“เคยมีคนบอกไหมว่า ตอนพูดกับตอนร้องเพลง อลิศเหมือนเป็นคนละคนเลย” เราถาม

“มีเยอะเลยค่ะ ตอนแข่งรอบแรก พี่กบ (สุวนันท์ คงยิ่ง) ก็บอกค่ะ” เธอตอบพลางหัวเราะคิกคัก และนั่นเองที่เป็นหลักฐานยืนยันว่าเธอคนนี้จะเปลี่ยนไปก็ต่อเมื่อจับไมค์ร้องเพลงเท่านั้น

ตรงหน้าเราคือ อลิศ-ธนัชศลักษณ์ ฮัดสัน เด็กหญิงวัย 12 ปีที่เพิ่งคว้ารางวัลรองชนะเลิศอันดับที่ 2 จากรายการ The Golden Song เวทีเพลงเพราะ ซีซั่น 2 เมื่อเดือนก่อน ความสำเร็จก้าวนี้ของเธอยิ่งใหญ่และมาไกลจนยากจะเชื่อว่า เด็กผู้หญิงคนนี้เพิ่งจะเริ่มเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังได้แค่ปีกว่าๆ เท่านั้นเอง

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

ย้อนกลับไปเมื่อสมัยยังเด็ก (กว่าตอนนี้) อลิศนิยามว่าตัวเองเป็นเด็กซนที่ชอบเล่นสนุก ส่วนเราขอนิยามเพิ่มเติมว่า เธอคือเด็กที่ชอบใช้พลังจากความสนุกเพื่อทำอะไรๆ มากมาย เริ่มตั้งแต่เรียนชกมวย แต่งหน้า วาดรูป หรือเต้น เพราะเมื่อเราถามถึงแรงบันดาลใจในการฝึกฝนและเรียนรู้สิ่งต่างๆ เหล่านี้ คำตอบของอลิศแทบจะเหมือนกันทุกข้อเลยคือ

“หนูชอบทำเพราะมันสนุกค่ะ”

แต่กับการร้องเพลง ที่ใครต่อใครเห็นว่าเธอทำได้อย่างดีเยี่ยมนั้น กลับกลายเป็นเพียงอย่างเดียวที่ไม่ได้เริ่มขึ้นจากความชอบหรือความสนุกส่วนตัวของอลิศ เพราะจุดเริ่มต้นนั้นมาจากคำแนะนำของคุณยาย กระทั่งโลกของการร้องเพลงได้พาเธอไปพบกับโอกาสอีกมากมายภายในเวลาไม่นาน

จากเด็กผู้หญิงซนๆ ที่ใช้แรงไปกับการเรียนรู้งานอดิเรกใหม่ๆ ในเวลาว่างช่วงปิดเทอม อลิศได้รู้จักคำว่า พรสวรรค์ ความพยายาม และความฝัน เป็นครั้งแรกผ่านการร้องเพลง และก็เป็นการร้องเพลงอีกนั่นแหละ ที่พาเธอออกมาสู่สายตาคนทั่วประเทศผ่านหน้าจอโทรทัศน์

ความสัมพันธ์ระหว่างอลิศกับเสียงเพลงนั้นถึงแม้จะดูเรียบง่ายและราบรื่น แต่เราเชื่อว่านี่คือดอกผลจากความสามารถของเธอ ที่มาพร้อมกับเส้นทางอีกยาวไกลให้อลิศได้เติบโตในอนาคต และนั่นทำให้เราตัดสินใจนั่งลงและย้อนกลับไปคุยถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา ก่อนที่เรา (และเหล่าแฟนเพลง) จะได้พบเธอเป็นครั้งแรก

“อลิศเริ่มร้องเพลงได้ยังไง” เราเริ่มต้นด้วยคำถามที่สามัญที่สุด

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Track 01

Doraemon no Uta

“ตอนอายุสิบขวบ หนูชอบดูการ์ตูน โดราเอมอน มากๆ ก็เลยชอบร้องเพลง โดราเอมอน ด้วย พอร้องไปเรื่อยๆ ยายเห็นว่าหนูเสียงดี ก็เลยเริ่มพาหนูไปร้องเพลงในคาราโอเกะค่ะ” ต่างจากนักร้องรุ่นเด็กทั่วไปที่มักจะค้นพบความสามารถตั้งแต่สมัยแบเบาะ เส้นทางสายดนตรีของอลิศเริ่มต้นขึ้นในช่วงประถมปลาย ตัวเธอในตอนนั้นก็ยังไม่รู้สึกชอบหรือผูกพันกับการร้องเพลงด้วยซ้ำ

“ตอนนั้นหนูก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองชอบร้องเพลงไหม หนูแค่ชอบดู โดราเอมอน เฉยๆ พอยายให้ไปร้องช่วงแรกก็เลยเบื่อๆ บางทีก็ร้องด้วยอารมณ์เบื่อหน่าย ยืนกอดอกร้องแล้วทำหน้าบูดอะไรแบบนี้” อลิศเล่าพร้อมแสดงท่าทีและน้ำเสียงประกอบ

จากความเบื่อหน่ายในห้องคาราโอเกะ อลิศอดทนร้องต่อไปเรื่อยๆ จนได้มาทำความรู้จักกับการร้องเพลงในโหมดที่จริงจังมากขึ้น ผ่านวงประสานเสียงของโรงเรียน

“ตอนปอห้า หนูตัดสินใจไปสมัครเพราะเห็นว่าน่าสนุกดี พอไปออดิชัน ครูเขาก็ให้ร้องเพลงชาติหนึ่งท่อน หนูก็งงนิดหนึ่งว่าเพลงชาติเนี่ยนะ แต่ก็ร้องออกไป” จนท้ายที่สุดอลิศก็ได้เข้าไปเป็นหนึ่งในวงประสานเสียง ตำแหน่งโซปราโน ด้วยเพลงชาติหนึ่งท่อนสั้นๆ ที่ร้องออกไปด้วยความงุนงง และโอกาสในครั้งนี้ก็ทำให้เธอได้ฝึกฝนเทคนิคการร้องเพลงพื้นฐานอย่างการหายใจ การเก็บลม และจังหวะ

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Track 02

ชีวามาลา

“หนูยังร้องเพลงแบบมั่วๆ ไปได้สักครึ่งปี จนไปร้องเพลงในงานหนึ่ง วันนั้นหนูร้องเพลง ชีวามาลา ของสุนทราภรณ์ แล้วก็มีคนมาชวนไปอยู่สมาคมรักษ์เพลงอมตะไทย” อลิศเล่าถึงการเติบโตในขั้นถัดมาของเธอกับการร้องเพลง

“ตอนนั้นเราคิดว่าตัวเองร้องเพลงเก่งหรือยัง” เราถามย้อนกลับไปถึงความรู้สึกในตอนนั้น

“หนูก็ยังงงๆ กับตัวเองอยู่เลย” อลิศตอบพร้อมหัวเราะเขิน

แม้ว่าเด็กหญิงอลิศในวัย 10 ขวบจะไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นนักร้องที่เก่งหรือมีพรสวรรค์ต่างจากคนอื่น แต่การร้องเพลงมั่วๆ ในแบบของเธอก็สะดุดหูมากพอที่จะทำให้เธอได้พบปะผู้คนใหม่ๆ และมีโอกาสเดินสายขึ้นแสดงตามเวทีการกุศลจำนวนมาก

“ช่วงแรกหนูก็อาศัยเทคนิคการร้องเพลงที่ได้จากวงประสานเสียงที่โรงเรียน แต่หลังจากนั้นไม่นานก็เริ่มไปเรียนร้องเพลงค่ะ” เช่นกันกับการชกมวยที่เธอเรียนและฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอในช่วงปิดเทอมตั้งแต่สมัย 5 ขวบ หรือการแต่งหน้าที่เอาจริงเอาจังจนตัดสินใจไปลงเรียนคอร์ส 96 ชั่วโมง และสอบจนได้ใบประกาศณียบัตร เมื่อขึ้นเวทีร้องเพลงบ่อยเข้า เธอก็ตัดสินใจเริ่มเรียนร้องเพลงอย่างจริงจังในแนวสากล แล้วจึงต่อยอดไปสู่แนวลูกกรุง และบรอดเวย์มิวสิคัลในเวลาต่อมา

“หลังจากที่เรียนร้องเพลงไปสักพักก็มีคนมาชวนไปสมัครรายการ The Golden Song ซีซั่น 2 ตอนแรกหนูก็ไม่แน่ใจว่าจะสมัครดีไหม เพราะความจริงหนูเคยสมัครไปแล้วตอนซีซั่นแรก แต่ตกรอบไปตั้งแต่ก่อนออกทีวีอีก” คำบอกเล่าของอลิศทำให้เราไม่แปลกใจกับคำตอบของเธอ เมื่อถูกถามถึงโมเมนต์ประทับใจจากการร้องเพลง

“ตอนที่ไปแข่งซีซั่นนี้ พอได้ผ่านเข้ารอบแรกมา ดีใจที่สุดเลยค่ะ” อลิศตอบพร้อมรอยยิ้มสดใส

ด้วยวัย 12 ปี อลิศยังถือว่าเด็กมากทีเดียว แต่จากการแสดงทั้งหมดในรายการ อลิศก็ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถที่สมน้ำสมเนื้อกับทุกโอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของเธอ

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Track 03

We Are Bulletproof

อย่างที่หลายคนได้รู้จาก VTR แนะนำตัวในรายการแล้วว่า อลิศเติบโตมากับการฟังเพลงลูกกรุงที่ยายเปิด ทำให้เธอค่อยๆ ซึมซับบทเพลงเหล่านั้นมาโดยตลอด รู้ตัวอีกทีก็เหมือนมีสมุดเพลงลูกกรุงอยู่ในหัว

“อย่างเพลงในรายการ The Golden Song หนูก็จะรู้จักเกือบจะทุกเพลง แต่อาจจะจำชื่อเพลงไม่ได้นะคะ ส่วนใหญ่คือถ้าได้ยินเพลงมาหนูจะร้องต่อได้มากกว่า” อลิศอธิบาย

“แล้วนอกจากเพลงลูกกรุง อลิศชอบฟังเพลงแนวไหนอีก” เราถามต่อ

“หนูชอบเพลงเกาหลีค่ะ” เธอตอบทันที พร้อมสายตาเปล่งประกายวิบวับ

ปลายปี 2019 อลิศซึ่งขณะนั้นเรียนอยู่ชั้น ม.1 เริ่มสนใจเพลงเคป๊อปเป็นครั้งแรก แม้จะเป็นหนึ่งในเด็กที่เติบโตมาท่ามกลางกระแส K-Wave มาตั้งแต่เด็ก แต่อลิศก็ไม่เคยสนใจผลงานดนตรีของบรรดาไอดอลเกาหลี กระทั่งเธอได้รู้จักกับเพลงเพลงหนึ่ง

“เพลงแรกที่หนูได้ฟังแล้วชอบมากๆ ก็คือ We Are Bulletproof ของพี่ๆ BTS ค่ะ เพราะมันเป็นเพลงที่ให้กำลังใจได้ดีมากๆ เนื้อเพลงบอกว่า ถึงเราจะอยากล้มเลิกกันตั้งหลายหน แต่เราก็ยังเดินต่อไปเรื่อยๆ” อลิศตัดสินใจย้อนกลับไปฟังทุกเพลงของ BTS ตั้งแต่อัลบั้มแรก และยังคงฟันวนไปเรื่อยๆ จนถึงตอนนี้

จากความชื่นชอบ หรือที่บางคนอาจเรียกว่า ‘ความติ่ง’ กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้อลิศเริ่มสนุกกับการร้องเพลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน กระทั่งตัดสินใจเข้าคัดเลือก จนได้รับทุนการศึกษาจากสถาบันของครูจังโก้ The Voice ที่ทำให้เธอได้มีโอกาสเรียนรู้การร้องเพลงเคป๊อป รวมไปถึงการแรป

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Track 04

ฉันจะฝันถึงเธอ

“ทุกวันนี้คิดว่าการร้องเพลงเป็นพรสวรรค์ของเราหรือเปล่า” เราถามอลิศ ในวันที่เธอผ่านการร้องเพลงมาหลากหลายแนว และขึ้นเวทีมาแล้วนับไม่ถ้วน

“ก็… มั้งคะ น่าจะใช่อยู่แหละค่ะ” เธอตอบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนขยายความ “ด้วยความที่หนูร้องเพลงได้โดยที่ไม่รู้สึกว่ามันยาก ถ้าครูเขาคอมเมนต์มาหนูก็ฟังแล้วก็ปรับได้เลย หลายคนก็บอกว่านี่น่าจะเป็นพรสวรรค์ของหนู แต่เอาจริงๆ ก็เพิ่งมารู้ตัวตอนช่วงที่แข่ง The Golden Song นี่แหละค่ะ”

แม้แต่เรื่องสีหน้าท่าทางที่ดูจะเป็นจุดอ่อนของนักร้องรุ่นเด็ก ก็ยังไม่ใช่อุปสรรคของอลิศ

“เรื่องการแสดงอารมณ์ แค่แปลความหมายของเพลงให้ออกมันก็ไปเองแล้วค่ะ อย่างเพลง ฉันจะฝันถึงเธอ ที่หนูร้องล่าสุด พอเริ่มร้อง คิ้วหนูมันก็จะเริ่มขยับเข้าหากันเอง เพราะหนูคิดตามเนื้อร้อง” คุยกันถึงตรงนี้ คงพอจะสรุปได้แล้วว่าสิ่งที่อยู่ในตัวของอลิศ จะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากพรสวรรค์

แล้วในเวทีที่เต็มไปด้วยคู่แข่งซึ่งอาจมาพร้อมพรแสวง อลิศรู้สึกอย่างไร

“หนูไม่กลัวคนที่เขามีพรแสวงนะคะ หนูกลัวตัวเองมากกว่า กลัวว่าตัวเองจะไม่แสวงหาอะไรใหม่ๆ ในอนาคต” แม้ว่าการร้องเพลงจะเป็นสิ่งที่อลิศทำได้ดีมาตลอด และมีแนวโน้มจะดียิ่งขึ้นเรื่อยๆ แต่เธอก็ยังอยากเปิดโอกาสให้ตัวเองให้ลองอะไรใหม่ๆ ที่รู้สึกชอบและสนุกที่จะทำอยู่เสมอ

“กับอีกอย่างก็คือ กลัวตัวเองสติหลุดบนเวที เพราะเวลาร้องเพลงมันจะต้องตั้งใจแล้วก็มีสติมากๆ เพื่อที่จะไม่ได้ทำพลาด หรือถ้าเรารู้ตัวว่าพลาดก็ต้องเก็บอาการค่ะ ตกใจมากไม่ได้ ไม่งั้นลืมเนื้อหมด” อลิศเล่าติดตลก ถึงสาเหตุที่ทำให้เธอต้องตัดการรับรู้ทั้งหมดในขณะร้องเพลง ไม่สนใจทั้งกล้องและคนดู แล้วใช้สมาธิจดจ่ออยู่กับการร้องและกรรมการเท่านั้น

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Track 05

Forever Young

ตลอดเวลาที่เราพูดคุยกับอลิศถึงเส้นทางชีวิตที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่อลิศย้ำให้เราฟังบ่อยๆ คือ

“หนูไม่ได้คิดอะไรเลย ไม่ได้คาดหวังอะไรสักเท่าไหร่ เราก็ร้องเพลงที่อยากร้อง” หากภายใต้ท่าทางสบายๆ ไร้กังวลนั้น ดูเหมือนว่าอลิศจะเอาจริงเอาจังมากกว่าที่พูด ไม่ว่าเธอจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม เพราะเมื่อได้ลงมือเรียนรู้หรือฝึกหัดสิ่งใดแล้ว อลิศจะทำต่อไปเรื่อยๆ แถมยังทำได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อีกต่างหาก

และนั่นทำให้เราอดสงสัยไม่ได้ว่า การเลี้ยงดูแบบไหนที่หล่อหลอมให้อลิศเป็นอลิศอย่างทุกวันนี้

“ที่บ้านหนูจะเลี้ยงแบบไม่ค่อยปล่อย แล้วก็ไม่ค่อยตามใจค่ะ สมมติว่าหนูอยากซื้อของที่ยายเห็นว่าไร้สาระ ยายก็จะไม่ยอมให้ซื้อค่ะ” อลิศเล่าให้เราฟังอย่างตรงไปตรงมา

“เช่นอะไรบ้าง” เราสงสัย

“ตอนอายุประมาณเก้าขวบ เป็นช่วงที่หนูชอบ เซเลอร์มูน มากค่ะ เคยคิดว่าถ้าขึ้นมอสี่แล้วเราอายุเท่า เซเลอร์มูน เมื่อไหร่จะต้องแปลงร่างให้ได้ ก็เลยอยากซื้อของของ เซเลอร์มูน มากๆ เพื่อที่จะได้แปลงร่างค่ะ” อลิศหัวเราะให้กับตัวเองในอดีต ซึ่งแน่นอนว่าความฝันของเธอตอนนี้ย่อมเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา

อลิศนิ่งคิดไปนานเมื่อถูกถามถึงภาพตัวเองในอนาคต

“คืออีกสองปีหนูก็จะขึ้นมอสี่แล้ว เพราะฉะนั้นความฝันของหนูในตอนนี้ก็คือ หนูอยากไปเรียนมอปลายที่ School of Performing Arts Seoul (SOPA) ที่เกาหลีค่ะ” จากการติดตามศิลปินเคป๊อปที่ชื่นชอบ ทำให้อลิศได้รู้จักโรงเรียนมัธยมปลายที่มีหลักสูตรเฉพาะทางด้านศิลปะการแสดง นี่จึงกลายเป็นความหวังเล็กๆ ในใจของเด็กหญิงผู้มีใจรักในการร้องและการเต้น และมีศิลปินเกาหลีเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในช่วงหนึ่งของชีวิต

“ตอนที่หนูหัดแรปเพลงเกาหลีได้เป็นครั้งแรก คือเพลง Forever Young เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา มันเป็นครั้งแรกที่หนูเริ่มคิดว่า อืม เราก็เก่งเหมือนกันนะเนี่ย”

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Track 06

Think of Me

ด้วยวัยเท่านี้ อลิศยังมีความเป็นไปได้อีกมากที่รอเธออยู่ในอนาคต และนั่นทำให้เธอไม่อยากยึดเอาความฝันอย่างใดอย่างหนึ่งในปัจจุบันเป็นเป้าหมายเดียวของชีวิต

“หนูยังไม่ได้วางแผนอนาคต หรือคิดว่าจะต้องเอาจริงเอาจังกับอะไรเป็นพิเศษ ก็คงร้องเพลงต่อไปเรื่อยๆ” แม้ปากจะบอกว่าไม่ได้เอาจริงเอาจัง แต่เมื่อถามถึงสิ่งที่อลิศคิดว่าตัวเองควรพัฒนา เธอกลับตอบได้อย่างชัดเจน

“อยากพัฒนาเรื่องการร้องโอเปร่าและแนวบรอดเวย์ค่ะ เพราะมันเป็นแนวเพลงที่เหมาะกับเนื้อเสียงของหนูซึ่งเป็นโทนเสียงสูง ในอนาคตถ้ามีโอกาสก็อยากไปร้องเพลงที่ต่างประเทศค่ะ หนูอยากเป็นนางเอกที่ได้ร้องเพลง Think of Me” อลิศเล่าด้วยท่าทีกระตือรือร้นเป็นพิเศษเมื่อเอ่ยถึงคริสติน ดาเอ้ (Christine Daaé) บทนางเอกจากมิวสิคัลเรื่องดังอย่าง The Phantom of the Opera

“ถ้าจะทำได้ก็คิดว่าต้องหัดเรื่องการแสดงเพิ่ม ให้มันมีอารมณ์มากขึ้นอีก จะได้เหมาะกับบท แล้วก็คงต้องฝึกคีย์ให้สูงขึ้นอีกนิดหนึ่งให้ได้ระดับห้าค่ะ” เธออธิบายให้เราฟังอย่างจริงจัง

“แล้วตอนนี้อยู่ที่ระดับเท่าไหร่” เราถาม

“สี่จุดห้าค่ะ” อลิศตอบด้วยน้ำเสียงสดใส

การเติบโตและค้นพบตัวตนในวัย 12 ปี ของอลิส The Golden Song เวทีเพลงเพราะ Season 2, อลิส-ธนัชลักษณ์ ฮัดสัน

Writer

Avatar

สาริศา เลิศวัฒนากิจกุล

เด็กนิเทศ เอกวารสารฯ กำลังอยู่ในช่วงหัดเขียนอย่างจริงจัง แต่บางครั้งก็ชอบหนีไปวาดรูปเล่น มีไอศครีมเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจในยามอ่อนล้า

Photographer

Avatar

ปฏิพล รัชตอาภา

ช่างภาพอิสระที่สนใจอาหาร วัฒนธรรมและศิลปะร่วมสมัย มีความฝันว่าอยากทำงานศิลปะเล็กๆ ไปเรื่อยๆ