“เราเพิ่มหมวด Print & Out of Home Craft กับ Film Craft เพราะเมืองไทยเป็นประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องการทำงานคราฟต์ในวงการโฆษณา มีต่างชาติให้เราทำงานคราฟต์ในเชิงโปรดักชั่นเยอะมาก” อนุวรรตอธิบาย
ส่วนหมวด Good เป็นการสานต่อแนวคิด Creative for Sharing ซึ่งเป็นไปตามเทรนด์ของเวทีประกวดโฆษณาใหญ่ๆ ของโลก โดยภายในหมวดนี้แบ่งงานเป็น 2 ประเภทย่อย คือ Good for People กับ Good for Planet
หมวดสุดท้าย The One เป็นหมวดที่ไม่ได้มองหาแค่งานโฆษณาที่ดี แต่ยังมองหางานที่ทำให้อุตสาหกรรมโฆษณาเคลื่อนที่ไปข้างหน้า เห็นความเป็นไปได้ใหม่ๆ มากขึ้น เมื่อก่อนงานโฆษณามีแค่สื่อเดิมแบบหนัง สิ่งพิมพ์ วิทยุ แต่ก็เกิดงานโฆษณารูปแบบใหม่ๆ ที่ทำให้เกิดการใช้สื่อประเภทใหม่ๆ ถ้าไม่มีงานเหล่านี้ งานโฆษณาก็ยังคงติดอยู่กับสื่อประเภทเดิมๆ
อนุวรรตเล่าว่า มีการแบ่งหมวดหมู่รางวัลออกแบบ 18 หมวด แต่ไม่ได้มีการแจกรางวัล Best (งานที่ดีที่สุดในหมวดนั้น เทียบเท่ารางวัล Grand Prix ของเวที Cannes Lions) ทุกหมวด เพื่อให้คงความเข้มข้นและศักดิ์สิทธิ์ของรางวัล Best อย่างงาน 4 หมวดใหม่ที่เพิ่งเพิ่มเข้ามาในปีนี้ ก็จะไม่มีการแจก Best
ในแต่ละหมวด หากงานที่ดีที่สุดยังไม่ดีถึงขั้นเป็น World class idea ก็จะไม่ได้รางวัล Best
ปีนี้แจก Best ไปทั้งหมด 4 รางวัล อนุวรรตวิเคราะห์งานแต่ละชิ้นแบบนี้
คอลัมน์ Best AD ตอนนี้ก็เลยขอรวมงานโฆษณาที่เกี่ยวกับ Tokyo Olympic 2020 ที่ผลิตในช่วงปีนี้มาให้ชมกัน ลองไปดูกันว่า ท่ามกลางปัญหามากมายที่เกิดขึ้นทั่วโลก แบรนด์ต่างๆ มองและแสดงท่าทีต่อโอลิมปิกครั้งนี้อย่างไรกันบ้าง
01
What Agnes Saw
The International Olympic Committee
USA
เราเริ่มต้นกันที่งานของผู้จัดอย่าง The International Olympic Committee (IOC) โอลิมปิกรอบนี้ IOC ปล่อยหนังออกมาในแคมเปญ Strong Together งานที่ดูเหมือนจะเป็นตัวหลักคือ What Agnes Saw เป็นการเล่าภาพรวมของโอลิมปิกในรอบศตวรรษที่ผ่านมาผ่านสายตาของ แอกเนส เคเลติ (Agnes Keleti) นักกีฬาโอลิมปิกวัย 100 ปี ซึ่งถือว่ามีอายุมากที่สุด ว่าเธอเห็นอะไรบ้าง แล้วก็มาจบลงตรงเรื่องของ สกาย บราวน์ (Sky Brown) นักสเก็ตบอร์ดชาวสหราชอาณาจักร ผู้เป็นเจ้าของสถิตินักกีฬาโอลิมปิกที่อายุน้อยที่สุด สื่อถึงพลังของเยาวชนที่เปรียบเหมือนแสงไฟ ท่ามกลางความมืดมนของปัญหาซึ่งโลกกำลังเผชิญ
เราเห็นหลายแบรนด์หยิบยืมสไตล์อนิเมะ มาทำแคมเปญในช่วงโตเกียวโอลิมปิก IOC ก็มีเหมือนกัน เป็นการทำซีรีส์อนิเมะประวัติฮีโร่โอลิมปิกสไตล์การ์ตูนญี่ปุ่นที่เราคุ้นเคย ออกมา 4 ตอนแล้ว ไปตามชมกันได้
02
Countdown to the Opening Ceremony for the Olympic Games Tokyo 2020
France TV เป็นสถานีโทรทัศน์ช่องแรกที่เปิดตัวหนังโฆษณาถ่ายทอดโอลิมปิก พวกเขาชวนนักวาดภาพประกอบชื่อดัง สเตฟาน เลอวัลลัว (Stéphane Levallois) มาวาดภาพ โดยมีบรมครูอย่าง คัตสึชิกะ โฮกูไซ (Katsushika Hokusai) เป็นต้นแบบ ทั้งสไตล์ และองค์ประกอบของภาพวาดดังๆ จากนั้นก็ทำให้ภาพวาดสไตล์ภาพพิมพ์ญี่ปุ่นโบราณกลายมาเป็นแอนิเมชัน เล่าเรื่องนักซูโม่ที่เดินทางไปทั่วญี่ปุ่น ผ่านการเล่นเซิร์ฟ สเก็ตบอร์ด แล้วก็แวะเล่นกีฬาต่างๆ ไปตลอดทาง ถือเป็นหนังที่ต้องยืนปรบมือให้ในความคราฟต์ เสียดายว่าหนังตัวนี้เปิดตัวได้ไม่เท่าไหร่ ก็โดนหนัง BBC มาขโมยซีนไปจนเกลี้ยง
04
Let’s Go There
BBC
BBC Creative
UK
หนังที่ได้รับคำชมมากที่สุดในตอนนี้คือ งานโปรโมตการถ่ายทอดโอลิมปิกของช่อง BBC ซึ่งดึงเอาสารพัดป๊อปคัลเจอร์แบบโตเกียวมายำรวมกับนักกีฬาของทีมสหราชอาณาจักร รวมไปถึงผู้ประกาศของ BBC ได้เฟี้ยวมาก อาร์ตไดเรกชันชนะขาด ประดังทุกอย่างลงไปได้แน่นและแม่นมาก
05
Super. Human.
Channel 4
4Creative
UK
หลังจากจบโอลิมปิกก็จะเข้าสู่มหกรรมกีฬาพาราลิมปิกกันต่อ จุดเปลี่ยนสำคัญก็คืองาน Meet the Superhumans ของ Channel 4 ผู้ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอด London Paralympic 2012 ในอังกฤษ งานนั้นเล่าเรื่องนักกีฬาพิการได้แปลกใหม่และจับใจ จนคว้ารางวัลกรังปรีซ์ได้จากคานส์ไลออนส์ จากนั้นก็พาราลิมปิกที่ริโอ Channel 4 ก็มีหนังโฆษณาภาคต่อ แต่อาจจะไม่ได้เปรี้ยงปร้างนัก
หนังโฆษณาเรื่อง Love Leads to Good สำหรับโตเกียวโอลิมปิกยังอยู่บนแนวคิดนี้ เพียงแต่ไปอยู่ในแคมเปญใหญ่ในปีนี้ของ P&G อีกที ชื่อ Lead with Love ที่บอกว่ามนุษย์เราเกิดมาพร้อมกับความรู้สึก 8 อย่าง แต่อยากให้เราใช้ความรักเป็นตัวนำ
14
Best Day Ever
Nike
Wieden+Kennedy
USA
ไนกี้ปล่อยหนังโฆษณาเรื่อง Best Day Ever ออกมาในช่วงโอลิมปิกนี้ ภายในแคมเปญใหญ่ Play New เรื่องนี้เล่าถึงความเป็นไปได้ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในวงการกีฬาโลก ทั้งผู้หญิงที่วิ่งได้ต่ำกว่า 10 วินาที นักเทนนิสบนวีลแชร์ที่มีสปอนเซอร์เซ็นสัญญาเอาชื่อไปทำเกมคอมพิวเตอร์ หรือการได้ประกาศต่อผู้นำทั่วโลกว่า กีฬา ถือเป็นสิทธิมนุษยชนอย่างหนึ่ง แล้วก็สรุปว่า พรุ่งนี้อาจจะเป็นวันที่ดีที่สุดของวงการกีฬาก็ได้ ถ้าเราจินตนาการถึงมัน โดยสื่อสารแบบอ้อมๆ ว่า ไนกี้จะเอาเทคโนโลยีและแรงบันดาลใจ มาช่วยให้นักกีฬาทุกคนก้าวไปสู่ศักยภาพใหม่ของมนุษย์ เพื่อให้ความฝันทุกสิ่งเป็นจริงได้
15
Start Your Impossible
Toyota Global
USA
ถึงแม้ว่าเราจะไม่เห็นหนังโฆษณาโตโยต้าเรื่องใหม่ที่ทำมาเพื่อฉายในโอลิมปิกหนนี้ แต่ก็ขอเดาว่าน่าจะไปในแนวทางเดียวกับที่ Toyota Global ทำเมื่อปีที่ผ่านมา นั่นก็คือทำภายใต้แคมเปญใหญ่ Start Your Impossible เป็นเรื่องของนักยิมนาสติกชาวเม็กซิโกคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิกได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องนี้ทำออกมาในรสชาติแบบอินเตอร์ ถ้าเป็นเวอร์ชันแบบญี่ปุ่น เราอาจจะได้เห็นอะไรที่สนุกกว่านี้ก็เป็นได้