เมื่อชีพจรการท่องเที่ยวทั่วโลกกลับมาขยับ ข่าวคราวการจัดอันดับด้านการท่องเที่ยวก็มีให้ผ่านตาไม่เว้นวัน ล่าสุดผมเพิ่งทราบว่าจังหวัดเชียงใหม่ติดอันดับ 3 เมืองน่าอยู่อาศัยเยี่ยมยอดสำหรับชาว ‘Digital Nomad’ หรือกลุ่มคนทำงานผ่านระบบออนไลน์ที่ติดต่อและส่งงานได้จากทุกแห่งหน โดย By Digital Nomads เว็บไซต์เจ้าของโพลยกเหตุผลว่า เมืองแห่งนี้มีที่กิน ที่เที่ยว ที่นั่งทำงานเยอะ และราคาคุ้มค่า 

ผมพกข้อมูลสุดอัปเดตนี้มาปูบทสนทนากับ จอห์น โฮ ซึ่งเขาฟังด้วยท่าทางสนอกสนใจ พลางสำทับว่า จริง ๆ ก็ไม่ใช่เรื่องเกินคาดเดานัก เพราะเทรนด์ดิจิทัลโนแมดและกลุ่มคนทำงานแบบ Remote Working ในเชียงใหม่เติบโตต่อเนื่องมาได้สักพักใหญ่ ๆ แล้ว นับนิ้วย้อนดูอย่างน้อยราว 6 ปี ตั้งแต่ที่เขาย้ายครอบครัวจากฮ่องกงมาอยู่ที่นี่ พลันเริ่มต้นเป็นสมาชิกบริษัทสตาร์ทอัป หมุนเวียนใช้บริการพื้นที่ทำงานชั่วคราวหลายแห่ง ก่อนตัดสินใจปลุกปั้น ‘Alt_ChiangMai’ ที่พักที่เน้นการอยู่อาศัยร่วมกัน (Co-living Space) และการแบ่งปันพื้นที่ทำงาน (Co-working Space) ขึ้นมา ส่วนหนึ่งเพราะกราฟแนวโน้มของเทรนด์การทำงานยุคใหม่ดังว่า อีกส่วนเกิดจากการสังเกตเห็นช่องว่างและโอกาสจากความเหงา

เหตุเปิดจากความเหงา

เราตกลงเจอกันบ่าย 2 โมงตรง ผมตั้งใจมาถึงล่วงหน้าเพื่อเดินดูบรรยากาศรอบ ๆ จากทางเข้าหลัก ผมแวะสั่งชาดำของมอนซูนทีที่บาร์กาแฟประจำที่พัก ก่อนผลักบานประตูสู่ส่วนต้อนรับลูกค้าและ Co-working Space ที่สงบเงียบสมชื่อ Quite Zone แต่ไม่เงียบเหงาเพราะเต็มไปด้วยเหล่าคนทำงานทางไกล

ในห้องประชุมแบบวอร์รูม จอห์นปรี่เข้ามาทักทายกันก่อนชาดำจะยกมาเสิร์ฟ

เขาสวมเสื้อเชิ้ตยีนสีอ่อน กางเกงสีเบจ แมตช์กับรองเท้าหนัง ไม่ถึงขึ้นเนี้ยบแต่ดูดี ส่วนแว่นตากรอบพลาสติกสีคล้ายขนมเปียกปูนช่วยเสริมลุคอย่างมีสไตล์ ความอัธยาศัยไมตรีและความกระตือรือร้นของจอห์น จะว่าไปก็สะท้อนความเป็น Alt_ChiangMai ออกมาชัดแจ๋ว เหมือนแนวคิดการออกแบบตกแต่งที่พักแห่งนี้ที่เขาเล่าว่าต้องการทำให้ออกมาเรียบง่าย ปลอดโปร่ง และไม่รบกวนสมาธิ เน้นฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ทำงานส่วนกลางที่มีโต๊ะยาว โต๊ะเดี่ยว ห้องประชุมแบบวอร์รูม ห้องประชุมออนไลน์ ตลอดจนเก้าอี้ที่คัดสรรมาแล้วว่าดีต่อคนทำงาน 

 “เอาเข้าจริง ที่พักของเราไม่ได้หรูหรา แต่เราเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร พวกเขาต้องการพื้นที่ทำงานที่เข้าท่า ซึ่งไม่ได้หมายความว่าแค่มีโต๊ะกับเก้าอี้ แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อม อุณหภูมิ คุณภาพอากาศ แสงธรรมชาติ สัญญาณอินเทอร์เน็ตที่เร็วและเสถียร ส่วนเก้าอี้ต้องนั่งสบาย นั่งนาน ๆ ได้ ไม่ปวดเมื่อย เพื่อส่งเสริมประสิทธิภาพในการทำงาน”

จอห์นดูใส่ใจกับทุกรายละเอียด แม้แต่ผังทางเดินที่เขาเล่าว่าเป็นเรื่องสำคัญลำดับต้น ๆ เพราะการออกแบบช่องทางและจุดเชื่อมที่ช่วยให้เข้าถึงพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ ได้ง่าย นอกจากเพิ่มความสะดวกแล้ว ยังเสริมสร้างการมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งเอื้อต่อการถักทอสายสัมพันธ์และสรรสร้างคอมมูนิตี้

“ตอนแรกที่ย้ายมาเชียงใหม่ เราใช้บริการ Co-working Space เป็นประจำ เลยรู้ว่าที่นี่มีคอมมูนิตี้ของชาวดิจิทัลโนแมดและรีโมตเวิร์กกิงอยู่เยอะ โดยพื้นฐานคนกลุ่มนี้คือนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ แต่รูปแบบการท่องเที่ยวอาจแตกต่างจากนักท่องเที่ยวทั่วไปตรงที่มักอยู่นานกว่าและมีงานต้องรับผิดชอบ

“ซึ่งบ่อยครั้งจากการพูดคุยกับพวกเขา เราพบว่าส่วนใหญ่มักมาเที่ยวคนเดียว (Solo Traveler) และค่อนข้างเหงา ด้วยไลฟ์สไตล์ท่องเที่ยว ทำงาน และออกเดินทางต่อ จึงค่อนข้างยากที่จะหาเพื่อน และสิ่งนี้จุดไอเดียให้เราทำที่พักแห่งนี้ขึ้น พร้อมความตั้งใจที่จะเป็นที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมจ๋า หมายถึงไม่ได้มุ่งเน้นความเป็นส่วนตัวมากนัก แต่เน้นการใช้ชีวิตแบบคอมมูนิตี้” 

ได้อยู่อาศัย ได้ทำงาน และได้เป็นส่วนหนึ่งของคอมมูนิตี้ในเวลาเดียวกัน นับเป็นแนวคิดหลักของ Alt_ChiangMai ที่จอห์นเสริมท้ายว่า ไม่เพียงเพื่อเยียวยาความเหงาของเหล่ายิปซียุค 5G ทว่าคอมมูนิตี้แห่งนี้ยังเป็นพื้นที่รวมผู้คนที่มีไอเดียคล้ายกัน ซึ่งช่วยเชื่อมต่อแรงบันดาลใจ มิตรภาพ ความร่วมมือ และส่งเสริมการพัฒนาตนเอง

แชร์ได้ ชิลล์ด้วย

‘ที่พักที่ไม่ใช่โรงแรมจ๋า’ เป็นอย่างไร เพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้น จอห์นอาสาพาเราทัวร์ที่พักของเขา

Alt_ChiangMai ประกอบด้วยตัวอาคาร 2 หลังที่ออกแบบตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น และจำแนกบริการสำหรับผู้เข้าพักออกเป็น 2 ส่วน หนึ่ง คือ ‘พื้นที่ส่วนตัว’ อย่างห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งตั้งอยู่บนชั้น 2 และชั้น 3 ของแต่ละอาคาร โดยความน่ารักคือบริเวณบานประตูทุกห้องจะมีพื้นที่สำหรับให้เจ้าของห้องขีดเขียนแนะนำตัวเอง กระนั้นสิ่งชวนสะดุดยิ่งกว่ากลับเป็นเรื่องข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องที่มีตั้งแต่ประตูสมาร์ตล็อก เตียงนอน ห้องน้ำ ชั้นวางรองเท้า ที่เก็บสัมภาระ กระทั่งเครื่องฟอกอากาศ แต่ดันขาดโทรทัศน์

“ที่ห้องพักของเราไม่มีโทรทัศน์ เพราะอยากให้ทุกคนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่เพื่อพร้อมสำหรับการสร้างสรรค์งานและผลลัพธ์ที่ดี เราอยากให้ชาว Alt_ChiangMai ได้ใช้ชีวิตแตกต่างออกไปเล็กน้อยและคิดว่าทุกคนน่าจะชอบ” 

จอห์นเฉลยข้อสงสัยแต้มรอยยิ้ม จากนั้นจึงพาตระเวนชมในส่วนให้บริการส่วนถัดไป นั่นคือ ‘พื้นที่ส่วนรวม’ ที่ผู้เข้าพักจะแบ่งปันกันใช้ ไม่ว่าจะดูหนัง ฟังเพลง สนุกสนานกับการเล่นวิดีโอเกมและเกมกระดานในห้องนั่งเล่น โชว์ฝีมือรังสรรค์เมนูเด็ดรับประทานร่วมกันในห้องครัวอุปกรณ์ครบมือ จัดปาร์ตี้สุดสัปดาห์บริเวณสวนหย่อม หรือออกกำลังกายและทำกิจรรมต่าง ๆ บนชั้นดาดฟ้าที่อากาศปลอดโปร่งเย็นสบาย 

เกือบ 2 เดือนกว่าที่จอห์นใช้เวลาเทียวหาทำเลเปิดที่พักจนมาพบกับที่นี่ นอกจากบรรยากาศเงียบสงบร่มรื่น ยังสะดวกในเรื่องการเดินทางซึ่งดีต่อผู้เข้าพัก อีกสิ่งที่ทำให้เขาตกหลุมรักคือมนต์เสน่ห์ของย่านเมืองเก่าที่มีวัดวาอารามสวยงามและชาวชุมชนโอบอ้อมอารี แน่นอน บนชั้นดาดฟ้าจากจุดนี้เราทอดมองแนวกำแพงเมืองเก่าฝั่งประตูสวนดอก เรื่อยไปจนชื่นชมทัศนียภาพยามเย็นของดอยสุเทพได้อย่างอิ่มเอมใจ 

อยู่ที่ประสบการณ์

“อย่างที่บอกว่าเราต้องการส่งเสริมคอมมูนิตี้ ดังนั้น ทุกสัปดาห์เราจึงมีกิจกรรมมากมายเพื่อเปิดโอกาสให้ทุกคนได้รู้จักกัน”

คลาสโยคะ คลาสฝึกการหายใจแบบเซน คลาสเต้นซัลซ่า กิจกรรมบำบัดด้วยการแช่น้ำแข็ง และ Founders Happy Hour ล้อมวงเสวนาแลกเปลี่ยนไอเดียการทำธุรกิจ เหล่านี้คือตัวอย่างกิจกรรมที่หมุนเวียนมาให้ชาว Alt_ChiangMai ได้ผ่อนคลายกายและใจ พบปะมิตรภาพใหม่ ๆ กระทั่งพบเจอพาร์ตเนอร์ทางธุรกิจมาแล้วนักต่อนัก 

ยังมีกิจกรรมนอกเหนือกว่าไปนี้ อาทิ จัดปาร์ตี้อาหารค่ำ จัดโปรแกรมฉายหนัง หรือจัดทริปท่องเที่ยว ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าเสนอแนะและจอห์นก็พร้อมสนับสนุน เพราะสิ่งที่ Alt_ChiangMai ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ ‘ประสบการณ์ของลูกค้า’ 

 “ประสบการณ์ของลูกค้าไม่ได้เกิดจากเตียงหนานุ่มหรือการตกแต่งเก๋ไก๋จนใคร ๆ ต้องถ่ายรูปอัปลงอินสตาแกรม สิ่งนี้เรียกว่าความทรงจำต่างหาก ไม่ใช่ประสบการณ์” จอห์นพูด “สำหรับเรา ประสบการณ์ของลูกค้าคือสิ่งที่เรียกว่าบริการที่จับต้องไม่ได้ มันคือความสัมพันธ์และความรู้สึกที่ดีที่เกิดขึ้นจากข้างใน ซึ่งเป็นสิ่งที่ Alt_ChiangMai ตั้งใจมอบให้และคิดว่าสำคัญมากที่ผู้ประกอบการต้องรู้ เพราะโรงแรมสุดหรูสร้างได้เสมอถ้าคุณมีเงินมากพอ จริงไหม แต่ประสบการณ์ของลูกค้าต้องใช้มากกว่านั้น”

ก่อนที่เราจะแยกย้ายกัน จอห์นบอกกับผมว่า Alt_ChiangMai กำลังจะมีสาขา 2 

ผมกล่าวแสดงความยินดีด้วยน้ำเสียงที่ออกจะเกินเบอร์อยู่บ้าง เพราะเราเพิ่งคุยกันจบไปหมาด ๆ ว่าเขาเพิ่งทำมันมาได้ยังไม่ถึง 2 ขวบปี จอห์นหัวเราะพลางอธิบายว่า ลูกค้าของเขาเป็นตัวตั้งตัวตี และหลายคนก็พร้อมร่วมลงทุน ซึ่งมันจะเกิดขึ้นแน่ ๆ ภายในปลายปีนี้

นี่แหละมั้งที่เรียกว่าการลงทุนจากประสบการณ์ ส่วนจะเป็นประสบการณ์แบบไหน แทบไม่ต้องเดา