หลังจากเปิดทำการมา 49 ปี โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะปิดบริการในวันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2562
อย่าเพิ่งเสียใจว่านี่คือการอำลาโรงแรม 5 ดาวที่เป็นตำนานของประเทศไทย แลนด์มาร์กของศาลาแดงไม่ได้หายไปไหน แต่พื้นที่แห่งนี้จะได้รับการปรับปรุงใหม่ให้ใช้ประโยชน์ได้สูงสุด
อีก 4 ปีข้างหน้า โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ จะกลับมาใหม่ โดยจะเก็บคุณค่าทางประวัติศาสตร์และทางจิตใจของที่นี่ไว้เหมือนเดิม ตั้งแต่เก็บสถาปัตยกรรมและศิลปะดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ไว้ให้มากที่สุด ทั้งเสาปลายแหลมสีทองบนยอดตึกที่ได้รับแรงบันดาลใจจากยอดพระปรางค์วัดอรุณราชวราราม facade ทองเหลือง เสาโรงแรมเพ้นต์ลายจิตรกรรมไทยฝีมือ ‘ท่านกูฎ’ ไพบูลย์ สุวรรณกูฎ ฝ้าเพดานไม้สักทอง เฟอร์นิเจอร์ ไปจนถึงต้นไม้ในสวนและน้ำพุขั้นบันได และที่สำคัญที่สุด พนักงานโรงแรมทุกคนจะถูกย้ายไปทำงานส่วนอื่นๆ ชั่วคราว เพื่อรอกลับมาเปิดโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ด้วยกันอีกครั้ง
ตอนนี้โรงแรมดุสิตธานีจับมือกับมหาวิทยาลัยศิลปากรเพื่อบันทึกการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ โดยร่วมศึกษา วิจัย อนุรักษ์ และเก็บบันทึกมิติต่างๆ ของโรงแรมเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม วิศวกรรม จิตรกรรม โบราณคดี และประวัติศาสตร์
หลังวันปิดบริการ 1 วัน The Cloud และโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ขอชวนผู้อ่านมาเป็นแขกสุดพิเศษกลุ่มสุดท้าย เพื่อทำความรู้จักโรงแรมรูปโฉมเดิม เรียนรู้การทำงานของโรงแรมห้าดาวระดับสากลรุ่นแรกของไทย เรียนรู้การบูรณาการครั้งยิ่งใหญ่ของคณาจารย์หลากหลายคณะจากมหาวิทยาลัยศิลปากรอย่างใกล้ชิด และสร้างความทรงจำต่อตำนานแห่งนี้ร่วมกัน
เราจะเริ่มจากสำรวจการดีไซน์ป้ายดุสิตธานีที่ทางเข้า สังเกตเสาสีทองปลายแหลม facade เปลือกอาคาร ซึ่งเป็นตัวอย่างศิลปะแบบโมเดิร์นยุคแรกๆ ของไทยที่นำความเป็นไทยมาปรับใช้อย่างมีเอกลักษณ์
หลังจากนั้นจะเข้าไปเยี่ยมชมห้องนภาลัย ห้องจัดงานแต่งงานอันเป็นตำนาน เข้าไปศึกษาการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรมที่สวนและสระน้ำพุขั้นบันได ชมจิตรกรรมและการตกแต่งภายในห้องอาหารเบญจรงค์ ห้องอาหารไทยที่เปิดตั้งแต่ก่อตั้งโรงแรม รวมถึงเรียนรู้ขั้นตอนการถอดเก็บรักษาเสา ผนัง ฝ้าเพดาน และจิตรกรรมต่างๆ เพื่อนำมาประกอบใส่ห้องอาหารใหม่ให้ใกล้เคียงห้องเดิมมากที่สุด ตามด้วยเยี่ยม MyBar อดีตดิสโกเธค Bubbles อันโด่งดังของกรุงเทพฯ ในปลายยุค 70
ต่อไปเราจะไปชมล็อบบี้ที่ลดหลั่นเป็นชั้นๆ ที่ได้แรงบันดาลใจจากเจดีย์, ห้องประชุม Library 1918 ที่ตกแต่งแบบวินเทจ ห้องนี้พิเศษตรงที่มีพระบรมฉายาลักษณ์อิริยาบถต่างๆ ที่หาชมได้ยากของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 และยังเป็นที่เก็บผ้าซับพระพักตร์ของพระองค์ด้วย
ถัดมา เราจะไปชมเทวารัณย์ สปา สปาสีขาวสุดเก๋ที่ออกแบบโดยพลอย จริยะเวช แล้วขึ้นลิฟต์สีทองแบบโบราณสไตล์ Art Deco ไปชมร้านอาหาร 22 Kitchen & Bar ที่เคยเป็นห้องอาหารฝรั่งเศสวิวกรุงเทพฯ และปิดท้ายด้วยการชมห้องพักแบบต่างๆ ของโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ ซึ่งเป็นมาตรฐานให้โรงแรม 5 ดาวรุ่นต่อๆ มาของประเทศไทย
วิทยากร
- ผู้บริหารจากโรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ
- ผศ.ชวลิต ขาวเขียว คณบดีคณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- อ.อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ อดีตคณบดีคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- รศ.ดร.ชัยสิทธิ์ ด่านกิตติกุล อดีตคณบดีคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ผศ. ปองพล ยาศรี อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
- ดร.เอกสุดา สิงห์ลำพอง อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
- พลอย จริยะเวช คอนเซ็ปต์ดีไซเนอร์ เทวารัณย์ สปา และคอลัมนิสต์ของ The Cloud
ป.ล. ใครอดมาไม่ต้องเสียใจ รอติดตามสรุปกิจกรรมครั้งนี้ได้ในคอลัมน์ Walk with The Cloud บนเว็บไซต์ readthecloud.co หลังกิจกรรมจบนะ