eurobest คือเทศกาลโฆษณาที่เปรียบได้กับงานออสการ์ของวงการโฆษณายุโรป
ตอนที่แล้วเราเล่าถึง 10 งานโฆษณาไอเดียเฉียบ กันไปแล้ว ตอนนี้เราจะมาเล่าถึง งานโฆษณาในเชิงสังคมที่ทรงพลังที่สุดของเทศกาลนี้กันบ้าง
01
TAHRA’S WORKOUT
CLEANE KLEREN
BOONDOGGLE Leuven, BELGIUM
เรื่องนี้เริ่มต้นจาก ในแต่ละวันมีชาวกัมพูชากว่า 650,000 คนเข้าไปทำงานในโรงงานเสื้อผ้าเพื่อผลิตชุดกีฬาแบรนด์ดังให้นักกีฬาและคนรักกีฬานับล้านทั่วโลกสวมใส่เพื่อพัฒนาตัวเองให้ข้ามผ่านขีดจำกัดทั้งหลาย (อย่างที่เราเห็นในโฆษณา) ปัญหาก็คือคนงานเหล่านี้มีสภาพการทำงานที่แย่มาก ทั้งชั่วโมงการทำงานที่ยาวนาน ทั้งความเครียด และรายได้ที่น้อยมาก ทั้งที่พวกเขาผลิตสินค้าพรีเมียมส่งขายทั่วโลก แคมเปญนี้ต้องการชวนให้ผู้สวมใส่ชุดกีฬาร่วมลงชื่อเพื่อเรียกร้องให้ปรับปรุงเงื่อนไขในการทำงานให้ดีกว่านี้ วิธีการที่จะสื่อสารให้คนรักกีฬาเหล่านี้เห็นถึงความโหดของการทำงานได้อย่างเข้าใจที่สุดก็คือ การเอาอุปกรณ์วัดสถิติการออกกำลังกายทั้ง Apple Watch และ Fitbit ติดตัวพนักงาน แล้วแอบทำเป็นหนังสารคดีให้เห็นว่า พลังงานที่พนักงานเหล่านี้ใช้ ชั่วโมงการทำงาน (10 ชั่วโมงต่อวัน!) อัตราการเต้นของหัวใจ อุณหภูมิ และความชื้น เป็นอย่างไร จะได้เข้าใจว่าในแต่ละวันคนงานเหล่านี้ต้องทำงานหนักแค่ไหน งานชิ้นนี้ได้โกลด์จากหมวด Creative Data ซึ่งนอกจากจะใช้ข้อมูลได้อย่าง creative แล้วยังใช้ได้อย่างมี impact ด้วย
02
NO MORE BLACK TARGETS
NEW YORK SOCIETY FOR ETHICAL CULTURE
FRED & FARID PARIS, FRANCE
ในอเมริกาวัยรุ่นผิวดำดูจะไม่เป็นที่รักใคร่สักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุอะไรก็ตาม สถิติบอกเราว่า วัยรุ่นผิวดำถูกยิงโดยคนที่ผ่านการฝึกยิงปืนมาแล้ว มากกว่าวัยรุ่นผิวขาวถึง 3 เท่า เมื่อมีการทำวิจัยลึกลงไปก็พบว่าการใช้เป้าฝึกยิงปืนที่เป็นรูปคนดำนั้นให้ความรู้สึกถึงการเหยียดผิว และสร้างทัศนคติที่ไม่ดีกับคนดำ แคมเปญนี้ก็เลยรณรงค์เรื่องความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่นผิวดำ ด้วยการชวนศิลปินกว่า 50 คนมาออกแบบเป้ายิงปืนใหม่ให้กลายเป็นสีสันสดใส มีการจัดแสดงในแกลเลอรี่ และในรูปแบบ street art พร้อมกับประกาศว่า ลงสีกันให้มากขึ้น และเกลียดกันให้น้อยลง
03
EDEKA VIELFALT
EDEKA
JUNG VON MATT Hamburg, GERMANY
งาน eurobest ปีที่แล้ว มีงานโฆษณาเกี่ยวกับเรื่องผู้อพยพจากซีเรียตบเท้าเข้ามากวาดรางวัลเยอะมาก ปีนี้ก็ยังมีให้เห็นบ้าง ชิ้นที่โดดเด่นที่สุดคือ งานของซูเปอร์มาร์เก็ต EDEKA (ทั้งๆ ที่เรื่องผู้อพยพหรือการยอมรับในความหลากหลายทางเชื้อชาติเป็นสิ่งที่ดูจะเกี่ยวกับซูเปอร์มาร์เก็ตน้อยมาก) แคมเปญนี้เกิดขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์ก่อนการเลือกตั้งใหญ่ของประเทศเยอรมนี ซูเปอร์มาร์เก็ตอยากให้คนหยิบยกประเด็นเรื่องนโยบายเกี่ยวกับผู้อพยพขึ้นมาคุย และอยากให้ผู้คนยอมรับในความหลากหลายทางเชื้อชาติ แคมเปญของพวกเขาถือว่าใจกล้ามาก เมื่อพวกเขาตัดสินใจจัดของในซูเปอร์มาร์เก็ตใหม่หมด โดยเอาสินค้าที่มาจากต่างชาติทั้งหมดออกไป เหลือแต่สินค้าที่ผลิตในเยอรมนีเท่านั้น ภาพชั้นสินค้าว่างๆ ทำให้คนเห็นว่า นี่คือผลของการไม่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติในประเทศเยอรมนี เป็นงานที่ดูแล้วนับถือใจและการออกมาพูดประเด็นนี้ของ EDEKA มากๆ
04
YOURNALIST
EITB – EUSKAL IRRATI TELEBISTA
THE CYRANOS//McCANN Barcelona, SPAIN
EITB เป็นสถานีโทรทัศน์ของสเปนที่มีจุดยืนเรื่องการนำเสนอความจริง ในการตอกย้ำจุดยืนนี้ พวกเขาเลยทำแคมเปญที่ไม่ได้ออกมาโฆษณาสรรพคุณอะไรของตัวเองเลย แต่กลับทำแอพพลิเคชันที่แปลกใหม่มาก นั่นก็คือ เป็นแอพพลิเคชันที่ทำงานแบบเดียวกับ Shazam นั่นก็คือ เปิดให้มันฟังเสียงข่าว จากโทรทัศน์หรือวิทยุก็ได้ จากนั้นระบบอัจฉริยะ Watson ของ IBM จะทำความเข้าใจเนื้อหาของข่าวนี้จากคำสำคัญต่างๆ แล้วมันก็จะตามหาข่าวนี้ที่นำเสนอในมุมอื่นๆ อีก 6 มุม ซึ่งนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ ทั่วโลกแบบเรียลไทม์ ผลลัพธ์ที่ผู้ใช้แอพจะได้ก็คือ ข่าวนี้ในอีก 6 มุม ให้เราลองเทียบความจริงด้านต่างๆ ด้วยตัวเอง
05
THE TRUTH
DE STANDAARD
MORTIERBRIGADE Brussels, BELGIUM
หนังสือพิมพ์ De Standaard ของเบลเยียมประสบปัญหาผู้อ่านลดน้อยถอยลงเรื่อยๆ เพราะคนอ่านรุ่นก่อนก็ล้มหายตายจากไป แต่ไม่มีผู้อ่านรุ่นใหม่เข้ามาแทนที่ จากการทำวิจัยพบว่า คนอายุ 25 – 35 ปีได้หมดศรัทธาในคุณภาพของสื่อดั้งเดิม De Staandaard ก็เลยทำแคมเปญที่สื่อสารให้เห็นว่า ‘เราพูดความจริง’ ความพีกก็คือ ความจริงที่เลือกบอก ดันเป็นความจริงที่ไม่น่าบอก นั่นก็คือ การออกมาสารภาพว่าพวกเขาใช้ทริคอะไรทำให้ผู้อ่านซื้อหนังสือพิมพ์เพิ่ม ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ ก็คือ เราหลอกให้คุณซื้อหนังสือพิมพ์ด้วยเทคนิคอะไรบ้าง ความสร้างสรรค์ก็คือ การเลือกใช้สื่อที่หลากหลายมาก แต่ละสื่อก็สารภาพว่าใช้ทริคที่ต่างกันอย่างไร หลังจากที่พูดความจริงว่าทุกอย่างที่เราทำไป (แม้ว่ามันจะดูเหมือนทำเพื่อผู้อ่าน) ก็เพื่อให้คุณซื้อหนังหนังสือพิมพ์เพิ่ม ประโยคสุดท้ายก็ตบว่า ยิ่งหนังสือพิมพ์เราขายดีเท่าไหร่ นักข่าวก็จะทำข่าวสืบสวนหาความจริงกันได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น
06
FEEDITBAG – THE FIRST BAG THAT GIVES LIFE
FEEDITBAG (A 100% BIO-DEGRADABLE BAG)
CHEIL WORLDWIDE Frankfurt, GERMANY
แคมเปญเรื่องถุงพลาสติกในห้างนั้นมีให้เห็นมากมายกันในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา แต่พอหลายๆ ประเทศออกกฎหมายบังคับให้จ่ายเงินค่าถุงพลาสติก แคมเปญเรื่องนี้ก็เงียบหายไป แต่แล้วก็ยังมีไอเดียใหม่ๆ ออกมาให้เห็นจนได้ เพราะถ้าเราจำเป็นต้องใช้ถุงพลาสติกจริงๆ มันก็น่าจะมีวิธีลดผลกระทบได้บ้าง อย่างเช่นการใช้ถุงที่ทำจากวัสดุที่ย่อยสลายได้เช่นข้าวโพดเหมือนแคมเปญนี้ แต่สิ่งที่มันพิเศษก็คือ การเอาเมล็ดผักและผลไม้ติดเข้าไปที่ถุงซึ่งพิมพ์วิธีใช้ด้วยสีที่ทำละลายด้วยน้ำ เมื่อลูกค้าได้ถุงพลาสติกกลับบ้านมาด้วย ก็ให้เอาไปใช้ใส่ขยะพวกเศษอาหารที่ย่อยสลายได้ พอเต็มถุงก็ผังมันลงในกระถางต้นไม้ แล้วมันจะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยสำหรับต้นกล้า ที่สำคัญเจ้าถุงนี้ราคาใกล้เคียงกับถุงพลาสติกทั่วไปมาก มันก็เลยมีหลายห้างที่ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้ถุงประเภทนี้
07
KPN SAFE LOCK
KPN
N=5 Amsterdam, THE NETHERLANDS
รางวัลกรังด์ปรีซ์หมวด Innovation ชิ้นนี้เป็นของเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ KPN ของเนเธอร์แลนด์ จากข้อมูลพบว่าสถิติอุบัติเหตุของผู้ใช้จักรยานระดับเยาวชนที่มาจากการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างขี่จักรยานเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ KPN ก็เลยทำแอพพลิเคชันที่เชื่อมต่อระหว่างล็อกของจักรยานกับโทรศัพท์มือถือของเด็ก พอล็อกถูกปลด แอพพลิเคชันจะบล็อกข้อมูลทุกอย่างที่จะเข้ามาในมือถือ รวมถึงการปิดระบบเสียงทุกอย่างด้วย จนกระทั่งเด็กจอดจักรยานแล้วล็อกรถ โทรศัพท์มือถือก็จะกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
08
PARIS 2024 OLYMPIC DAYS
PARIS 2024 OLYMPIC BID
UBI BENE Paris, FRANCE
ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการหาเสียงเสนอตัวเป็นเจ้าภาพโอลิมปิกปี 2024 ปารีสทำแคมเปญเรียกคะแนนครั้งสุดท้ายแบบใหญ่โตด้วยการทำให้โลกเห็นว่า ปารีสมีความสามารถในการจัดโอลิมปิกให้พิเศษให้ เพราะพวกเขามีทั้งประวัติศาสตร์ มีสไตล์ และมีจิตใจที่พิเศษของชาวปารีเซียง ก็เลยทำสนามกีฬาจำลองขึ้นมาตามแลนด์มาร์กทั่วเมือง ไม่ว่าจะเป็นลู่วิ่งยาว 156 เมตร กลางแม่น้ำแซน เปลี่ยน Place de l’Etoile ให้กลายเป็นสนามจักรยาน และสร้างแท่นกระโดดน้ำสูง 17 เมตร ที่สะพาน Alexandre กิจกรรมเหล่านี้ชวนคนรุ่นใหม่ แฟนกีฬา และกลุ่มครอบครัว ออกมาใช้ชีวิตและถ่ายรูปเล่นกันตามสนามกีฬาจำลอง ซึ่งสุดท้ายปารีสก็ได้เป็นเจ้าภาพโอลิมปิก 2024 สมใจ
09
THEY CALL US LEEUWINNEN
NIKE WOMENS FOOTBAL
WIEDEN+KENNEDY AMSTERDAM, THE NETHERLANDS
งานชิ้นนี้ได้กรังด์ปรีซ์ในหมวดดีไซน์ ซึ่งถือเป็นการออกแบบที่ยิ่งใหญ่มาก เราได้เห็นแคมเปญชวนผู้หญิงออกมาเล่นกีฬาของไนกี้มากมาย เมื่อการแข่งขันฟุตบอลยุโรปหญิง ปี 2017 มาถึงจึงน่าจับตาว่าไนกี้จะเล่นอะไร พวกเขาเริ่มจากการสัมภาษณ์นักกีฬาหญิงชาวดัตช์อายุ 13 – 17 ปี แล้วก็พบว่าสาวๆ มีความมุ่งมั่นและทัศคติที่ดีมากในการเล่นกีฬา เมื่อเชื่อมโยงกับข้อมูลเกี่ยวกับการรับรู้เรื่องผู้หญิงในวงการกีฬาของดัตช์ วัฒนธรรมฟุตบอลในดัตช์ ก็เลยกลายมาเป็นแคมเปญที่ไนกี้ไม่เคยทำมาก่อน นั่นก็คือ การเปลี่ยนตราสโมสรฟุตบอลในระดับทีมชาติ ทีมชาติเนเธอร์แลนด์มีตราเป็นรูปสิงโตสีส้ม ซึ่งทีมชาติหญิงใช้ตรานี้มาตลอด 46 ปี แล้วก็ยังได้รับฉายาว่าสิงโตสีส้ม สิ่งที่ไนกี้ทำยังคงเคารพในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา พวกเขาแค่เปลี่ยนจากรูปสิงโตจากสิงโตตัวผู้เป็นสิงโตตัวเมียเท่านั้นเอง นับเป็นการเปลี่ยนแปลงที่กล้ามาก แต่ก็ได้แสดงออกถึงความเชื่อของสมาคมฟุตบอลเนเธอร์แลนด์ที่ยอดเยี่ยมมาก
10
TAPESTRY
TOURISM IRELAND
PUBLICIS LONDON, UNITED KINGDOM
ไอร์แลนด์เหนือเป็นหนึ่งในสถานที่ถ่ายทำของซีรีส์ที่ดังที่สุดในโลกอย่าง Game of Thrones การท่องเที่ยวไอร์แลนด์เหนือมีแคมเปญโปรโมตการท่องเที่ยวโดยเอาซีรีส์เรื่องนี้มาใช้เป็นลูกเล่นให้เราเห็นกันตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปีนี้การท่องเที่ยวไอร์แลนด์เหนือเริ่มต้นจากการย้อนกลับมาสำรวจประเทศของตัวเองก่อน แล้วก็พบว่า มรดกอันล้ำค่าที่พวกเขามีอีกอย่างก็คือ โรงงานสิ่งทอและการทอผ้าลินิน เมื่อเอามาบวกกับความต้องการของแฟนๆ Game of Thrones ที่อยากสัมผัสประสบการณ์เกี่ยวกับซีรีส์เรื่องนี้ในรูปแบบที่แตกต่างออกไป ก็เลยเกิดเป็นสุดยอดงานคราฟต์นั่นก็คือ การปักเนื้อหาของซีรีส์นี้ทีละตอน ไล่ตั้งแต่ตอนแรกของซีซั่น 1 ลงบนผ้ายาว 80 เมตร ส่วนเนื้อหาของซีซั่น 7 ก็อัพเดตกันทุกสัปดาห์ เห็นแบบนี้แล้วก็อยากรู้เลยว่าอีก 2 ปีข้างหน้า การท่องเที่ยวไอร์แลนด์เหนือจะมีแคมเปญอะไรมาเล่นกับ Game of Thrones ซีซั่นสุดท้าย
