราะได้ยินเสียงลือเสียงเล่าอ้างว่ามีชา-กาแฟรสเลิศรอให้ลิ้มรส เตรียมตัวให้พร้อมกับ ‘Eastern Lanna Coffee & Tea Festival’ เทศกาลกาแฟและชาล้านนาตะวันออก 2024 ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2567 – 1 มกราคม พ.ศ. 2568 ณ สิงห์ปาร์คเชียงราย

เราเดินทางไปกับ พี่เกียรติ คนขับรถตู้ที่นิสัยดีสุดคนหนึ่งเท่าที่เคยรู้จัก เขาพาเราแวะกินอาหารเหนือลำ ๆ 1 ชุดใหญ่ ก่อนจะตีตัวออกห่างตัวเมืองไปราว ๆ 60 กิโลเมตร

2 ชั่วโมงต่อมา ล้อหยุดหมุนที่หมู่บ้านสุดท้ายที่อยู่ลึกสุดบนหุบเขา หลังเอาใจช่วยให้รถตู้คันโตกับผู้โดยสาร 3 คนเอาชีวิตรอดบนถนนลูกรังเคี้ยวคดได้สำเร็จ

อ้อ-อารีย์รัตน์ เทโวขัติ ออกมาต้อนรับเราพร้อมรอยยิ้ม คนที่นี่เรียกเธอว่า ‘แม่หลวงอ้อ’ เพราะเป็นผู้ใหญ่บ้านที่ดูแลสมาชิกกว่า 60 หลังคาเรือน และเป็นเจ้าของโฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังเรานี้ด้วย

ไม่ใช่แค่รอยยิ้ม เธอเสิร์ฟน้ำชาอัสสัมร้อน ๆ เป็น Welcome Drink ให้เราทุกคนดื่ม กลิ่นหอมโชยมาทำให้รับรู้ได้โดยไม่ต้องบอกว่านี่เป็นหมู่บ้านทำชามือฉมัง 

บูชา

“ตั้งจิตอธิษฐานในใจ 1 ข้อเท่านั้น อย่าลังเลนะ”

พี่เมย์หรือน้องสะใภ้ของพี่อ้อเป็นเจ้าของคำพูดที่ว่า เธอรับไม้ต่อขอพาคนเมืองกรุงอย่างเราไปเยี่ยมบ้าน

หลังพี่อ้อขึ้นเป็นผู้ใหญ่บ้านไม่นาน ก็ริเริ่มการพัฒนาปางต้นผึ้งให้กลายเป็นชุมชนแห่งการท่องเที่ยว โดยแบ่งออกเป็น 7 ฐาน หมุนเวียนไปทำกิจกรรมตามจุดสำคัญต่าง ๆ ของชุมชน ได้แก่ นมัสการสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่วัดปางต้นผึ้ง ชมชาอัสสัมธรรมชาติ เรียนรู้การแปรรูปชาอัสสัม กินอาหารท้องถิ่น ชมต้นไม้ใหญ่สร้างชีวิต เรียนรู้การทำเมี่ยงแบบภูมิปัญญาล้านนา และเรียนทำหมอนจากใบชา 

เพียงแต่คราวนี้อาจจะไม่ได้ตามเก็บครบทุกฐาน เพราะชาวบ้านต่างง่วนกับการเตรียมงานยี่เป็งที่จะเกิดขึ้นในไม่กี่วันข้างหน้า

เราเริ่มกันที่วัดปางต้นผึ้ง มองจากศาลาผู้ใหญ่บ้านจะเห็นวิหารทรงล้านนาอยู่ไกล ๆ เมื่อเดินเข้ามาชมใกล้ ๆ จะเห็นฝีไม้ลายมือของช่างศิลป์เชียงรายซ่อนอยู่ในทุกกระบวนการ ที่เราชอบเป็นพิเศษเห็นจะเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังสีจัดจ้าน แตกต่างจากวัดไทยอื่น ๆ ที่เคยไปมา พี่เมย์เล่าว่าวัดเพิ่งเสร็จได้ 2 ปี จากน้ำพักน้ำแรงของคนในชุมชนและจากการสนับสนุนของนักธุรกิจนิรนามผู้มีจิตศรัทธา (เธอไม่ยอมบอกเราว่าใคร แต่เป็นคนเชียงรายแน่ ๆ) เพราะอาคารเดิมเป็นไม้เก่าที่ผุพังไปตามประสาวัดอายุ 100 กว่าปี 

“เมื่อก่อนไม่ได้เป็นแบบนี้นะ วัดเราไม่มีใครเข้ามาเที่ยวเลย แต่ทุกวันนี้ชาวบ้านจะมารวมตัวกันที่นี่ทุกวันพระ” 

ประเพณียี่เป็งกำลังจะเกิดขึ้นในอีก 2 วัน ทุกบ้านจะรวมกลุ่มห่อขนม ทำกระบอกไฟ โคมลอยยักษ์ขนาดห่อตัวคนได้ ก่อนจะเวียนกันขึ้นมาทำพิธีบนวัดในวันพระจันทร์เต็มดวง 

ส่วนความศักดิ์สิทธิ์ไม่ต้องพูดถึง แค่ฟังกิตติศัพท์เราก็ไม่กล้าขอพร เพราะกลัวจะสมหวังหลายข้อจนต้องมาแก้บนชุดใหญ่น่ะสิ

ชาดก

ชุมชนนี้เป็นเกษตรกรไร่ชามาตั้งแต่บรรพบุรุษ นิยมปลูกชาเมี่ยงหรือชาอัสสัม แล้วเก็บเป็นใบขาย ก่อนจะแปรรูปเป็นชาหมักและชาตากแห้งในเวลาต่อมา ส่วนลำต้นก็ใช้เป็นฟืนเพราะติดไฟง่ายมาก เรียกว่าใช้ประโยชน์ได้แทบทุกส่วน

“ชานี่แหละที่เลี้ยงพวกพี่ คนอายุ 70 ก็ยังเก็บชาขาย นั่งเก็บบ้าง ยืนเก็บบ้าง เพราะมันไม่ได้ยุ่งยากอะไร”

หมู่บ้านปางต้นผึ้งอยู่ร่วมกันอย่างอบอุ่น ความน่ารักคือบ้านทุกหลังไม่มีรั้วกั้นเขตแดน พี่เมย์จึงพาเราไปฐานต่อไปด้วยการลัดเลาะรอบบ้านคนนู้นทีคนนี้ที มองไปทางไหนก็มีแต่ต้นชาเขียวขจีรอวันเก็บเกี่ยว กระทั่งต้นไม้ใหญ่แปลกตาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า

ฐานนี้เปรียบเหมือนการทำความรู้จักแลนด์มาร์กของหมู่บ้าน พี่เมย์เรียกต้นไม้นี้ว่าต้นฮ่าง แผ่กิ่งก้านใบให้ร่มเงามานานกว่าร้อยปี สังเกตเห็นว่ามีศาลเล็ก ๆ ไว้สำหรับสักการะบูชา ข้าง ๆ มีศาลาขนาดย่อมให้พอได้ก๊งเหล้ากันในวันทำงานหนัก

หลังพากันยกมือไหว้ก็ได้ผลทันตา พี่เมย์เหลือบไปเห็นถุงใบชา 2 ถุงที่ชาวบ้านพักเอาไว้ แบ่งออกเป็นใบชา ตกกำละ 10 บาท กับยอดใบชา ตกกำละ 16 บาท ช่วยให้เราเห็นภาพที่พี่เมย์คอยอธิบายมาตลอดทางได้มากขึ้น 

พูดยังไม่ทันขาดคำ พี่อ้อก็เดินตามมาสมทบได้ทันเวลา คราวนี้เธอมาพร้อมเจ้าลัคกี้ หมาตัวขาวที่วิ่งพันแข้งพันขาไม่ห่าง และถุงสำหรับเก็บวัตถุดิบทำอาหารเย็น พวกเราจึงช่วยกันเด็ดใบและดอกชาจากต้น ส่วนเจ้าลัคกี้ก็วิ่งกระโจนเข้าโพรงหญ้าจนได้ดอกหญ้าติดเต็มตัวเป็นของแถม

ระหว่างทาง พี่อ้อพาเราเดินผ่านลำธารเตี้ย ๆ พอให้ได้ถกขากางเกง เอาเท้าจุ่มน้ำเย็น ๆ และแวะถ่ายคลิปทำคอนเทนต์กันเล็กน้อย ก่อนผู้ใหญ่บ้านจะผุดเมนูอาหารขึ้นมาเพิ่ม เพราะเห็นไม้สวนครัวของลูกบ้านขึ้นงามเต็มระแนง “ขอลักไปหน่อยเน้อ” จึงเป็นคำที่เราได้ยินตลอดทาง แม้จะไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากเจ้าของบ้านก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะคนที่นี่เดินลัดเข้าบ้านกันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว

พอถึงศาลาที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน พี่อ้อก็สวมผ้ากันเปื้อนทันที พร้อมเป็นเชฟทำเมนูแกงแคใส่หมูสามชั้น กินกับแกงฮังเลหม้อใหญ่ที่ทำแจกจ่ายคนได้ทั้งหมู่บ้าน

กลิ่นหอมฉุยเรียกให้สมาชิกจกข้าวนึ่งรอ จิบชาอุ่น ๆ เปิดต่อมรับรส ก่อนจะผลัดกันจ้วงแกงเข้าปากโดยไม่ต้องมีผักแอ้มใดใด เคี้ยวผักสดที่ต้มแล้วก็ยังกรุบกรอบ ซดน้ำแกงร้อน ๆ ท่ามกลางอากาศเย็น ๆ เคล้าวงสนทนาที่เจ้าบ้านสอนพวกเราอู้กำเมือง

วิชาชีพ

เช้าวันใหม่เริ่มต้นด้วยอากาศแจ่มใส ต่างจากวันแรกที่มาพร้อมแดดลงกลางหัว

วันนี้พี่อ้อพาเราลัดเลาะขึ้นเขาไปเก็บใบชาในสวนของเธอ แถมสปอยล์ล่วงหน้าว่าจะทำเมนูยำใบชาให้เรากิน

ยอดใบชาสังเกตเห็นได้ไม่ยาก เพียงโน้มลงมาแล้วเด็ดยอดเล็ก ๆ สีเขียวอ่อนเป็นอันใช้ได้ แต่การเก็บใบชาอ่อน ๆ สำหรับเรานั้นสังเกตยากกว่า เพราะแยกไม่ออกว่าใบไหนอ่อนหรือแก่เกินไป งก ๆ เงิ่น ๆ อยู่นานกว่าจะเต็มตะกร้า ต่างกับพี่อ้อที่ชำนาญการจนต้องมาช่วยเราเก็บอีกแรง แถมคนสวมรองเท้าแตะยังต้องช่วยระวังหน้า-หลังไม่ให้คนใส่รองเท้าผ้าใบลื่นไถลอีกต่างหาก

เมื่อได้มาแล้วก็แผ่ชาผึ่งลมให้เต็มกระจาด คัดแยกใบอ่อนไว้ทำกับข้าว ส่วนพี่อ้อเข้าครัวไปเตรียมกระทะทองเหลือง เปิดไฟแรงจนควันลอยฟุ้ง แล้วจึงเรียกให้เรายกกระจาดตามเข้าไป

เราเทชาทั้งหมดลงกระทะ อุปกรณ์ของพี่อ้อมีแค่มือเปล่า ๆ วิธีการมีแค่อย่างเดียว คือคลุกเคล้าใบชาให้รับความร้อนทั่วถึงด้วยมือเปล่า ๆ นั่นแหละ ซึ่งอุปกรณ์หรือเครื่องช่วยกวนจะไม่สามารถสางใบชาได้ละเอียดเท่า ภายใต้เสื้อแขนยาวที่เธอสวมใส่จึงมีร่องรอยของการถูกกระทะบาดมือเต็มไปหมด 

เมืื่อถามว่าต้องทำไปจนถึงเมื่อไหร่ คำตอบของพี่อ้อคือให้ใบชาอ่อนตัวจนไม่หักเป็น 2 ท่อน 

ใช้เวลาไม่นานก็ได้ตามที่ต้องการ ขั้นตอนที่แล้วว่าร้อน ขั้นตอนต่อมาร้อนกว่ามาก นั่นคือการนวดใบชา (ด้วยมือเปล่าอีกแล้ว) เสร็จแล้วก็กระจายมันบนกระจาด แล้วนำไปตากแดดเป็นอันเสร็จสิ้น

ซะเมื่อไหร่

พี่อ้อชวนเราไปหาทำอีกครั้ง เพราะต้นหอมหมื่นลี้มันหอมรันจวนใจ เธอจึงชวนเราไปเด็ดดอกหอมหมื่นลี้มาโปรยลงบนกระจาด เพิ่มความหอมอีกแรง

ระหว่างรอแดดทำหน้าที่ของมัน เราขอให้พี่อ้อพาไปดูการทำกาแฟกันบ้าง

นอกจากต้นเมี่ยง ที่ปางต้นผึ้งจะเห็นต้นกาแฟสายพันธุ์อาราบิก้าได้แทบทุกหย่อมหญ้า เป็นการปลูกกาแฟในฝันของชาวสวนหลายคนที่ไม่ได้อยากทำแค่ไร่กาแฟ แต่อยากทำให้กาแฟเป็นส่วนหนึ่งของสภาพแวดล้อม โดยฤดูเก็บเกี่ยวกาแฟใช้เวลา 3 – 6 เดือน ระหว่างรอผลเชอร์รีสุกงอมพวกเขาก็สลับมาหมักชาเมี่ยง ทำให้มีรายได้ตลอดทั้งปี

โชคดีที่ที่นี่อยู่บนความสูงที่กาแฟชื่นชอบ อากาศกำลังดี ดินงามจนปลูกอะไรก็ขึ้นแทบหมด จึงมีบริษัทกาแฟชั้นนำที่คอกาแฟพิเศษทุกคนต้องรู้จักเลือกซื้อสารกาแฟจากปางต้นผึ้ง 

แต่โชคไม่ดีสำหรับเราที่ไปตอนช่วงเก็บเกี่ยวเมล็ดกาแฟเลยไม่ได้ร่วมสีกาแฟกับชาวบ้าน แต่ได้ชมเครื่องสีเปลือกกาแฟรุ่นอัติโนมือจนเปลือกเชอร์รีกองสุมเป็นภูเขา ถัดมาคือบ่อพักกาแฟและกระจาดสำหรับตาก บ้างตากไว้บนหลังคาเพราะโดนแดดจัด บ้างมีชานพักสำหรับตากโดยเฉพาะ 

ตะลอนทัวร์ได้มานานท้องก็เริ่มหิว ถึงเวลาของพระเอกอย่างยำใบชา 

ฟังดูเหมือนเมนูดังจากประเทศเพื่อนบ้าน จนเราต้องเอ่ยปากถามว่าใช่ที่กินกับถั่วแกล้มเหล้ารึเปล่า แต่ผิดถนัด 

ยำใบชาที่พี่อ้อหมายถึง คือการเอาใบชามายำกับปลากระป๋อง ใส่หอมแดง ตะไคร้ พริกสด ตบด้วยการบีบมะนาว ได้รสชาติแบบที่ไม่เคยกินที่ไหน แม้เจ้าบ้านจะเตือนว่าอย่ากินเยอะ ระวังคืนนี้จะตาค้าง พวกเราก็ซัดข้าวนึ่งกันจนเกลี้ยงจานอีกตามเคย

ยังไม่ทันได้คุยกันเรื่องวันนี้เท่าไหร่ เสียงเพลงจากวัดก็ดังลั่นขึ้นมากลางโต๊ะอาหาร บ่งบอกว่าวัดพร้อมแล้วสำหรับวันพรุ่งนี้ 

นึกเสียดายที่เราไม่ได้อยู่ต่อเพื่อชมประเพณียี่เป็งกับชาวบ้าน แถมพอแดดร่มลมตกก็็ได้เวลาเดินทางกลับ เพราะอันตรายเกินไปที่จะขับรถลงเขาตอนพลบค่ำ พี่อ้อเลยขอมอบชาเขียวอัสสัมจากวิสาหกิจกลุ่มชุมชนแปรรูปชาบ้านปางต้นผึ้งเป็นของขวัญ 

ช่างภาพของเรามอบของขวัญให้พี่อ้อคืนเช่นกัน ด้วยการสร้างเพจบ้านปางต้นผึ้งให้เป็นอีกช่องทางเผยแพร่วิถีชีวิตในชุมชน จากการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน 2 วันเต็ม ทำให้พวกเรารู้ว่าในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ไม่ได้ขายแค่กาแฟกับชา 

มิตรภาพและความทรงจำต่างหากคือสิ่งที่เงินซื้อไม่ได้

ชานชาลา

หลังขึ้นดอยกันมา 2 วันติด วันที่ 3 เราตัดสินใจฉลองเทศกาลลอยกะทงที่สวนสาธารณะริมน้ำกก หลังวัดฝั่งหมิ่น ขอบอกเลยว่าในตัวเมืองก็สัมผัสวิถีชีวิตได้ไม่ต่างกัน เพียงมองจากหน้าต่าง 2 ฝั่งจะเห็นโคมห้อยระย้ากับไฟหลากสีตกแต่งอยู่ทั่วทุกมุมเมือง ไนท์บาร์ซาก็คึกคัก ถนนคนเดินก็ครึกครื้น ส่วนงานวัดก็คนแน่นขนัด ยังดีที่มีรถรางรับ-ส่งคอยอำนวยความสะดวก

พระอาทิตย์ตกดินไปแล้ว พระจันทร์กลมโตขึ้นมาแทนที่ สมเป็นวันเพ็ญเดือน 12 

เสียงประทัดดังประปรายแบบที่ได้ยินไม่บ่อยในกรุงเทพ พลุไฟที่หันไปทางไหนก็เจอ ทำให้นักท่องเที่ยวอย่างเราไม่มีหลงทาง เดินปะปนไปกับชาวบ้านที่หิ้วกับข้าวจากตลาดกันคนละถุงสองถุง

สารภาพตามตรง เราจำไม่ได้แล้วว่าลอยกระทงครั้งล่าสุดเมื่อไร แต่การได้เห็นผู้คนที่ยังศรัทธากับประเพณีไทยกลับทำให้เรามาหยุดอยู่ริมน้ำกกไม่รู้ตัว

ไม่ได้มาลอยกระทงหรอก แค่มองความสวยงามของกระทงนครเชียงรายอันใหญ่ตรงหน้าก็ถือว่าลอยเผื่อคนทั้งครอบครัวแล้ว

กาดงานวัดที่ขายไส้กรอกแดงทอดแบบท่วม ๆ สาคูไส้หมูแบบเต็ม ๆ คำ สารพัดกับข้าวเมืองโดยคนเมืองแต้ ๆ เด็กวิ่งไล่กวดกันจอแจ ไหนจะพระ ไหนจะเวทีรถแห่ 

นี่แหละคือเหตุผลว่าทำไมเราถึงควรเก็บกระเป๋าแล้วออกเดินทางไปสัมผัสวิถีชีวิต

นอกจากชุมชนปางต้นผึ้ง ยังมีอีก 3 ชุมชนใน 3 จังหวัดภาคเหนือที่รอให้คุณไปใช้ชีวิตกับพวกเขา 

  • เรียนรู้วิถีชาวเย้าและกินนอนบนสวนกาแฟที่ชุมชนบ้านสันเจริญ อ.ท่าวังผา จ.น่าน ผู้พลิกฟื้นพื้นที่ปลูกฝิ่น 20,000 ไร่ให้กลายเป็นกาแฟสวนยาหลวง 
  • ท่องเที่ยวเชิงเกษตรกับชาวเย้าที่บ้านปางปูเลาะ อ.แม่ใจ จ.พะเยา แหล่งปลูกชา-กาแฟใหญ่สุดในจังหวัด
  • เดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติและอุทยานช้างผาด่านที่บ้านแม่ลัว จ.แพร่ ชุมชนที่เชื่อว่ากาแฟเป็นพืชรักษาป่า เพื่อคืนป่าให้กับป่าต้นน้ำ

หากยังไม่มีโอกาสเดินทาง ขอชวนมาทำความรู้จักพวกเขากันก่อนที่งาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG ฮอลล์ 5 วันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2567

Write on The Cloud

Travelogue

ถ้าคุณมีประสบการณ์เรียนรู้ใหม่ ๆ จากการไปใช้ชีวิตในทั่วทุกมุมโลก เชิญแบ่งปันเรื่องราวความรู้ของคุณพร้อมภาพถ่ายประกอบบทความ รูปถ่ายผู้เขียน ประวัติส่วนตัวผู้เขียน ที่อยู่ เบอร์โทรติดต่อ และชื่อ Facebook มาที่อีเมล [email protected] ระบุหัวข้อว่า ‘ส่งต้นฉบับสำหรับคอลัมน์ Travelogue’ ถ้าผลงานของคุณได้ตีพิมพ์ลงในเว็บไซต์ เราจะส่งสมุดลิมิเต็ดอิดิชัน จาก ZEQUENZ แบรนด์สมุดสัญชาติไทย ทำมือ 100 % เปิดได้ 360 องศา ให้เป็นที่ระลึกด้วยนะ

Writer

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

นักอยากเขียน บ้านอยู่ชานเมือง ไม่ชอบชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้ มีคติประจำใจว่าอย่าเชื่ออะไรจนกว่าหมอบีจะทัก รักการดูหนังและเล่นกับแมว

Photographer

โตมร เช้าสาคร

โตมร เช้าสาคร

ชอบถ่ายวิวมากกว่าคน ชอบกินเผ็ดและกาแฟมาก เป็นคนอีโค่เฟรนลี่ รักสีเขียว ชวนไปไหนก็ได้ไม่ติด ถ้ามีตัง