แม้ไม่ใช่คนจีนเต็มขั้นแบบที่ต้องไหว้เจ้า ไหว้บรรพบุรุษจากแผ่นดินใหญ่ แต่ศาลเจ้าสีแดงเตะตาที่พื้นก็อยู่ในชีวิตมาตลอดตั้งแต่จำความได้ ทุกครั้งที่เดินเข้าบ้านหรือร้านในห้องแถวที่มีเจ้าของเป็นคนจีน
แม่เคยบอกว่านั่นคือ ‘ตี่จู้เอี๊ยะ’
“อาจารย์ มีร้านตี่จู้สวยเรียบ ๆ แนะนำมั้ย บ้านหนูสวย หนูไม่อยากตั้งเป็นมังกร”
วันเวลาผ่านไป ลูกหลานบ้านคนจีนเหล่านั้นเติบใหญ่และอยากมีบ้านโมเดิร์นตามสมัย ก็ไม่อยากมีศาลหน้าตาจีนจ๋า แดงแจ๋ ตั้งไว้ที่กลางบ้าน
‘Aviva Spirit’ แบรนด์ตี่จู้เอี๊ยะโมเดิร์น เรียบหรู ของ อาจารย์สุภชัย วิวัฒนะประเสริฐ ผู้เป็นซินแสหัวใหม่จึงถือกำเนิดขึ้นมาตอบความคิดเหล่านั้น
ณ ร้านห้องแถวที่มีศาลเจ้าจีนเรียงรายทั้งสองข้างทาง วันนี้ อ.สุภชัย พาภรรยา ธนพร พิชญาจิตติพงษ์ และลูก ๆ อย่าง แมค-ณัฐพงศ์ วิวัฒนะประเสริฐ และ มิว-ธัญนันท์ วิวัฒนะประเสริฐ มาคุยกับเราอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
เพื่อให้ตี่จู้ยังคงเป็นตี่จู้
ดั้งเดิมทีเดียว ครอบครัวนี้ทำธุรกิจสเตนเลส จากนั้น 20 กว่าปีที่แล้ว อ.สุภชัย ผู้เป็นพ่อก็เริ่มเป็นซินแส เขาเป็นลูกศิษย์ อาจารย์เกรียงไกร บุญธกานนท์ ประธานชมรมภูมิโหราศาสตร์ ต่อมาจึงได้เป็นผู้ช่วยสอนในชมรม
ภายหลังเมื่อเริ่มมีคนให้ความสนใจในศาสตร์ฮวงจุ้ยมากขึ้น จึงได้เปิดเพจ Fengshui Balance – ฮวงจุ้ยสมดุล เพื่อแชร์ประสบการณ์ เคล็ดลับหลักฮวงจุ้ยให้ผู้ติดตาม และลูกศิษย์ได้อ่านเป็นความรู้
“แรงบันดาลใจในการทำตี่จู้นี่เริ่มแรกมาจากลูกศิษย์ แล้วก็ลูกค้าฮวงจุ้ยของอาจารย์นะ” ธนพรเริ่มเล่า “เวลาที่ไปดูฮวงจุ้ยให้ลูกค้า ก็ต้องมีการตั้งตี่จู้ กำหนดจุดตั้งตี่จู้แล้วเนี่ย ลูกศิษย์ก็จะถามถึงร้านตี่จู้สวย ๆ พออาจารย์บอกว่า ไม่มี ไม่รู้จะแนะนำที่ไหน ลูกศิษย์ก็ขอให้ออกแบบให้ เลยเป็นจุดเริ่มต้น
“ถ้าเป็นการออกแบบของอาจารย์ก็มั่นใจได้ว่า ถึงแม้จะฉีกแนวจากเดิม ก็ยังสอดคล้องกับศาสตร์ฮวงจุ้ย”
ตี่ แปลว่าดิน ส่วน จู้ ก็คือเจ้าที่ ตี่จู้จึงแปลว่าเทพแห่งดิน หรือเจ้าที่ในบ้าน หลายคนเข้าใจว่าตี้จู้ต้องเป็นเรือนไม้ แต่แรกเริ่มเดิมทีคนจีนเอากระดาษมาแปะไว้ที่ข้างฝา บางคนก็เอาไม้มาแกะเป็นป้ายชื่อ แล้วนำกระถางธูปหรือกระป๋องนมมาตั้งไหว้ หากเป็นเรือนคนมีเงินจะใช้ไม้สักสวย ๆ แต่หากไม่มี ก็จะใช้ไม้ฉำฉา แล้วทาสีแดงกลบความไม่เรียบร้อย จึงเป็นที่มาของค่านิยมว่าตี่จู้เอี๊ยะจะต้องเป็นสีแดง
“ตี่จู้เอี๊ยะท่านเป็นเทพที่อยู่ในบ้านเรา การบูชาก็คือ เราจะหาจุดที่เป็นตัวกำหนดว่า เราจะต้องกราบไหว้ท่านในบ้านหลังนี้ แต่ถึงเราจะตั้งหรือไม่ตั้ง ท่านก็อยู่ในบ้านหลังนี้อยู่แล้ว”
เนื่องจาก ตี่ แปลว่าดิน และดินกับหินคือธาตุเดียวกัน เมื่อไปปรึกษา อ.เกรียงไกร ผู้เป็นครู จึงได้คำแนะนำว่า ‘ศาลเจ้าโมเดิร์น’ ที่ อ.สุภชัย จะทำควรใช้หินอ่อน
อ.สุภชัย มองต่อมาว่า คนรุ่นใหม่ไม่ค่อยมีเวลา หากจะให้มาเช็ดทำความสะอาดร่องก็คงเป็นไปไม่ได้ จึงพยายามทำให้ทุกอย่าง ‘เรียบ’ มากที่สุด มังกรที่ อ.เกรียงไกร บอกว่าไม่จำเป็นก็ตัดออก ของแต่งกระจุกกระจิกก็ตัดออกทั้งหมด เพราะไม่ต้องการให้รก เก็บฝุ่น และใช้เวลาทำความสะอาดให้น้อยที่สุด
“ทีนี้เราก็คิดว่าลูกค้าไม่ต้องการความยุ่งยาก ไม่อยากลืมดับไฟ ข้าง ๆ เรือนก็เลยมีกล่องสวิตช์ที่ใส่ Timer ตั้งเวลา 8 ชั่วโมงดับ” อ.สุภชัย กล่าว
เปลี่ยนไปขนาดนี้ แล้วอะไรทำให้ตี่จู้ยังเป็นตี่จู้ล่ะ?
“ดั้งเดิมเป้าไม่ได้อยู่ที่ตัวเรือนอยู่แล้ว เป้าอยู่ที่ความตั้งใจของคนในการไหว้ ทีนี้ทุกคนก็พัฒนาขึ้นมาว่าต้องมีตัวเรือน เราก็ตามนั้น หลัก ๆ ก็จะมีแท่น มีตัวเรือน แล้วก็หลังคา”
ซึ่งขนาดของตัวเรือนก็ไม่ได้กำหนดขึ้นมามั่ว ๆ แต่ความกว้าง ความลึก ความสูง ต้องถูกหลักสัดส่วนมิติมงคลหลูปัง 18 24 27 35 42 นิ้ว นอกจากนี้ อ.เกรียงไกร ยังกำหนดจำนวนอักษรภาษาจีนที่เรียงรายอยู่บนเรือนไว้ให้ด้วยว่าต้องมีแถวละ 5 ตัว แล้วจำนวนทั้งหมดที่นับได้ ต้องหารตัวเลขลงตัวมงคล ทั้ง ๆ ที่ร้านทั่วไปจะไม่นับ และมีแถวละ 4 ตัวเท่านั้น
“ตัวอักษรตรงกลางนั่นเป็นลายมืออาจารย์เกรียงไกร” ธนพรอธิบายเพิ่ม “อันนี้ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นมงคลของเรา ดั้งเดิมเราจะเห็นองค์อากงอยู่ในตัวเรือน หรือบางบ้านก็จะมีทั้งอากงอาม่าใช่มั้ยคะ เหตุผลที่เราใช้ตัวอักษรแทน เพราะเจ้าที่ในแต่ละหลัง ท่านอาจจะเป็นเทพชายหรือเทพหญิงก็ได้ ไม่จำเป็นว่าต้องเป็นอากงอย่างเดียว ถ้าเราตั้งอากง แล้วเจ้าที่เป็นอาม่าก็ไม่ตรง
“เหตุผลที่มีอากงกับอาม่าคือบางร้านเขาแนะนำว่า ไม่ว่าบ้านเราจะเป็นอากงหรืออาม่าก็ตาม พอตั้งไปแล้วให้ท่านแต่งงานไปเลย” เธอหัวเราะ “คือถ้าเป็นอากงก็จับอาม่าไปอยู่ ถ้าเป็นอาม่าก็จับอากงไปอยู่ ซึ่งจริง ๆ มันไม่ถูกต้อง”
อ.สุภชัย เล่าเสริมว่า เจ้าที่ของบ้านแต่ละหลังจะมีหลายคน แต่คนใหญ่ที่สุดจะได้เข้าเรือน ฉะนั้นจึงไม่ได้เกี่ยวว่าเจ้าที่จะมีหรือไม่มีคู่ หากแต่เป็นการเข้าตามสิทธิ ซึ่งสิ่งที่ Aviva Spirit ทำก็คือการเขียนคำว่า ‘ตี่ซิ้ง’ ซึ่งแปลว่าเจ้าที่ (ตี่ แปลว่าดิน ซิ้ง แปลว่าเทพ) ไว้กลางเรือน ตามโบราณทำกันมา
นอกจากนี้ ตี่จู้เอี๊ยะที่นี่ยังมี ‘หินไหม’ เป็นเอกลักษณ์พิเศษด้วย
“สมัยเริ่มต้นทำใหม่ ๆ เราถูกโจมตีจากเจ้าที่เขาเป็นแนวเดิม ๆ นะ ว่าเราจะขายไม่ได้ เพราะไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย
“เขาบอกว่าเจ๊งแน่นอน” อ.สุภชัย เล่าอย่างร่าเริง
แต่อย่างที่เราเห็น นอกจากยังไม่เจ๊ง 10 ปีผ่านไป กิจการที่นี่กำลังไปได้สวยทีเดียว ถึงตอนแรกจะทำเพื่อต้องการสนับสนุนความต้องการของลูกศิษย์ ไม่ได้คิดว่าจะขยายใหญ่โต ทุกวันนี้ Aviva Spirit กลายเป็นธุรกิจที่เลี้ยงทั้งครอบครัวได้เป็นอย่างดี
เชิญรับชมสินค้ามากมี
หลังจากที่เริ่มทำ พวกเขาออกแบบกันอยู่เป็นปีกว่าแบบจะลงตัว โมเดิร์น เข้ากับบ้านหลาย ๆ แบบ จากตอนแรกที่มีแต่ไซส์ 18 นิ้ว เพราะคิดไปเองว่าคนสมัยใหม่คงไม่ต้องการศาลเจ้าใหญ่โต ไป ๆ มา ๆ ก็เพิ่มไซส์ 24 27 35 และ 42 นิ้ว มาด้วย ตามสัดส่วนของบ้าน (หรือโรงงาน) แต่ละที่
“สำหรับสี” อ.สุภชัย พูด “แรกเริ่มเรามีแต่สีขาวก่อน แล้วเราก็มองว่าถ้าเป็นผู้ใหญ่โบราณหน่อยเขาจะรับสีขาวได้ยาก เขาจะรู้สึกว่าสีขาวเป็นสีคนตาย เราก็เลยเพิ่มสีเบจขึ้นมา”
สินค้าอีกอย่างที่สำคัญและขาดไม่ได้เลยคือเครื่องไหว้ ที่นี่ใช้สเตนเลส เกรด 304 ที่เงางามเสมอ ไม่หมอง ไม่ดำ ไม่ต้องขัด ทั้งยังมีสีสวย ๆ อย่างสีโกลด์หรือโรสโกลด์ให้เลือกสรร นี่จึงเป็นสินค้าที่ขายดีเรื่อย ๆ ลูกค้าบางคนซื้อตี่จู้จากที่อื่น แต่ก็ชอบชุดเครื่องไหว้ Aviva Spirit
“เราเริ่มต้นที่ศาลเจ้าที่ก่อน แล้วก็มามีตู้ครอบศาลเจ้า ส่วนตอนนี้ก็มีศาลพระภูมิ ศาลตายาย ซึ่งทำด้วยหินอ่อนเหมือนกัน” อ.สุภชัย กล่าว และเล่าต่อว่าศาลตายายที่นี่ใช้หลังคาอ้างอิงจากสัดส่วนพีระมิดกีซ่า ประเทศอียิปต์ พีระมิดที่คนเชื่อว่ามีพลังที่สุดในโลก โดยระดับความเอียง 50 กว่าองศา ไม่ถึง 60
ที่นี่เชื่อเรื่องศาลพระภูมิหรือศาลตายายด้วยเหรอ – เราถามด้วยความสงสัย นึกว่าซินแสจะเกี่ยวข้องแต่กับศาสตร์จีน
“เชื่อครับ จริง ๆ ศาลตายายกับศาลตี่จู้นี่เป็นเรื่องเดียวกัน เพียงแต่ว่าคนละแนว อันนี้แนวจีน อันนี้แนวไทย แต่ถ้าเป็นพระภูมิจะเป็นเทพที่อยู่ลำดับขั้นสูงกว่า ศาลตายายกับตี่จู้เป็นวิญญาณอยู่ในบ้าน แต่พระภูมิเราเชิญข้างบนมา
“สมมติเวลาเราซื้อบ้าน ตำแหน่งที่วางศาลตายายก็มีความหมาย เราก็ดูให้ด้วย”
ปัจจุบัน อ.สุภชัย ทั้งทำงานซินแสและบริหารงาน Aviva Spirit ซึ่งแต่ละอย่างที่ทำเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน ลูกค้าตี่จู้หลายท่านมาจากงานฮวงจุ้ย ลูกค้าฮวงจุ้ยหลายท่านก็มาจากงานตี่จู้ เนื่องจากในการตั้งตี่จู้ ตำแหน่งโชคลาภบารมีก็สำคัญ
หากเป็นการดูฮวงจุ้ยจะพิจารณา 4 หลัก คือ ชัยภูมิ ดวงดาว ดวงชะตาของคน และฤกษ์ยาม
หากเป็นการจัดส่งอย่างเดียว ไม่ได้ดูฮวงจุ้ย อาจารย์จะให้คำแนะนำเบื้องต้นตามหลักชัยภูมิ คือ เบื้องต้นให้หันออกหน้าบ้าน หน้าเรือน 1 – 2 เมตรไม่ควรมีสิ่งกีดขวาง ด้านหลังตี่จู้ควรจะเป็นผนังเรียบ ห้ามเป็นเตาไฟ ซิงก์น้ำ โถส้วม ไม่ควรมีสิ่งเคลื่อนไหวอย่างตู้เย็นหรือคอมเพรสเซอร์แอร์ และตี่จู้ไม่ควรอยู่ใต้คาน
“อนาคตเราก็จะมีวิหารเทพ เป็นแท่นขึ้นมา สำหรับวางเทพจากศาสนาต่าง ๆ เช่น พระพิฆเนศ เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่หลายไร่
“อีกหนึ่งผลงานที่กำลังพัฒนาอยู่เป็นหิ้งพระไม้ติดผนัง เรามีพาร์ตเนอร์กับแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ที่ถนัดเรื่องไม้สักพม่า เหมาะกับการใช้ในบ้านหรือคอนโด สาเหตุที่เลือกใช้ไม้สักพม่าเพราะเป็นวัสดุพรีเมียม คงทน สง่างาม ตรงกับคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ที่อยากให้คุณภาพงานออกมาดีที่สุด” ลูกเสริมขึ้นมา
ทั้ง 2 โปรดักต์นี้ใช้ได้กับความเชื่อที่หลากหลาย เป็น Universal Concept ไม่ได้จำกัดว่าต้องเป็นพุทธเท่านั้น จะเป็นรูปปั้น พราหมณ์ ฮินดู คริสต์ อิสลาม หรือศาสนาอื่น ๆ ก็ไม่มีปัญหา
นอกจากนี้ยังมีอีก 3 – 4 โปรดักต์ที่กำลังอยู่ในขั้นตอนดีไซน์ และพิจารณาความเป็นไปได้ในการวางขายในอนาคต
Aviva Spirit มีคอนเซ็ปต์เป็น ‘ศาสตร์และศิลป์แห่งศรัทธา’ คือการนำหลักวิชาความรู้ในศาสตร์ความเชื่อผสานเข้ากับดีไซน์ที่ Timeless ทันสมัย ร่วมยุค หรือถ้าจะให้เรียกสั้น ๆ คงเป็น ‘ความเชื่อที่เข้าถึงได้’ เข้าถึงได้ทั้งกับคนรุ่นก่อนและคนรุ่นใหม่ คนรุ่นก่อนเห็นก็ไม่ขัดตา คนรุ่นใหม่เห็นก็ชอบ พวกเขาต้องการตอบโจทย์ลูกค้าอย่างครอบคลุม ทั้งความเชื่อและลักษณะพื้นที่-การใช้งาน
ไปข้างหน้าตลอดเวลา
Aviva Spirit เป็นแบรนด์ศาลเจ้าจีนโมเดิร์นแบรนด์แรกในไทย และปัจจุบันก็เป็นร้านเดียวที่มีบริการหลังการขายโดยไม่คิดค่าบริการลูกค้า คิดแต่ค่าอะไหล่ตามจริง
“ล่าสุด ลูกค้าที่ชลบุรีซื้อไป 8 ปีแล้ว ทักมาว่าไฟเขาเสีย เนื่องจากเราไปเปลี่ยนให้ที่ชลบุรีไม่ได้ เราก็เลยส่งอะไหล่และทำคลิปส่งไป แต่เขาก็เปลี่ยนไม่ได้ เพราะมันเป็นรุ่นเก่าที่ไฟหน้า 2 ดวง ต้องกะเทาะออกถึงจะเปลี่ยนได้ เลยบอกไปว่าไว้ถ้าเรามีทริปไปชลบุรีเมื่อไหร่ จะให้น้องเขาแวะไปเปลี่ยนตรงนี้ให้ ซึ่งลูกค้าประทับใจมาก” ธนพรเล่าถึงลูกค้า “เราวาง Positioning สินค้าเราไว้ค่อนข้างสูง เพราะฉะนั้น บริการหลังการขายของเรามันก็ต้องพรีเมียมกว่าเจ้าอื่น ๆ เหมือนกัน”
ทุกวันนี้ Aviva Spirit จดลิขสิทธิ์และสิทธิบัตรการออกแบบเรียบร้อยแล้ว ตามคำแนะนำของมิวผู้เป็นลูกสาวคนเล็กที่ยังเรียนมหาวิทยาลัย ตอนแรกทาง อ.สุภชัย และธนพร ไม่คิดว่านี่เป็นสินค้าที่จะมีใครมาลอกเลียนแบบ แต่ก็เกิดเหตุขึ้น ซึ่งพวกเขาชนะคดี ตอนนี้ไม่ต้องกังวลเรื่องลิขสิทธิ์อีกต่อไป
แรกเริ่ม อ.สุภชัย ทำธุรกิจนี้เพียงคนเดียว แต่เมื่องานฮวงจุ้ยเริ่มเยอะขึ้น ๆ ภรรยาจึงเข้ามาเป็นผู้จัดการดูแลการผลิต การขาย และล่าสุดลูกชายคนโตผู้เรียนจบ BBA อย่างแมคก็เริ่มเข้ามาช่วยเรื่องการพัฒนาธุรกิจ
“เมื่อก่อนเราขายในเฟซบุ๊กเป็นหลัก แต่ปัจจุบันขายในเว็บไซต์เป็นหลัก เพราะเราก็รู้กันอยู่ว่าเฟซบุ๊กมันไม่ได้ดีเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราก็พัฒนาเฟซบุ๊ก ไลน์ออฟฟิเชียล อินสตาแกรมขึ้นมา เพิ่มช่องทางการขายใหม่ ๆ” แมคเล่างานในส่วนของตัวเอง “แล้วเราก็รีแบรนด์เล็กน้อย ทำให้โมเดิร์นยิ่งขึ้น แต่ก่อนแบรนด์มีแท็กไลน์อยู่แล้ว แต่ไม่ได้โฆษณา เราก็ใส่แท็กไลน์ ‘ศาสตร์และศิลป์แห่งศรัทธา’ ออกแบบให้ทุกอย่างดูโมเดิร์นขึ้น ดูเป็นแบรนด์ออฟฟิเชียลขึ้น”
งานของแมคเกี่ยวข้องกับการพัฒนาในเชิงหลังบ้าน เชิงยอดขาย โปรดักต์ไลน์ใหม่ ๆ รวมถึงการเริ่มมีพาร์ตเนอร์ ตอนนี้แมคได้ติดต่อบริษัทสถาปนิกที่สอดคล้องกับแบรนด์ไปหลายเจ้า โดยมีจำนวนหนึ่งที่ให้ความสนใจจะนำโปรดักต์ไปสเปกให้ลูกค้า
“บางคนเขาไม่รู้ว่าตี่จู้มีมุมโมเดิร์นด้วย เพราะว่าตลาดเรายังเฉพาะกลุ่มอยู่ประมาณหนึ่ง ทำให้บางทีเรายังไม่เห็น พอส่งไปเขาก็เริ่มเห็นว่ามีสิ่งนี้”
เห็นว่าล่าสุดได้ไปออกบูทที่ TCDC ด้วย?
“ใช่ครับ อันนี้เป็นครั้งแรกที่เราไปออกงานเลย” แมคตอบ “เขามีจัด Product Exhibition ธีมมูเตลู จริง ๆ ตอนแรกเราว่าไม่ได้ตรงคอนเซ็ปต์ขนาดนั้น แต่มองว่าเป็นโอกาสดีที่จะทำให้สินค้าเราถูกมองเห็นในวงกว้างมากขึ้น
“ตอนนี้ Position ให้เราเป็นแบรนด์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าเรื่องความเชื่อที่เข้าถึงได้จริง ๆ อาจจะเป็นโปรดักต์รูปแบบไหน จะเป็นของตกแต่งบ้านหรือสินค้าอื่นก็ได้ที่ลูกค้าใช้แล้วสบายใจ เห็นผล แล้วก็ไม่ได้ขัดการชีวิตประจำวันเขา ใช้แล้วกลมกลืน ผสานไปด้วยกัน”
ว่าด้วยความเชื่อ
“ลูกค้านี่จริง ๆ จะมี 3 กลุ่ม กลุ่มแรกคืออากงอาม่า กลุ่มที่ 2 คือวัยระดับเดียวกับอาจารย์สุภชัย อายุ 40 – 55 กลุ่มที่ 3 คือหนุ่มสาวที่เพิ่งจะสร้างครอบครัวใหม่” ธนพรแจกแจงให้ฟัง
“ถ้าในระบบออนไลน์ที่ผมดูอยู่ ช่วงอายุที่เยอะที่สุด คือ 35 – 45” แมคให้ข้อมูลเพิ่มจากแม่ “เป็นวัยที่เริ่มมีฐานะ มีความมั่นคง พอเริ่มซื้อบ้านหลังแรก ก็อยากได้การดีไซน์ที่ร่วมสมัยมากขึ้น”
เขาบอกว่ามีลูกค้าอีกกลุ่มหนึ่งที่น่าสนใจ คือกลุ่มที่ไม่รู้ว่าตี่จู้คือบ้านของเจ้าที่ รู้เพียงว่าสิ่งนี้อยู่ในบ้านมานาน เมื่อพ่อแม่บอกให้ตั้งก็ยอมตั้ง เพราะตั้งแล้วก็ดูสวยดี บ้านดูเด่นขึ้นมา
“หลายท่านไม่อยากตั้งเพราะกลัวจะดูแลไม่ได้” ธนพรพูด Pain Point ของธุรกิจศาลเจ้าจีนในปัจจุบัน “แต่อยากจะบอกว่า เราไม่ต้องอะไรมากเลย เช้ามาก็แค่ชงน้ำชา 5 ถ้วย ตั้งหน้าเรือน แล้วกดปุ่มเปิดไฟไหว้ท่าน ภายในเวลา 5 นาทีก็ทำเสร็จ แล้วอีกอย่างก็คือพอไหว้ปุ๊บ ไม่ต้องมากังวลว่า ปิดไฟทันทีได้มั้ย หรือทิ้งไว้ได้มั้ย ไปข้างนอกได้เลย เพราะเดี๋ยว 8 ชั่วโมงก็ตัดเอง มันไม่ร้อนค่ะ
“ตรงนี้เป็นจุดที่ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ว่า อยากไหว้ แต่ก็อยากบริหารเวลาไม่ให้มันใช้เวลาชีวิตกับตรงนี้มากเกินไปด้วย”
คิดเห็นยังไงกับอนาคตของธุรกิจด้านความเชื่อ – เราถามครอบครัวซินแส
“มันเป็นคำถามที่ตั้งกับตัวเองเหมือนกันว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน” แมคตอบ “แต่พอโควิดนี่ทำให้เห็นชัดว่ามันไปได้อีกเยอะเลย เราดูพวกสร้อย หิน เขาทำแบรนด์ยิ่งใหญ่มาก แล้วคนที่ใช้จริง ๆ Persona ก็เป็นคนรุ่นใหม่ อายุประมาณเรา 20 กว่า ๆ เขามองเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งที่ไม่ได้เคอะเขินในการใส่ด้วยซ้ำ อุตสาหกรรมนี้มันไปได้อยู่แล้วแหละ อยู่ในตลาดคนไทย ยังไงคนไทยก็มีความเชื่อเรื่องนี้”
“ตราบใดที่คนเรายังต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ไม่ว่าจะจากปัจจัยภายนอก เช่น เศรษฐกิจ หรือปัจจัยภายใน เช่น ความมั่นใจ ธุรกิจความเชื่อก็ยังอยู่ได้ แต่แบรนด์จะอยู่ได้นานไหม ขึ้นอยู่กับความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ความเชื่อมั่น ความศรัทธาที่เราสร้างให้เกิดกับลูกค้า” แม่เสริมลูกชาย
แล้วตัวแมคเองมองความเชื่อในเรื่องพวกนี้ยังไงบ้าง?
“บางทีก็ตอบยากแหละว่าตามหลักวิทยาศาสตร์มันเป็นไปได้ยังไง แต่เรารู้สึกว่าสิ่งนี้มันมีผล” แมคตอบเรา เขาบอกว่าตอนเด็ก ๆ ก็ไม่เข้าใจ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่เมื่อพ่อมาเล่าฟีดแบ็กของลูกค้าให้ฟังบ่อย ๆ เขาก็รับฟังเป็นอย่างดี
“บางทีเรามองเรื่องพวกนี้ในมุมของสถิติได้ ถ้าวิธีการที่เราใช้ ถูกนำไปใช้กับคนจำนวนมากแล้วได้ผลจริง ดูว่าก่อนปรับฮวงจุ้ยกับหลังปรับฮวงจุ้ยแล้วผลเป็นอย่างไร มีการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นไหม เราก็พอจะพิสูจน์ได้ว่าสิ่งพวกนี้ให้ผลลัพธ์ในทางที่ดีกับคนที่มาขอคำปรึกษานะ
“ผลลัพธ์พวกนี้ ส่วนมากมาจากลูกค้าทักหลังไมค์มาบอกเราทางเฟซบุ๊กเองนี่แหละ เวลาเขาเจอเรื่องน่ายินดี เขาก็อยากแชร์ให้เราฟังอยู่แล้ว” อ.สุภชัย เสริม
“อย่างตอนนั้นเตือนแมคไปว่าปีนี้ตั้งใจเรียนให้มาก เพราะปีนี้ดวงแย่มาก เขาก็เลยตั้งใจอ่านหนังสือเป็นพิเศษ” อ.สุภชัย เล่าถึงความหลัง
“คือตอนนั้นเรียน Finance แล้วปี 3 เป็นปีที่ยากที่สุด เพราะต้องเรียนวิชาที่ยากหลายวิชา เนื้อหาไม่ค่อยเข้าหัว ก็เลยอ่านเยอะกว่าปกติ สุดท้ายก็ออกมาได้เกรดแบบที่เราพอใจ จากที่ตอนแรกคิดว่าจะสอบตก ต้องเรียนซ้ำอีกรอบแล้ว” แมคกล่าวพลางหัวเราะไป “ฮวงจุ้ยเหมือนเป็นเข็มทิศ ช่วยไกด์ให้เราคร่าว ๆ ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่คุณพ่อบอกเสมอว่า Action สำคัญกว่า ดวงคนอาจจะแค่ 30 – 40% ที่เหลือก็การกระทำเราเองนี่แหละ”
อ.สุภชัย บอกกับเราว่า หลายคนทำให้ฮวงจุ้ยเสียหายด้วยการพูดจาอย่างไม่มีเหตุผลทางวิทยาศาสตร์และการแก้ปัญหาที่สุดโต่ง ไม่ประนีประนอม หากเป็น อ.สุภชัย จะเน้นหาวิธีแก้ที่ปรับใช้กับชีวิตจริงได้
เราฟังอาจารย์พูดอย่างสนใจ เมื่อถามตัวเองว่าเชื่อเรื่องเหล่านี้มากแค่ไหนก็ไม่ได้คำตอบที่แน่นอนนัก แต่ก็คิดว่าหากจะมีอะไรที่พอจะชี้แนะแนวทางให้ชีวิตได้อีกอย่าง ฟังไว้ก็คงไม่เสียหลาย วันนั้นเรากลับบ้านไปพร้อมกับแบงก์ 1 ดอลลาร์ที่มีพลังของ Angel สถิตอยู่ข้างใน
อ.สุภชัย เป็นซินแสที่สนใจหลายศาสตร์ดีจริง ๆ
Lesson Learned
- ตอนแรก Aviva Spirit คิดไปเองว่าคนรุ่นใหม่ไม่ต้องการศาลไซส์ใหญ่ แต่จริง ๆ แล้วลูกค้าแต่ละคนมีความต้องการที่หลากหลาย
- ดูเผิน ๆ เหมือนแบรนด์นี้ขายแค่ศาลเจ้า แต่จริง ๆ แล้วขายแค่ตัวเรือนยังไม่พอ บางทีลูกค้าเขาเลือกซื้อเพราะความใส่ใจของคนขาย โปรดักต์สำคัญ แต่เซอร์วิสก็สำคัญเช่นกัน
- จงปรับตัวเสมอ แม้จะได้รับผลตอบรับค่อนข้างดี แต่ก็ต้องหามุมอื่น ๆ ที่ตอบโจทย์ลูกค้าได้เพิ่มเติม การพยายามเข้าใจลูกค้า พยายามพัฒนา ทำให้ธุรกิจไปได้เรื่อย ๆ
- ควรจดสิทธิบัตร การจดสิทธิบัตรช้าไป เมื่อโดนคนอื่นลอกเลียนแบบจะเป็นคดีความอยู่นานจึงจะคลี่คลาย ไม่คุ้มกับการเสียเวลาในชั้นศาล
- อะไรก็ตามที่เราทำด้วยแพสชัน สิ่งที่ตามมาจะให้ผลเกินคาดไว้
Aviva Spirit
Website : www.avivaspirit.com
Facebook : Aviva Spirit – ศาลพระภูมิ ตี่จู้ หินอ่อน Modern Luxury ถูกหลักฮวงจุ้ย
Instagram : avivaspirit.th