‘Live Alternatively’ คือสโลแกนที่ครอบคลุม alt. Eatery ได้อย่างแท้จริง
ร้านโปร่งทรงสี่เหลี่ยมซ่อนสีสันสดใสไว้ภายใน โชว์ความเรียบง่ายด้วยกระจกใสตัดขอบสีดำ แวดล้อมด้วยต้นไม้ใบเขียว ตั้งอยู่ปากซอยสุขุมวิท 51 เดินจาก BTS ทองหล่อ เพียงแค่ 5 นาที นี่คือร้านอาหารที่เสิร์ฟเมนู Plant-based เท่านั้น แม้จะมีอาหารประเภทเดียว แต่กลับมอบประสบการณ์ให้คนที่มาได้หลายแบบ เพราะนอกจากจะเป็นร้านอาหาร ยังเป็นร้านขนม คาเฟ่ ซูเปอร์มาร์เก็ตเล็ก ๆ และพื้นที่ทำกิจกรรมหลากหลาย
พื้นที่ที่ให้คุณค่ากับชีวิตคน ตั้งอยู่ใจกลางเมืองแบบนี้ เป็นโปรเจกต์ที่ ดร.บุรณิน รัตนสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่นวัตกรรมและธุรกิจใหม่บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท อินโนบิก (เอเซีย) จำกัด ตั้งใจสร้างความยั่งยืนด้านสุขภาพและความยั่งยืนให้กับโลก ด้วยนวัตกรรมอาหารแบบ Future Food เป็นอาหารที่ช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์จากการละเว้นการทำปศุสัตว์ ที่เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของสภาวะเรือนกระจก และยังรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมจวบจนกระบวนการสุดท้าย ด้วยการแยกและจัดการขยะอย่างถูกวิธี
ร่วมกับ คุณแดน ปฐมวาณิชย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ NRF และประธานกรรมการบริษัท โนฟ ฟู้ดส์ จำกัด จับมือกันร่วมทุนก่อตั้งบริษัท NRPT (Nutra Regenerative Protein Limited) เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์โปรตีนทางเลือกในไทย ซึ่งโปรเจกต์ดี ๆ แบบนี้เกิดขึ้นบนพื้นที่แสนสิริของ คุณเศรษฐา ทวีสิน ประธานอำนวยการและกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
alt. Eatery พร้อมเปิดประตูต้อนรับทุกคนให้มาสัมผัสกับอาหาร Plant-based เพื่อเพิ่มทางเลือกในการเลือกรับประทานอาหารสำหรับคนชอบกิน การมีสุขภาพและการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน ด้วยรูปแบบอาหารและผลิตภัณฑ์ที่ทานง่ายในแบบที่คุ้นเคย

โมเดลต้นแบบในแบบของ alt. Eatery
“สิ่งที่เราทำประเทศต้องได้ประโยชน์ สิ่งที่เราทำคนไทยต้องได้ประโยชน์ สิ่งที่เราทำโลกและสิ่งแวดล้อมต้องได้ประโยชน์” ดร.บุรณิน บอกเจตนารมณ์อย่างหนักแน่น พร้อมเล่าต่อไปว่า
ในช่วงปลาย พ.ศ. 2563 ที่เกิดโควิด-19 ตามมาด้วยปัญหาสุขภาพต่าง ๆ ของผู้คน ปตท. จึงมองว่าธุรกิจ Life Science หรือชีววิทยาศาสตร์ เป็นธุรกิจที่ประเทศไทยน่าจะประสบความสำเร็จ จึงก่อตั้งบริษัท อินโนบิก (เอเซีย) ขึ้นมา เพื่อมุ่งพัฒนาให้ไทยเป็นศูนย์กลางทางด้านวิทยาศาสตร์ และให้คนไทยมีความมั่นคงทางด้านสุขภาพ
หนึ่งในสิ่งที่จะสร้างสุขภาพที่ยั่งยืน ก็คือการเลือกทานอาหารที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อคนและโลก ผลิตภัณฑ์ที่ใช้โปรตีนจากพืช หรือที่เราเรียกกันว่า Plant-based ซึ่งมีกรรมวิธีการผลิตที่ช่วยลดโลกร้อนจากการทำปศุสัตว์ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ จึงกลายเป็นตัวเลือกแรกที่ NRPT ริเริ่มโครงการ alt. Eatery (อัลท์ อีทเทอรี่) แห่งนี้
ทุกรายละเอียดในโครงการคำนึงถึงความยั่งยืน เริ่มที่การก่อสร้างตัวอาคารที่เรานั่งอยู่นี้เป็นอาคารน็อกดาวน์ ตอบโจทย์การก่อสร้างแบบ Zero Construction Waste เลือกใช้แผงโซลาร์เซลล์เพื่อทดแทนพลังงานไฟฟ้า และใช้แผ่นเมทัลชีทแบบ Sustainably Friendly ด้านหลังของร้านมีที่ชาร์จพลังงานรถไฟฟ้า EV ไว้บริการด้วย
และความยั่งยืนที่สำคัญที่สุด คือ อาหารทุกจานผลิตโดยโปรตีนจากพืชด้วยการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนารสชาติและเนื้อสัมผัสให้อร่อยถูกปาก ถูกหลักโภชนาการ มีโปรตีนสูงและไขมันต่ำ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นอาหารที่ทุกคนทานได้ทุกวัน

ทางเลือกที่ทุกคนเลือกได้
หากจะให้นิยามความเป็น alt. Eatery แค่คำว่าร้านอาหาร คงไม่สามารถตอบโจทย์ได้เพียงพอ เพราะที่นี่เป็นทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต ศูนย์การเรียนรู้ขนาดย่อม เป็นที่พัฒนาสูตรอาหาร เป็นที่ทดลองของเหล่านักชิม เป็นคอมมูนิตี้ที่รวมคนสนใจเรื่องเดียวกันได้มาเจอ มาพูดคุยกัน
“เราอยากทำให้ alt.Eatery เป็นอาหารของทุกคนตามแฮชแท็ก #altforALL เราอยากทำให้ Plant-based เป็นที่รู้จักในวงกว้าง อยากให้สินค้าของเราดีทั้งต่อเราและโลก โดยที่ไม่ต้อง Compromise on eat or anything” คำบอกเล่าของ คุณพลอย-พรรณนภิศ ฤทธิไพโรจน์ ผู้จัดการฝ่ายธุรกิจและการตลาดของ NRPT แสดงให้เห็นว่า

‘Hub แห่งนี้รองรับทุกไลฟ์สไตล์และทุกช่วงวัยของคนที่มา เพราะที่นี่ตั้งใจให้เป็นพื้นที่สำหรับทุกคน’
ไม่ว่าจะคนที่ชอบทาน Plant-based อยู่แล้ว สายวีแกน คนที่อยากลิ้มลอง คนที่ไม่เคยทาน หรือแม้กระทั่งคนที่ไม่รู้จักอาหาร Plant-based ก็เดินเข้ามาสำรวจและรับประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน เพราะทุกจานเน้นทานง่าย เป็นเมนูที่ทุกคนน่าจะรู้จักคุ้นเคยกันดี เช่น ไก่ทอด นักเก็ต ข้าวผัด ผัดไทย ฯลฯ
อาหารจากโปรตีนจากพืชมีคุณประโยชน์มากมาย หนึ่งคือดีต่อสุขภาพ โปรตีนและไขมันจากพืช เป็นโปรตีนดีที่ร่างกายต้องการ และยัง 0 เปอร์เซ็นต์คอเลสเตอรอลด้วย สองคือดีต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการเลือกใช้โปรตีนจากพืชช่วยลดคาร์บอนฟุตพรินต์ ลดการปล่อยแก๊สมีเทน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของก๊าซเรือนกระจกจากการทำปศุสัตว์
“เราอยากให้คนที่มาสัมผัสถึงประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการใช้ชีวิตของโลกแห่งอนาคต เพราะเราสามารถมาที่ร้านนี้และกินอาหารที่อร่อยเหมือนที่เคยกินทุกวัน โดยไม่ต้องปล่อยก๊าซเรือนกระจก ทำลายธรรมชาติ และขับรถไปไหนมาไหนในเมืองได้ปกติ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการใช้พลังงานจาก Fossil Fluorescence เราอยากเป็นเหมือนโมเดลที่ทำให้พื้นที่นี้น่าอยู่ขึ้น เป็น Future Living ได้” คุณพลอยเสริมมุมมองสิ่งที่ปรารถนาให้เกิดจาก alt.Eatery อีกครั้ง
และที่สำคัญ ส่วนผสมของ Plant-based คือพืชตระกูลถั่ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยปลูกได้เยอะและปลูกได้ดี เช่น ถั่วลิสง ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถ้าผลิตภัณฑ์จากโปรตีนจากพืชเติบโตในวงกว้าง ก็จะเพิ่มมูลค่าให้กับเกษตรกรรมไทย และเป็นการเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรอีกด้วย
alt. Cafe & Restaurant
เมื่อเปิดประตูเข้ามา จะเจอกับพื้นที่โซนแรกทางด้านขวา ตู้กระจกใสโชว์ขนมสีหวานสดอยู่ด้านใน พร้อมด้วยเคาน์เตอร์กลิ่นกาแฟหอมกรุ่น เดินเข้าไปอีกนิด ก้าวเท้าอีกหน่อย เพื่อเลือกมุมถูกใจของตัวเอง ทั้งโซนห้องแอร์เย็นฉ่ำหรือที่นั่งด้านนอก รับลมชิลล์ ๆ ได้บรรยากาศโปร่ง โล่ง สบาย
ร้าน alt. Eatery แบ่งออกเป็น 3 โซนด้วยกัน โซนแรกที่เรานั่งอยู่นี้เป็น Cafe & Restaurant เสิร์ฟผลิตภัณฑ์ Plant-based ตั้งแต่ของทานเล่น อาหารจานหลัก ขนมหวาน และเครื่องดื่ม เมนูของเราปรุงขึ้นมาโดย เชฟใบเตย-ชื่นชม ชูเชื้อ Top Chef ทางด้านของหวาน

เครื่องดื่มและขนมที่นี่มีหลากหลาย แต่ก็เป็นเมนูที่คุ้นเคย เช่น คุกกี้ ไอศกรีมวาฟเฟิล หรือโดนัทจากแป้งเกรดพรีเมียมที่ใช้เวลาพักนานกว่า 12 ชั่วโมง ทำให้เนื้อขนมเบา เหนียว นุ่ม ฟู ปราศจากนมและไข่ บอกเลยว่าคำเดียวไม่พอ ยิ่งได้ชิมคู่กับเครื่องดื่มเย็นซ่าสักแก้วอย่าง Summer Energy น้ำพั้นซ์ที่มอบความสดชื่นสูตรเฉพาะของอัลท์ หรือคอชากาแฟ ก็มีลาเต้ อเมริกาโน่ มัทฉะ และอีกมากมายให้เลือก
สำหรับใครต้องการมื้อหนักขึ้นอีกนิด อาหาร Plant-based แบบทานง่ายคล้ายกับเมนูในชีวิตประจำวันของใครหลายคน ก็พร้อมเสิร์ฟแล้วที่ alt. Eatery แห่งนี้
ประเดิมที่เมนูแรกด้วย Main หรือ อาหารจานหลักอย่าง alt. Beef UFO เบอร์เกอร์รูปทรงครีเอตในแบบจานบินตามชื่อยูเอฟโอ ที่นี่เลือกใช้ขนมปังบริออชเนื้อนุ่มรสฟักทอง ไร้ส่วนผสมของเนย นม ไข่ มี 2 ไส้ให้เลือก คือ แพตตี้เนื้อหอมคาราเมล หรือจะเป็นกิวคัตสึ ก็เลือกได้ตามความชอบ




ถัดมาอีกจานกับอาหารจานหลัก เมนูทานง่ายที่สาวกอาหารไทยคุ้นเคยกันดี นั่นก็คือ Tender Green Curry Rice หรือข้าวผัดแกงเขียวหวาน คงรสชาติเครื่องแกงไว้ได้กลมกล่อมกำลังพอดี โปะหน้าด้วยพระเอกของจานนี้อย่างไก่กรอบ alt. Tender ซึ่งเป็น Plant-based Tender ที่รสชาติเหมือนไก่จริงจนแยกไม่ออก ถ้าใครทานแล้วติดใจสามารถซื้อแบบทอดเลยที่ซุ้ม alt. Go ไปทานต่อบนรถได้ หรือซื้อแบบแช่แข็งไปทอดชิลล์ ๆ ที่บ้าน ก็มีขายในโซน Retail
และสำหรับใครที่เป็นสายเส้น พลาดไม่ได้เลยกับ Tender Korean Noodle มาม่าเกาหลียอดฮิต ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะกินยังไงก็อร่อย แต่จะยิ่งอร่อยล้ำมากขึ้นด้วยท็อปปิ้งไก่กรอบ alt.Tender (สูตรเดียวกับเมนูข้าวแกงเขียวหวานด้านบน) กรอบนอกนุ่มใน กินได้โดยไม่รู้สึกผิดต่อร่างกายและสิ่งแวดล้อม
เรียกได้ว่า 3 จานนี้สะท้อนตัวตนของ alt. Eatery ได้เป็นอย่างดี เพราะหนึ่งเป็นอาหารทานง่าย ตอบโจทย์เรื่องการใช้ชีวิตง่าย ๆ เข้าถึง Plant-based ได้ทุกคน และสองคือทุกจานพิถีพิถัน เพราะมีทีม Food Scientist ร่วมกันพัฒนานวัตกรรม วัตถุดิบในการปรุงอาหาร ร่วมกับเชฟมากฝีมือ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงง่าย จับต้องได้ และเพื่อให้ได้จานที่ดีที่สุด
alt. Retail
มาถึงภายในส่วนมินิซูเปอร์มาร์เก็ต ตอบโจทย์วิถีชีวิตคนเมืองที่เน้นความสะดวกสบาย เร่งรีบได้แม้ในชั่วโมงเร่งด่วน ด้วยขนมและอาหารว่าง Plant-based หลากหลายชนิด ทั้งแบบขบเคี้ยวกรุบกรอบและแบบอาหารแช่แข็ง ซึ่งอาหารแช่แข็งนี้สามารถสั่งทอดได้ด้วยที่มุม alt. Go
ซุ้มร้านค้าและสินค้าทุกชิ้นในโซนนี้มาจาก SME และสตาร์ทอัพรายย่อยในไทยทั้งสิ้น และบางส่วนที่นำเข้าจากต่างประเทศ ที่นี่เปิดโอกาสให้กลุ่มคนที่ทำธุรกิจขนาดย่อมมีพื้นที่เปิดตัวสินค้าและสร้างรายได้ ไม่มีกฎเกณฑ์กำหนดใด ๆ ในการเลือกแบรนด์ ขอเพียงเป็นอาหาร Plant-based และเจ้าของแบรนด์มีวิสัยทัศน์ไปในทิศทางเดียวกัน คืออยากเห็นคนและโลกพัฒนาไปในทางที่ยั่งยืนก็เพียงพอแล้ว


alt. Lifestyle
ในโซนไลฟ์สไตล์ท้ายสุดนี้ เปรียบเสมือนศูนย์การเรียนรู้ เป็นพื้นที่ทดลองและเปิดกว้างทางความสร้างสรรค์ โดยทุกเดือนจะมีกิจกรรมสนุก ๆ เช่น Cooking Class, Movie Night, Meet & Greet Influencer แวะเวียนมาสร้างสีสัน หรือกิจกรรมอุดมสาระ เช่น เสวนากับผู้เชี่ยวชาญทางอาหาร หรือผู้ที่อยู่ในวงการ Future Food เพื่อชวนเปิดมุมมองใหม่ ๆ และตระหนักถึงความสำคัญไปพร้อมกัน และยังมีส่วนที่เป็น Semi Outdoor ตรงนี้จะมีเล่นดนตรีโฟล์กซองยามเย็นวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ชวนมาชิลล์สุดสัปดาห์
“เราอยากทำให้ตรงนี้เป็นไลฟ์สไตล์จริง ๆ ว่าที่จริงแล้วคุณก็ใช้ชีวิตปกตินี่แหละ ไม่จำเป็นต้องรักโลก รักสัตว์ เลยต้องกิน Plant-based แค่เป็นหนึ่งทางเลือกในการใช้ชีวิตปกติ ทุกคนกินได้” คุณพลอยเสริม

ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะในแพลนที่กำลังจะเกิดขึ้น จะมีอีเวนต์ Wine Tasting จากผู้ประกอบการ SME ที่ทำ Vegan Wine เพื่อเปิดมุมมองให้กับหลาย ๆ คนว่าไวน์ก็มีในรูปแบบวีแกนด้วย
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นและส่วนหนึ่งของกิจกรรมทั้งหมดเท่านั้น เราเชื่อว่าในอนาคตยังจะมีอีเวนต์สนุก ๆ รออยู่อีกมากแบบไร้ข้อจำกัด เพื่อครอบคลุมกลุ่มคนที่หลากหลายตามแฮชแท็ก #altforALL กับปณิธานของ ดร.บุรณิน ที่ทิ้งท้ายอีกครั้งว่า
“alt ภาษาอังกฤษคือ Alternative ที่แปลว่าทางเลือก แต่ถ้าแปลเป็นไทย alt คือสิ่งที่เราเลือก ฉะนั้นเราเลือกได้ว่าอยากให้โลกยั่งยืนแบบไหน เราเลือกจะให้สุขภาพดี เราเลือกแล้วว่าจะทำเรื่องนี้ให้สังคม ให้ทุกคนมาพบกับทางเลือกที่ดีสำหรับอนาคตได้ที่ alt. Eatery”
alt. Eatery
ที่ตั้ง : 941 ซ. สุขุมวิท 51 แขวง
คลองตันเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร (BTS ทองหล่อง ทางออก 2) (แผนที่)
วัน-เวลาทำการ : เปิดทุกวัน เวลา 09.00 – 21.00 น.
โทรศัพท์ : 06 4858 6785
Facebook : alt.Eatery
Instagram : alt.eatery