หากเสิร์ชหาข่าวของ สายป่าน-อภิญญา สกุลเจริญสุข ในอินเทอร์เน็ต ก็มักพ่วงมาด้วยคำว่า ‘สาวติสต์’ ต่อท้าย

ถึงจะไม่ชอบเท่าไหร่ แต่เธอก็ไม่เคยออกมาพูด

สายป่านเข้าวงการมาตั้งแต่อายุ 14 ปี ภาพแรกที่นึกออกคือเด็็กสาวผมฟูในรายการแสนสดใสอย่าง Strawberry Cheesecake

จากนั้นไม่นาน เธอกระโจนเข้ามารับบทบาท ‘พลอย’ ในหนังชื่อเดียวกัน จากการจุดบุหรี่สูบในห้องแคสติงจนเข้าตาผู้กำกับ เป็นเอก รัตนเรือง หลังควานหาเด็กสาวมารับบทกว่าพันชีวิต

ตลอดเส้นทางการเป็นนักแสดง เธอบอกว่าใช้เวลา 12 ปีพิสูจน์ตัวเอง เพื่อลบข้อครหามากมายในอดีตและเลิกเป็นในสิ่งที่คนอื่นต้องการ หนึ่งในคำถามของวันนี้จึงเป็นอะไรทำให้เธออดทนขนาดนั้น 

“เพราะป่านเชื่อว่าการเป็นตัวเองไม่ใช่คนไม่ดี ป่านแค่มาก่อนกาล” เธอตอบพร้อมเสียงหัวเราะ

นักแสดงหญิงที่ให้อิสระแก่ตัวเองด้วยการใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ สักเต็มเนื้อตัว ล่าสุดเธอลุกขึ้นมาโกนผมสกินเฮดรับหน้าร้อน เพียงเพราะมันเอื้อให้เธอดำน้ำได้สนุกขึ้นโดยไม่ต้องพะวงเรื่องผมเผ้า และป่านกำลังเป็นครู เปิดโรงเรียนสอนดำน้ำ BlueProdigy หลังค้นพบว่านั่นไม่ใช่แค่งานอดิเรก แต่เป็นสิ่งที่เธอโหยหา

ในวัย 33 ป่านขอพักหายใจจากวงการบันเทิงด้วยการหนีลงทะเล ท้องสมุทรสุดเวิ้งว้างที่ทำให้เธอได้ยินเสียงของตัวเองดังกว่าใคร

เราอยากให้คุณเห็นเธอในมุมนี้

ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง

I’m fine

เห็นว่าคุณมีโรงเรียนสอนดำน้ำที่เขาหลักด้วย ทำไมต้องเป็นที่นั่น

มันเป็นทะเลอันดามัน สวย ค่าครองชีพถูก สะดวกสบาย มีหลายอย่างให้ทำ มีชุมชนเซิร์ฟ มีร้านกาแฟ มีเพื่อนฝูง อาหารถูกมาก เราก็เลยไปตั้งรกราก เปิดโรงเรียน เปิดออฟฟิศที่นั่น

นักเรียนที่กรุงเทพฯ กับที่เขาหลักต่างกันไหม

คนเขาหลักวิถีชีวิตเขาเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ติดทะเล ไม่จำเป็นต้องเรียน หลาย ๆ คนมีพื้นฐานการดำน้ำ จะเน้นกิจกรรมการท่องเที่ยวและดำน้ำมากกว่า

ที่นี่เน้นการเรียนการสอน ด้วยความที่ส่วนใหญ่เป็นคนทำงานออฟฟิศ วันหยุด วันว่าง จะชอบหากิจกรรมทำ บางคนมาเรียนโดยที่ไม่มีพื้นฐาน ว่ายน้ำไม่เป็นเลย

ยากไหม การสอนคนว่ายน้ำไม่เป็นให้ดำน้ำเป็น 

ถามว่ายากไหม เกิดจากเราชอบดำน้ำก่อน มันเปิดโลกป่าน รู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เราโหยหามาตลอดชีวิต คือความสุขที่แท้จริงของป่านเลย 

พอผ่านเวลามา ดำกับ วุฒิ (นันทวุฒิ บุญรับทรัพย์) สองคนก็เริ่มเหงา เวลาเราไปเที่ยว ไปเจออะไรดี ๆ ก็อยากมีเพื่อน เลยเริ่มคิิดว่าหรือเราจะเปิดโรงเรียนแล้วทำธุรกิจดำน้ำแบบจริงจังเลยดี หนึ่ง ได้มีเพื่อนเพิ่ม สอง เรามีธุรกิจอีกอย่างคือการนำเข้าฟินหรือตีนกบ เลือกยี่ห้อที่อยากได้ที่ในไทยไม่มีตัวแทนจำหน่าย งั้นเราทำ 2 อย่างควบคู่กันไป เพื่อนเราจะได้ใช้อุปกรณ์ดี ๆ แล้วก็ทำสิ่งที่ชอบไปด้วย

ทำไมถึงบอกว่าการดำน้ำเป็นสิ่งที่โหยหา 

เราเป็นคนทำกิจกรรมเยอะมากตั้งแต่เด็ก แต่ไม่มีกิจกรรมไหนเลยที่รู้สึกลึกซึ้งขนาดนี้

เพราะอะไร

ใต้น้ำมันเงียบ

ป่านทำงานตั้งแต่อายุ 14 ชีวิตป่านวุ่นวายมาโดยตลอด ที่โรงเรียนก็วุ่นวาย ด้วยความที่ไปบ้างไม่ไปบ้าง ไปทีทุกอย่างก็ประดังประเด ครู การบ้าน เพื่อน ต้องขอสอบย้อนหลัง พอไปอยู่กองถ่ายก็ได้ยินแต่เสียงวอ ผู้ช่วย นักแสดง ช่างแต่งหน้า ช่างไฟยกรางดอลลี่ ต่อให้มีพื้นที่ส่วนตัว มีเก้าอี้ของเรา ก็ยังเห็นคนเดินขวักไขว่ แล้วเราทำงานมา 18 – 19 ปี ไม่ได้พัก แม้ว่าเป็นวันที่ควรจะได้พัก 

ตอนอยู่บนบก เราได้ยินเสียงคนอื่นเยอะแยะเต็มไปหมด เสียงในหัวไม่มีเลย แล้วด้วยความที่ป่านเป็นคนได้ยินเสียงชัดกว่าคนอื่น ทุกอย่างที่ลอยผ่านหูมันเข้าไปในหัวโดยอัตโนมัติ เหมือนเราเป็นคนเซนส์เปิด เราเก็บทุกคำพูดของทุกคนเข้าไปอยู่ในหน่วยความจำ มันไม่มีวันที่ป่านจะฟอร์แมตได้ เพราะสมองเราไม่ใช่ฮาร์ดดิสก์ 

การดำน้ำทำให้ป่านได้ยินแค่เสียงตัวเองโดยไม่ต้องพูด รู้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไร เห็นอะไร อยู่กับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าจริง ๆ แล้วพอขึ้นมาก็รู้ตัวว่าหิว ป่านก็บอกเลยว่าอยากกินอะไร คนละอย่างกับกองถ่ายที่มีคนมาเสิร์ฟตลอดว่า พี่ป่านน้ำแดงไหมคะ ผลไม้ไหมคะ ยังไม่ทันต้องการแต่เราได้ก่อน จริง ๆ เราอาจจะยังไม่ได้หิวด้วยซ้ำ เรากินเพราะอยากหรือเกรงใจเขา เราว่าชีวิตมันอิ่มไป เยอะเกินไป เราไม่ได้ต้องการมากขนาดนั้น แล้วเป็นแบบนี้มาตลอด 18 ปี

สายป่านไม่ชอบวงการบันเทิงแล้วเหรอ

ไม่ได้ไม่ชอบนะ วันไหนไม่ทำงานก็เหงา เหมือนเราโตมาแบบนี้ แต่ขอพื้นที่ที่จะได้พักบ้างดีกว่า ได้มีเวลาหายใจ อยากมีเวลาหยุดอยู่บ้าน เก็บบ้าน ซักผ้า ไปธนาคาร

ต่อให้เราไปออกกองแลกกับเงินที่เยอะ แต่มันก็ไม่ได้สนุกขนาดนั้น คนเราไม่อยากนอนดูซีรีส์บ้างเหรอ จริง ๆ เรามีความสุขกับชีวิตแบบนี้เหมือนกัน แต่เราโดนวงการบันเทิงแย่งเวลาไป

ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง
ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง

พูดได้ไหมว่าการลงไปใต้น้ำคือการหลีกหนีจากความจริงของคุณ

ใช่ ป่านหนีจริง ๆ นะ 

เริ่มต้นเลยคือเราเครียดมาก ทำงานเยอะเกินไป เอียนจนจะอ้วก ชีวิตป่านมีความคาดหวังเยอะมาก ๆ กับวงการบันเทิงตั้งแต่เด็กจนโต คนอื่นคาดหวังในชื่อของสายป่าน

บางคนยอมจ่ายในราคาที่สูงเพื่อแลกกับชื่อ กับงานคุณภาพ ป่านก็ทุ่มเต็มที่ ทำสุดตัว แล้วบางทีสิ่งเหล่านี้มันกินเราไปเหมือนกัน ป่านเป็นแบบนี้ พูดแบบนี้ แต่บทที่ได้รับทุกบทมันยากและค่อนข้างห่างไกลจากตัวเรามาก ๆ  ซึ่งป่านต้องตื่นเช้ามาไปแต่งตัวเป็นคนอื่น ต้องอยู่กับคนคนนั้นทั้งวัน ต้องเปลี่ยน 10 ชุด พูดแบบที่ตัวละครพูด เท่ากับวันนั้นป่านไม่ได้เป็นตัวเองเลย ป่านแค่ใช้ร่างป่านและให้วิญญาณของตัวละครเข้ามาอยู่ข้างใน เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวหัวเราะ มันจะเป็นบ้าเอา 

แล้วพอสะสมกันไปนาน ๆ  มันกินความเป็นเราจริง ๆ จนป่านอยากจะหนีไปทะเล 

แต่คุณจะหนีไปไม่ได้ตลอดรึเปล่า

ใช่ ไม่ตลอด เราเป็นคนที่ต้องแก้ทุกปัญหา เพียงแต่ขอเวลาเราหายใจแป๊บหนึ่ง ทุกคนรอบตัวเร่งเร้ากับเรามาก ๆ เพราะป่านเป็นแบบนี้ อยู่กับความคาดหวังว่าสายป่านจะต้องทำได้ ทุกคนมองว่าเราเป็นคนเก่ง แต่กูเหนื่อยเป็น 

กูทำได้ แต่ขอเวลาหายใจ กับทุกเรื่องของทุกคน ต้องกูหมดเลยเหรอ

คุณปฏิเสธคนเก่งไหม

แทบไม่เคยเลย ถ้าถามทุกคนในชีวิตว่าป่านเคยปฏิเสธใครไหม ไม่เคยเลย ให้ได้ทุกอย่าง ทุกคน ถ้าทำไม่ได้ก็จะพยายามอย่างดีที่สุด 

เคยถามตัวเองไหมว่าเพราะอะไรถึงเป็นคนแบบนี้

เหมือนเราเป็นคนชอบความเพอร์เฟกต์ ตอนไปทุ่มเทกับงาน ป่านก็ไม่อยากให้ครูมองว่าทิ้งการเรียนไปเป็นดารา เราเลยตามงานตลอดเพื่อให้เกรดยังคงดีอยู่ กลายเป็นเราต้องทำ 2 อย่างไม่ให้ขาดตกบกพร่องใด ๆ เลย เพราะไม่ชอบชีวิตที่ไปไม่สุดสักทาง ถ้าจะทำก็ต้องทำให้ได้ทั้งหมด 

แล้วพอทำได้ เห็นคนอื่นภูมิใจในตัวเรา ยิ่งต้องทำให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งเป็นแบบนี้ เราต้องทำ ไม่ทำไม่ได้ เพราะทุกคนรู้ว่าเราทำได้ ทุกคนมาแปะว่านี่คือสายป่าน 

แต่ถามว่ามีความสุขไหม มีนะ ชีวิตหนึ่งเราก็อยากลองดูสักตั้งว่ามีแค่สองมือ หนัก 43 สูง 162 กูจะทำได้สุดแค่ไหนวะ ชีวิตนี้มีครั้งเดียว เกิดครั้งเดียว ตายครั้งเดียว ลองดูจนกว่าจะไม่มีแรง เพราะเชื่อว่าถ้าวันนี้เราทำให้ทุกคนเห็น วันหนึ่งที่เราล้ม จะไม่มีคนสมน้ำหน้าเลย 

ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง

Being like everybody is the same as being nobody.

ภาพลักษณ์นอกกรอบหลาย ๆ อย่างของคุณ ทั้งบุคลิก ทรงผม การแต่งตัว การสัก ได้มาจากไหน

เราเป็นคนแบบนี้ตั้งนานแล้ว ทั้งหมดที่เป็นป่านวันนี้ต้องยกเครดิตให้ที่บ้าน พ่อกับแม่ป่านใจกว้างมาก ๆ เขาให้ทำทุกอย่างที่อยากทำ คอยเตือน แต่ไม่เคยห้ามสักคำ เพียงแต่มันตามวัย 

ตอนเด็กเราสูบบุหรี่ เที่ยว ที่บ้านไม่เคยว่า ป่านเลยไม่ได้มานั่งใส่ใจว่าคนอื่นจะมองว่าอะไร เคยมีข่าวว่าเราสูบบุหรี่ ป่านก็ไม่เคยออกมาพูด ในเมื่อป่านอยู่บ้าน ใช้ที่เขี่ยบุหรี่ ใช้ไฟแช็กอันเดียวกับพ่อ ที่เห็นเราเดินอยู่ข้าวสาร พ่อแม่ไปส่งตลอด เราเลยไม่ได้มานั่งขอโทษ มันคือวัยของป่าน อายุ 18 ถ้าลูกไม่เที่ยวจะให้ตื่นเช้ามาเก็บดอกกุหลาบเหรอ มันก็ต้องเที่ยว 

แล้วพอเขาเปิดมาก ๆ ความเกรงใจมันจะเกิดขึ้นเองเลย กูเหี้ยแค่ไหนเขาก็ไม่เคยว่า ดังนั้น กูจะไม่เหี้ยไปมากกว่านี้อีกแล้ว (หัวเราะ) ป่านจะเป็นยังไงก็แล้วแต่ แต่อย่าให้คนมาด่าว่าพ่อแม่เลี้ยงมาไม่ดี เพราะพ่อแม่เลี้ยงป่านมาดีมาก

ต่อให้คุณบอกว่าไม่ได้รู้สึกกับคำพูดของคนอื่น แต่ถามจริง ๆ ว่ามีผลกระทบไหมในวงการบันเทิง

ป่านว่าป่านเลยจุดที่ทุกคนจะมาอะไรด้วยแล้ว เราอดทนมา 12 ปีตลอดชีวิตการทำงาน ตั้งแต่หนังเรื่อง พลอย คนก็ด่าว่าเป็นเด็กแรง เป็นเด็กติสต์แตก แต่ป่านเลือกที่จะเอาคุณภาพของงานไปแลกกับข่าวลบ ๆ พวกนี้ 

ป่านตั้งใจทำงานให้ดี เล่นอะไรก็ได้ ดึกแค่ไหนก็ได้ ป่านสนใจคนที่ทำงานร่วมกันมากกว่า เหมือนที่ไม่ได้สนว่าคนนอกจะพูดยังไง ตราบใดที่ครอบครัวเราเข้าใจ จนวันหนึ่งผลงานของป่านได้รางวัล ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป 

พอมีรางวัลการันตี คนก็รู้สึกว่าป่านเป็นนักแสดงมีคุณภาพ เราเลยเป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น เพราะทุกคนเข้าใจคำว่า ‘สายป่าน’ ทุกคนมีภาพจำชัดเจนแล้วว่าเป็นคนแบบไหน 

ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง
ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง

มองเป็นข้อดีที่คุณเจอข่าวแง่ลบเร็วกว่าคนอื่น 

ใช่ ในหนึ่งข่าวเราก็มีภูมิมากขึ้น เวลามีข่าวมากระทบหน้าปึ้ง เราหันไปมองครอบครัวก่อนเลย พ่อแม่สบายดี โอเค งั้นกด Next ข่าวต่อไปกระแทกหน้าอีกปึ้ง โอเค พ่อกับแม่ก็ยังอยู่ที่เดิม (หัวเราะ)

อย่าบอกว่าเราไม่ได้ใส่ใจเลย เราไม่ได้อ่านมากกว่า ถ้าชีวิตยังกินอิ่มนอนหลับ พ่อแม่มีความสุข กินข้าวร่วมกันแล้วหัวเราะกับเรื่องง่าย ๆ เดิม ๆ สามีเข้าใจ น้องเข้าใจ เพื่อนสนิทเข้าใจ มันเลยกลายเป็นเรื่องตลก เป็นท็อปปิกของพวกเราด้วยซ้ำ 

อะไรทำให้อดทนพิสูจน์ตัวเองได้นานถึง 12 ปี

เพราะป่านเชื่อว่าการเป็นตัวเองไม่ใช่คนไม่ดี ป่านแค่มาก่อนกาล (หัวเราะ)

วันนี้ไม่ใช่วันของเรา วันหนึ่งข้างหน้าก็ต้องมีวันของเรา แล้วป่านใช้ชีวิิตประจำวันได้โดยเป็นตัวเองไปเรื่อย ๆ เพราะไม่ได้คาดหวังว่า กูจะต้องพิสูจน์ตัวเองวันนี้ ไม่ได้อยากจะโด่งดัง งานที่ทำก็เป็นงานประกวด 

ต่อให้คนไทยไม่เอ็นดู คนไทยไม่รัก แต่ป่านได้ไปเทศกาลหนังเมืองนอก ต่อให้คนไทยไม่ให้ค่า แต่ป่านไปอยู่ต่างประเทศ ทุกคนต่อคิวสัมภาษณ์ ฉันแฮปปี้ดี ในไทยจะด่าฉันเหรอ ช่างแม่ง เพราะเขาไปถึงไหนกันแล้ว 

เล่นหนังนอกกระแสก็ดี ไม่ต้องดูกันไปเลย จะไม่ต้องมาวิจารณ์ (หัวเราะ)

อยากเอาชนะเหรอ

ไม่นะ (หัวเราะ) ก็ดูกันไปในแพลตฟอร์มเดิม ๆ แหละ เขาน่าจะชอบอะไรแบบนั้นมากกว่า ป่านคงไม่ได้อยู่ในประเภทที่เขาชอบ 

เคยมองย้อนถึงตัวเองช่วง Strawberry Cheesecake ไหม มีอะไรอยากพูดถึงสายป่านคนนั้นบ้าง

เคย

ตอนนั้นเราอาจจะโดดเด่นด้วยลุคผมฟู เลยถูกจับไปใส่เข่งแล้วก็เขย่าน้ำรวมกับเพื่อน ๆ แต่เพื่อนคือเพชร เราคือหิน เพื่อนคือทองบริสุทธิ์ เราคือทองชุบ วันหนึ่งสีมันก็หลุด (หัวเราะ) แล้วป่านก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นที่ของเราตั้งแต่แรกอยู่แล้ว

ถ้าให้นึกถึง ก็ยังทำได้อยู่นะ “สวัสดีค่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการ Strawberry Cheesecake ค่า” จริง ๆ นั่นไม่ใช่ตัวตนของป่านเลย เป็นอีกหนึ่งบันไดที่ทำให้เราเริ่มต้นแสดงตั้งแต่การเป็นพิธีกร (หัวเราะ)

ตอนนั้นรายการบรีฟคุณไว้ยังไง

สดใส เพียงแต่ตัวป่านอาจจะดูดาร์กกว่านั้นนิดหนึ่ง ต่อให้เขาเอาเสื้อผ้ามาให้ใส่ ยังไงเราก็คือทองชุบอยู่ดี (หัวเราะ) ป่านเป็นเด็กเปรี้ยว ใส่กางเกงเล เสื้อยืด รองเท้าช้างดาว แต่เพื่อน ๆ คนอื่นไม่ใช่แบบนั้น 

ทุกคนกำมือแน่นวันที่ป่านบอกว่า ต้องไปแล้วนะ ตอนนั้นเราอาจจะออกไปแบบงง ๆ แต่วันที่เราโตขึ้น เพื่อนทุกคนบอกว่า กูเข้าใจมึงเลย มึงทำถูกต้องแล้ว มันไม่ใช่ที่ของมึงจริง ๆ ไปเถอะ 

ชีวิตบนความคาดหวังของ สายป่าน อภิญญา ในวัย 33 ที่เป็นครูสอนดำน้ำและได้ยินเสียงตัวเอง

ถ้าการเป็นพิธีกรเป็นเหมือนการซ้อมแสดง แล้วตอนไหนที่คุณชอบการแสดงจริง ๆ 

ไม่รู้เลย เราไม่ได้มีทักษะเรื่องการแสดง จนกระทั่งไปแคสต์หนังเรื่อง พลอย แล้วมารู้ตอนหลังว่าทุกคนตกใจกับสิ่งที่ป่านทำ เช้าวันรุ่งขึ้นหลังจากฉายรอบสื่อ ทุกสกูปที่เกี่ยวกับหนังเขียนเกี่ยวกับป่านหมดเลย 

พี่ต้อม พูดว่าเขาจะพับโปรเจกต์นี้แล้ว เพราะแคสต์พลอยไปเป็นพันคนแต่ยังไม่เจอ แล้วตัวละครนี้สำคัญมาก เพราะหนังชื่อ พลอย 

ตอนนั้นคุณทำอะไร

ป่านไม่ได้แสดง ป่านแค่เป็นตัวเอง

เขามีแค่โต๊ะกับกล้อง เหมือนเวลาเราไปแคสต์โฆษณา เขาบอกว่าในห้องนี้สูบบุหรี่ได้ ระหว่างรอแคสต์เราก็สูบบุหรี่ไปเลย ในบทก็มีซีนที่พลอยสูบ นั่งคุยกันแบบนี้ แล้วพี่ต้อมก็บอกว่าป่านคือสิ่งที่เขาตามหาตลอดระยะเวลา 3 – 4 ปี บวกกับสัมภาษณ์ พี่หมิว พี่อนันดา เลยรู้สึกว่าหรือเรามาทางนี้น่าจะดี (หัวเราะ)

คุณหลงรักอะไรในการแสดง

มันทำให้ป่านมีโอกาสสำรวจจิตใจคน เราได้รู้ว่ามีคนประเภทนี้อยู่ในโลกด้วย ตัวละครคิดแบบไหน แบ็กกราวนด์เป็นยังไง พ่อแม่เป็นยังไง เราก็เลยสนุกและเข้าใจคนมากขึ้น หล่อหลอมให้เราแคร์ทุกคน แล้วก็รู้สึกว่าไม่มีใครผิด นี่คือนิสัยของคุณ คุณชั่วได้ ไม่ผิด แต่ชั่วแล้วต้องมีข้อดีด้วยนะ เพราะไม่มีทางมีใครชั่วที่สุดได้ ในความชั่วมักมีเหตุผล เขาทำแบบนี้มันเพื่ออะไร เพราะเขามืดบอด เขารักตัวเอง เขาทำเพื่อพ่อแม่เขาจะได้สบาย ป่านเลยกลายเป็นมองโลกใบนี้ว่าไม่มีใครผิดทั้งนั้น

จากคนที่รักการแสดงขนาดนั้น รู้สึกยังไงที่วันนี้อยากหนีจากมัน

เราแค่อยากหนีจากสังคม ยิ่งทุกวันนี้คนในกองถ่ายยิ่งเยอะ มีนักแสดงใหม่ ๆ เกิดขึ้นเยอะมาก อายุประมาณ 20 – 21 ตัวป่าน 33 แล้ว มันมีระยะห่างเป็นสิบปี ในกองเราก็ไม่ได้อยู่ขนาดเด็กมากหรือแก่มาก เราอยู่ตรงกลาง บางคนอาจจะเหงา ไม่มีตัวตน แต่เรารู้สึกว่าถ้าหนีได้ก็อยากไปทะเล 

ป่านไม่ได้บอกว่าไม่รักการแสดงแล้วนะ ป่านยังรัก เพียงแค่อึน ๆ กับบรรยากาศของมัน เราแค่ไม่รู้จะเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหนของกอง จะสนิทกับผู้กำกับเกินไปก็เกรงใจน้อง ๆ ถ้าสนิทกับน้องคนหนึ่งมากเกินไป อีกคนก็จะนอยด์ มันอยู่ในช่วงวัยที่วางตัวลำบากในกองถ่าย

ในวัย 33 กลัวไหม ถ้าสายป่านจะไม่ได้เป็นนางเอกหรือนักแสดงเบอร์ต้นอีกแล้ว

ไม่กลัว ทุกอย่างเกิดขึ้นและดับไปได้ 

ป่านไม่เคยคิดว่าจะเป็นนางเอกเลย (เน้นเสียง) 

ทุกเรื่องที่รับก็ไม่เคยคิดว่าจะต้องเป็นนางเอก ความสำคัญไม่ได้ขึ้นอยู่กับเป็นนางเอกหรือไม่เป็น มันขึ้นอยู่กับบท น่าเล่นเราก็เล่น ป่านไม่ใช่นางเอก ไม่ใช่ดารา ป่านเป็นนักแสดง ป่านรับเงินเป็นค่าจ้าง สิ่งที่คุณจะได้กลับไปคืองานตามบท ไม่บิดเบี้ยวผิดเพี้ยนแม้แต่นิดเดียว เขียนมายังไงทำได้ตามนั้น ไม่งั้นป่านไม่รับบทหนังนอกกระแส เป็นโสเภณี เป็นเด็กติดยา นั่นไม่ใช่นางเอกด้วยซ้ำ แต่ป่านไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน

คุยกับ สายป่าน อภิญญา จากนักแสดงมากฝีมือสู่ครูสอนดำน้ำ ในวันที่ได้ยินเสียงความต้องการของตัวเองดังที่สุด

I wish they would only take me as I am.

การเป็นครูสอนดำน้ำกับนักแสดงแตกต่างกันยังไง

ตอนอยู่ในกองถ่าย ชีวิตเราเป็นเรื่องสำคัญ แต่ตอนเป็นครูสอนดำน้ำ ชีวิตเราสำคัญน้อยที่สุด ชีวิตนักเรียนสำคัญที่สุด 

ป่านเคยแต่ได้รับ พอมาสอนนักเรียน เราได้เป็นฝ่ายถามว่า ใส่หน้ากากได้ไหม ใส่ฟินได้ไหม มีโรคประจำตัวรึเปล่า เหมือนเราได้ดูแลคนอื่น เราชอบให้ความรู้ มันตรงกับนิสัยของเราจริง ๆ 

ให้คนอื่นบ้าง เราจะได้ไม่เห็นแต่ปลายตีนตัวเอง ไม่งั้นถ้าเรายืนอยู่บนจุดของสายป่าน มองไปข้างหน้าก็คือโพเดียม คือสปอตไลต์ การเป็นครูสอนดำน้ำทำให้เรามองเห็นคนอื่นด้วย

แล้วการเป็นครูสอนดำน้ำสอนอะไรคุณบ้าง

(นิ่งคิด)

สอนว่า ต่อให้เป็นความสุข ก็ไม่ควรทำมันมากเกินไป เอาแต่พอดี ไม่งั้นจะไม่สนุก 

กับทุก ๆ อย่าง การแสดงก็เหมือนกัน ดำน้ำก็เหมือนกัน ทุกวันนี้ที่ยังดำอย่างมีความสุข เพราะป่านไม่ได้รัดตัวเองแน่นจนเกินไป เราเปิดโรงเรียน มีครู มีน้อง ๆ ในสังกัดอีก 4 คน ไม่มีใครกดดันใคร

เราผ่านการเรียนรู้มาเยอะว่าอย่าเอาชีวิตไปแปะไว้กับอะไร อย่าไปคาดหวัง ตัวเองสำคัญที่สุด ความสุขของเราสำคัญที่สุด อะไรที่มากเกินไปจะไม่มีความสุขเลย คนรอบข้างเราจะรู้ว่าอย่ากอดป่านแน่นเกินไป เพราะเมื่อไรที่รัดแน่น ป่านจะอึดอัด ไม่ชอบ เพราะป่านไม่ได้ถูกปลูกฝังมาแบบนั้น ถ้าอึดอัดเมื่อไหร่ป่านจะหนีทันที

มีอะไรท้าทายที่สายป่านอยากทำแต่ยังไม่ได้ทำอีกไหม

ไม่มี ป่านไม่ได้คิดเลยว่าอยากทำอะไรต่อไป ทุกวันนี้คิดแค่ว่ากูมีความสุขกับสิ่งที่ทำรึเปล่า แต่ถ้าเกิดข้างหน้ามีอะไรใหม่ ๆ ปะทะเข้ามาแล้วรู้สึกว่าท้าทาย ป่านพร้อมทำตลอดเวลา เป็นคนที่แทบจะไม่พูดว่าไม่เอา ถ้ามีโอกาสแล้วมองว่าน่าสนใจว่ะ ป่านกระโจนเลย 

คุยกับ สายป่าน อภิญญา จากนักแสดงมากฝีมือสู่ครูสอนดำน้ำ ในวันที่ได้ยินเสียงความต้องการของตัวเองดังที่สุด

คุณมีความฝันไหม

ไม่เคยอยากได้อะไรเลยนอกจากไม่ต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ มีที่นอน มีข้าวกินทุกวัน แค่นั้นจริง ๆ 

ความฝันคือมีชีวิตแบบเรียบง่ายที่สุด ทุกวันนี้เราตื่นตี 5 ลงมาชงกาแฟ รดน้ำต้นไม้ กวาดถูบ้าน 7 โมงขึ้นไปปลุกวุฒิ ให้ข้าวหมา กินข้าวเช้า ออกจากบ้านมาทำงาน แต่ที่เราออกไปทำงานเพราะพอผ่านช่วงโควิดมารู้เลยว่าเงินสำรองสำคัญที่สุดในชีวิต (หัวเราะ) คนจะมีเงินต้องขยัน ถ้าคนไหนทำงาน ขยัน คนนั้นไม่อดตาย 

เราเห็นคนแย่เยอะมาก โทรมาหาเรา ป่านก็บอก รู้ไหมว่าเราก็ทำงานมาเหนื่อยเหมือนกัน คุณอาจจะคิดว่าเราสบาย แต่ตอนไปดำน้ำ ตูดป่านตากแดด หน้าป่านทิ่มปะการัง ตากแดดตากลมทั้งวันทั้งคืน กว่าจะได้เงินมา คุณนั่งอยู่ในออฟฟิศ ไม่ต้องเดินทาง ไม่ต้องทิ้งบ้าน ไม่สงสารป่านเหรอ ชีวิตที่เรียบง่ายเลยเป็นอะไรที่ป่านตามหา

พอเข้าวงการเร็วกว่าคนอื่น ใช้ชีวิตก่อนคนอื่น ก็เหมือนจะเกษียณตัวเองก่อนคนอื่นนะ

น่าจะนะ พอผ่านจุดที่ใช้เงินระเบิดกับทุกสิ่งอย่าง สุดท้ายแล้วเราเข้าใจว่ามันก็แค่ภายนอก ฉาบฉวยมาก ป่านไม่กินเหล้า ไม่เที่ยวเลยมา 7 ปีแล้ว กลางคืน 3 ทุ่มเปิดเน็ตฟลิกซ์ดูซีรีส์บนที่นอน 

ทุกวันนี้ดำน้ำ ต่อให้คุณใส่แหวนเพชรวงละ 4 กะรัต ใส่นาฬิกาโรเล็กซ์ ขับรถสปอร์ตหรูแค่ไหน คุณขับลงทะเลไม่ได้ ใส่ลงทะเลไม่ได้สักอย่าง ต้องถอดทุกอย่างทิ้งไว้ที่บ้าน จะเอาไปอวดใคร 

ความฉาบฉวยพวกนั้นไม่ได้ทำให้ป่านมีความสุข มันแค่ทำให้ดูดีในสายตาคนอื่น พอสำรวจจิตใจตัวเองแล้ว มันไม่ได้ดูดีในสายตาเราเลย ไม่รู้ตัวเองจะมีไปทำอะไร เราไม่ขวนขวายแล้ว ไม่ซื้อเพิ่ม ไม่อยากมีอยากได้ ไม่มีไอเทมที่เงินออกแล้วจะต้องซื้อ รถที่มีก็เป็นรถครอบครัวเอาไว้ขนของ

สายป่านอยากเล่าอะไรให้ฟังอีก

ป่านอยากให้คนรู้จักป่านเยอะ ๆ เราเหมือนจะเข้าถึงยากนะ หลายคนไม่กล้าเข้าหา เพราะเขาตัดสินจากภาพที่เขาเห็น ซึ่งจริง ๆ แล้วเราไม่ได้เป็นอย่างที่ทุกคนคิด เราไม่ได้เข้าใจทุกสิ่งอย่างบนโลกใบนี้ ถ้ารู้จักตัวตนที่แท้จริงของป่านอาจจะเปลี่ยนมุมมองที่มีต่อเรา ไม่ใช่แค่ป่าน รวมถึงคนอื่น ๆ ด้วย สังคมไทยชอบตัดสินกันไปเอง 

แล้วป่านอดทนมา 12 ปี ใครจะด่ากูว่าเป็นเด็กใจแตกกูก็เก็บไว้ ใครจะด่าว่ากูเป็นเด็กติสต์กูก็เก็บไว้ ใครจะมองกูยังไงกูก็เก็บไว้ วันหนึ่งข้างหน้าเดี๋ยวคนก็รู้ เราให้ข่าวเขียนไปเลย เรียนจนได้เกียรตินิยม ส่งงานตามกำหนด ใจแตกจริงจะเอาเวลาไหนไปเรียน เราพิสูจน์ด้วยการกระทำ ขี้เกียจมานั่งแพล่ม

เราอดทนมามาก ทุกวันนี้ก็ยังอดทนอยู่เลย

คุยกับ สายป่าน อภิญญา จากนักแสดงมากฝีมือสู่ครูสอนดำน้ำ ในวันที่ได้ยินเสียงความต้องการของตัวเองดังที่สุด

ขอ 5 รอยสักที่ส่งผลกับชีวิตสายป่าน 

If not now then when ถ้าไม่ใช่ตอนนี้ แล้วจะตอนไหน สักเอาไว้บอกตัวเอง นี่คือเหตุผลที่ทำให้เราเป็นคนตัดสินใจทำอะไรทำเลย รออะไร ทำให้รู้ ล้มก็ไม่เป็นไร ตัดสินใจเอง ยอมรับได้ถ้าจะล้ม แต่ดีกว่าไม่ได้ทำ

I wish they would only take me as I am อันนี้สักไว้บอกคนอื่น หวังว่าทุกคนจะเข้าใจในสิ่งที่ป่านเป็น รับได้ในสิ่งที่เราไม่ต้องประดิษฐ์ นี่คือทั้งหมดของชีวิตเรา คุณเอาไปเลย

I’m fine แล้วขีดกากบาทฆ่า สักเพราะคนชอบถามปลอม ๆ ว่า ป่านเป็นไง สบายดีไหม โดยที่เขาไม่ได้อยากรู้ว่าเราเป็นยังไง เราก็ตอบกลับไปแบบยิ้มเจื่อน ๆ เหมือนข้างนอกเฮฮา แต่ข้างในฮือ ๆ 

I saw all the people behind their mask, I saw them through and they was suffering นี่คืออยากบอกว่า เราเห็นทุกคนผ่านหน้ากากแบบทะลุปรุโปร่ง แล้วภายใต้หน้ากากนั้นทุกคนต่างก็มีชีวิตที่เหนื่อยยากมาก 

อันสุดท้าย Being like everybody is the same as being nobody คือการทำตัวเหมือนคนอื่น ๆ ก็เหมือนกับไม่ได้เป็นใครเลย

สังเกตว่าแต่ละอันมีความหมายคล้าย ๆ กัน

ใช่ ดูเป็นเด็กที่ถูกกดดัน (หัวเราะ) 

เราพูดเรื่องเดิม ๆ เพราะมันเข้ามาตลอดเวลา ชีวิตเราวุ่นวายมาก มีความต้องการ มีคนอยากให้ป่านเปลี่ยนแปลงตัวเอง มีคนที่ถามคำถามปลอม ๆ มีคนอยากให้เป็นนู่นเป็นนี่ แล้วคนพวกนี้ผ่านมาตลอดชีวิิตของสายป่าน ทุกครั้งที่เราเจอก็จะไปสัก นี่กูต้องผ่านเรื่องนี้อีกแล้วเหรอวะ (หัวเราะ)

คุยกับ สายป่าน อภิญญา จากนักแสดงมากฝีมือสู่ครูสอนดำน้ำ ในวันที่ได้ยินเสียงความต้องการของตัวเองดังที่สุด

Writer

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

ชลลดา โภคะอุดมทรัพย์

นักอยากเขียน บ้านอยู่ชานเมือง ไม่ชอบชื่อเล่นที่แม่ตั้งให้ มีคติประจำใจว่าอย่าเชื่ออะไรจนกว่าหมอบีจะทัก รักการดูหนังและเล่นกับแมว

Photographer

Avatar

ผลาณุสนธิ์ ผดุงทศ

ช่างภาพที่โตมาจากเมืองทอง รักแมว ชอบฤดูฝน และฝันอยากไปดูบอลที่แมนเชสเตอร์