ท่ามกลางการจราจรติดขัดบนถนนรัชดาภิเษก หากขับรถลัดเลี้ยวเข้ามาในซอยรัชดาภิเษก 32 คุณจะพบความสงบอย่างไม่น่าเชื่อสายตา หน้าประตูบานใหญ่ เราเงยหน้ามองป้ายด้านบน ‘Angelo Family Suites’

ใช่แน่ เรามาไม่ผิด ความคิดยังแย้งในใจว่าสถานที่แห่งนี้เป็นที่พักจริงหรือ เพราะประตูดูเหมือนปิดตลอดเวลา
พลันหัวคิด แต่เท้าก้าวผ่านรอยแง้มของประตูเข้าไปในโรงแรมเสียแล้ว ความรู้สึกเหมือนข้ามไปเยือนโลกอีกใบ นกร้องเจื้อยแจ้วส่งเสียงทักทาย ลมพัดลู่เอาใบไม้สีเหลืองอ่อนพลัดลงจากต้น ปราศจากความวุ่นวายของเมืองใหญ่

น้ำตาล-ฐาติณุฏ วงศ์วริศรา เจ้าของบ้านโบกมือต้อนรับพร้อมส่งรอยยิ้มมาให้ หญิงตรงหน้าเป็นเจ้าบ้านที่แปลงโฉมโรงงานกระเบื้องให้เป็นโรงแรมอิสระ (Independent Hotel) ด้วยแนวคิดและวิธีการบริหารงานไม่เหมือนใครที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความอินดี้ของเธอ แยบยลไปกว่านั้น คุณจะเห็นตัวตนของน้ำตาลผ่านภาพหญิงสาวที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุ 23 บู๊และบุ๋นจนทำให้ Angelo Family Suites กลายเป็นฝันที่เป็นจริง

ฝันอยากมีโรงแรมในฝัน
จากการทำงานเสริมหลังเลิกเรียนที่โรงแรมมีชื่อแห่งหนึ่งของหัวหิน ทำให้เด็กสาวที่ตั้งใจเรียนด้านการบินพลิกผันเข้าสู่วงการโรงแรม โอกาสและโชคชะตาทำให้เธอเห็นมุมมองใหม่ในการประกอบอาชีพ น้ำตาลรู้ตัวเองเร็ว เธอเรียนจบปริญญาโทด้วยวัยเพียง 23 และเป็นผู้เชี่ยวชาญงานบริหารระดับสูงของโรงแรมระดับ 5 ดาวหลายแห่ง
ด้วยประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้เธอกล้าฝัน น้ำตาลอยากมีโรงแรมเป็นของตัวเอง จนกระทั่งเธอพบรักแท้กับชายอายุห่างกันลิบ หญิงสาวเปลี่ยนบทบาทจากบริหารงานมาเป็นบริหารชีวิต (คู่) จากสาวเก่งที่คอยรับคำสั่งและทำตามมอบหมาย กลายเป็นสาวแกร่งที่พร้อมคิด-พร้อมทำธุรกิจโรงแรม จากประสบการณ์ที่เธอสั่งสมมาค่อนชีวิต
“บนโลกใบนี้ ไม่สำคัญว่าใครคิดก่อน แต่สำคัญว่าใครทำก่อน
“ถ้าทำทีหลัง เท่ากับเราคิดทีหลัง แม้เราจะคิดมาก่อนคนอื่นห้าปี ถ้าไม่กล้าทำก็จบ” น้ำเสียงเธอเด็ดเดี่ยว
น้ำตาลยึดหลัก Independent Hotel เป็นแนวคิดของการทำโรงแรม
Independent แปลว่า อิสระ แต่กับเธอคงต้องนิยามคำนี้ว่า ‘การไม่ขึ้นอยู่กับใคร’ แต่ตั้งอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง อินดี้บนหลักความเป็นจริงและสัจธรรม โปรเจกต์ทดลองของเธอเป็นบ้านพักตากอากาศ ชื่อ บ้านสีขาวริมทะเล หัวหิน
เมื่อมองเห็นลู่ทางและมีแนวคิดชัดเจน เธอเริ่มมองหาสถานที่เพื่อทำโรงแรมตามความฝัน

เปลี่ยนโรงงานกระเบื้องเป็นโรงแรม
ที่ผืนสวยอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล พงษ์-อริยพงษ์ วงศ์วริศรา นักออกแบบตกแต่งภายใน เจ้าของโรงงานกระเบื้องแฮนด์เมดที่ทำมือทุกแผ่นด้วยเทคนิคเฉพาะ คู่ชีวิตของน้ำตาลแบ่งสันปันส่วนพื้นที่ส่วนหนึ่งของโรงงานกระเบื้องให้กับเธอ เพราะช่วงนั้นเศรษฐกิจฝืดเคือง ทำให้พื้นที่การผลิตบางส่วนไม่ได้ใช้งาน เข้าทาง เธอเลยลงมือทำโรงแรมในโรงงานกระเบื้อง ที่ยังคงกลิ่นอายดั้งเดิมของสถานที่เอาไว้ (กระซิบ โรงงานกระเบื้องบางส่วนยังอยู่นะ ใกล้กันเพียงบานประตูกั้น)

เธอและสามีใช้เวลาปรับปรุงทั้งหมด 13 เดือน พงษ์รับหน้าที่ออกแบบและตกแต่งภายในตามความถนัด ส่วนน้ำตาลอาสาประดิดประดอยของตกแต่งเองทั้งหมด อย่างการทำผ้าม่านลินินสีธรรมชาติเอง การสั่งพิมพ์ลายปลอกหมอนและตัดเย็บเอง ฯลฯ ด้วยความภูมิใจและดีใจ เธอแอบโพสต์ภาพความตั้งใจทั้งหมดลงบนโลกออนไลน์เป็นระยะ ปรากฏว่ามีแขก 17 คน จากฮ่องกง-สิงคโปร์เห็นโพสต์ของเธอและตัดสินใจจองเข้าพักทันที เธอรับคำขอและจัดข้าวของให้เข้าที่ก่อนแขกเข้าพักเพียง 3 วัน แม้ตอนนั้นที่พักยังไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ด้วยทักษะการบริหารที่ดี เธอทำได้!

หลังจากแขกชุดแรกกลับถึงประเทศ เธอได้รับรีวิวทั้งด้านดีและด้านที่ควรปรับปรุง ซึ่งเป็นแรงผลักดันให้ใจเธอสู้และตอกย้ำว่าน้ำตาลเลือกทางเดินไม่ผิด เธอชัดเจนว่าสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้จะสร้างความสุขให้เธอได้ในอนาคต
โรงแรมกึ่งพิพิธภัณฑ์ศิลปะ
เราขอบรรยายความงามให้คุณเห็นภาพพร้อมกัน หลังจากก้าวเท้าผ่านประตูบานใหญ่ ความรู้สึกเหมือนข้ามไปเยือนโลกอีกใบ นกร้องเจื้อยแจ้วส่งเสียงทักทาย ลมพัดลู่เอาใบไม้สีเหลืองอ่อนพลัดลงจากต้น อาคารไม้เรียงร้อยต่อกัน


สถานที่ประดับด้วยของสะสมของเจ้าบ้าน ทั้งเฟอร์นิเจอร์ไม้ ภาพวาด แต่ที่เห็นแล้วคุณต้องร้องว้าวด้วยความทึ่ง คงเป็นกระเบื้องโมเสกชิ้นจิ๋วที่บรรจงวางทีละชิ้น ทีละสี ให้เป็นภาพสารพัดนึกราวกับมีชีวิต สะท้อนตัวตนของโรงแรมในโรงงานกระเบื้องได้เป็นอย่างดี จะว่าไปก็เหมือนเรากำลังพาคุณเดินชมงานศิลปะชิ้นเอกในพิพิธภัณฑ์ชั้นดี

“บางคนบอกว่าที่นี่ตกแต่งแบบจีน บางมุมก็เหมือนแขก บางมุมก็ตุรกี โมร็อกโกบ้าง แต่ความจริงเราตกแต่งแบบ Spanish Colonial แนวคิดหลักของเรา คือที่พักเน้นที่ประสบการณ์ศิลป์ เป็นการอยู่ร่วมกันของคนกับศิลปะ” น้ำตาลเล่า

นอกจากความสวยงามที่เด้งโดด เธอยังเน้นความเป็นส่วนตัวของแขกที่เข้าพักเป็นสำคัญ ยกตัวอย่างไอเดียน่ารัก Angelo Family Suites มีตะกร้าส่วนตัวประจำห้อง บรรจุน้ำดื่ม ทิชชู ถุงขยะ กาแฟ ขนม และผลไม้ บริการฟรีทุกวัน เพียงแขกนำตะกร้าเปล่ามาวางไว้ที่สถานีคืนตะกร้าข้างห้องอาหารเพื่อเติมเสบียง แล้วมารับกลับห้องตอนเช้า
แถมมีมุมทำความสะอาดให้ด้วยนะ อุปกรณ์ครบครัน แต่ถ้าเข้าพัก 5 คืนขึ้นไปก็มีบริการทำความสะอาดฟรี! ฟังเหมือนต้องบริการตัวเอง แต่เปล่าเลย เพราะเธออยากให้ทุกคนมีความเป็นส่วนตัว ไม่มีแม่บ้านคอยรบกวนต่างหาก
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
น้ำตาลคงสังเกตความตื่นเต้นดีใจของเรามานาน เธอเลยชวนเราเดินสำรวจห้องพักจำนวน 6 ห้อง
ชั้นล่างสุดมีห้อง Sino Family Suite เป็นห้องพักขนาดใหญ่สำหรับครอบครัว แวบแรกเหมือนอพาร์ตเมนต์ต่างประเทศ มีห้องครัว ห้องน้ำกว้างขว้าง ยิ่งห้องนอนยิ่งอบอุ่น รับสมาชิกในบ้านได้ถึง 6 คน ตกแต่งด้วยสีฟ้าและสีน้ำเงินสบายตา ที่เราชอบเป็นพิเศษ ยกให้ผ้าคลุมเตียงสีครามปั๊มเทียน น้ำตาลบอกว่าสั่งทำลายขึ้นมาใหม่เพื่อห้องนี้โดยเฉพาะ



ดื่มด่ำกับห้องแรกจนหนำใจ เธอพาเราเดินขึ้นบันไดวนที่ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสกชิ้นสี่เหลี่ยมทั่วทั้งบันได สวยงามเกินบรรยาย อยากให้คุณมาสัมผัสด้วยตาตัวเอง เราขึ้นมาถึงชั้นสองด้วยแววตาเป็นประกาย น้ำตาลเดินทะลุผ่านห้องที่เธอเรียกว่าพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อม จัดแสดงอิฐช่องลมและกระเบื้องเกือบร้อยแบบ คล้ายเป็นโชว์รูมสินค้าไปในตัว



เพียงสองสามก้าว เราก็ถึง Green Gallery Suite สีห้องเขียวตรงตัว เป็นห้องที่เราอยากแนะนำคุณมากที่สุด ห้องนอนกั้นแยกกับห้องน้ำด้วยกระจกบานใหญ่ ยิ่งเวลาแสงแดดพาดผ่านแผ่นไม้สีเขียวด้านนอก อบอุ่นอย่าบอกใคร ยิ่งเป็นคู่รักด้วยแล้ว ไม่ควรพลาด! เราทำใจอยู่นานกว่าจะเดินออกไปชมห้องสุดท้าย ระหว่างเดินก็เห็นกระเบื้องชิ้นเล็กวางเป็นลายหมูอู๊ด เก้าอี้ม้าโยกสำหรับเด็ก และราชาไก่สุดน่ารัก ขอยกนิ้วให้กับความใส่ใจในดีเทล


Ping Suite เป็นห้องสุดท้ายที่เราแวะทักทาย น้ำตาลบอกว่าเธอภูมิใจกับห้องนี้มาก เพราะเธอตกแต่งเอง แค่เห็นก็อยากปันใจให้ทั้งหมด ก็ห้องดันสวยเหมือนหลุดออกมาจาก Pinterest เจ้าบ้านเล่าเกร็ดว่า ก่อนจะชื่อห้อง Ping เคยชื่อห้อง Pink มาก่อน แต่เปลี่ยนเพราะว่าใครมาเห็นห้องนี้ครั้งแรกต่างก็ปิ๊งเสียทุกราย ไม่เว้นแม้แต่เราด้วย


โรงแรมที่ทำด้วยหัวใจ
ถ้านักอ่านจดจ้องห้องไหนไว้แล้วอดใจไม่ไหว อยากเข้าพักเสียเดี๋ยวนี้ เราขอชวนทำความเข้าใจการเข้าพัก Angelo Family Suites กันสักนิด เพราะความเป็นโรงแรมอิสระ เจ้าบ้านเลยขอทำความรู้จักแขกที่เข้าพักให้ละเอียด
เพื่อหานักนอนเที่ยวที่เข้าใจความเป็นเธอและโรงแรมของเธออย่างแท้จริง น้ำตาลบอกว่า เธอได้ไอเดียนี้จากที่พักแห่งหนึ่งในสิงคโปร์ แขกที่เข้าพักต้องส่งอีเมลแนะนำตัวกับเจ้าบ้านก่อน ถ้าถูกใจตรงชะตา ก็ติดต่อให้เข้าพักทันที

กว่าจะมาถึงจุดที่ความฝันกลายเป็นความจริง คงไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งทำสิ่งปกติธรรมดาแล้วรอคนมายอมรับ คงยากกว่าหลายเท่า แต่น้ำตาลเลือกทำสิ่งที่แตกต่าง เพราะเธอไม่ได้รอการยอมรับจากใครและชัดเจนในเส้นทางที่เดิน
“โรงแรมของเราไม่ต้องการเงินเยอะ เราขอแค่ความสุข ถึงแม้ไม่ได้มาในรูปแบบเงิน แต่ก็ทำให้หัวใจเราพองโต”

ตลอดการสนทนา เราได้เห็นมุมมองการทำโรงแรมอิสระที่ไม่ได้ใช้เงินเป็นตัวตั้ง แต่ใช้ใจขับเคลื่อนต่างหาก
สิ่งนี้คงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการทำ Angelo Family Suites สำหรับเธอ
Angelo Family Suites
ที่อยู่ : รัชดา 32 อาภาภิรมย์ 422 ซอยจามจุรี แขวงจันทรเกษม กรุงเทพมมหานคร
Facebook : Angelo Family Suites