เมื่อเข้าเดือนแรกของปีพุทธศักราชใหม่ นั่นหมายถึงเทศกาลการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ชาวสวนกาแฟไทยมาถึงแล้ว เริ่มต้นปีหน้า The Cloud จึงขอชวนผู้อ่านไปเก็บเกี่ยวประสบการณ์ใหม่ องค์ความรู้ใหม่ ต้อนรับพุทธศักราชใหม่กับ The Cloud Journey 09 : Tribal Wisdom ทริปที่จะพาคุณเดินทางสู่ลินตง จังหวัดสุมาตราเหนือ ประเทศอินโดนีเซีย ในวันอังคารที่ 21 – วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563 เพื่อเรียนรู้กระบวนการปลูกกาแฟจากผู้เชี่ยวชาญการปลูกกาแฟพิเศษ เอโกะ ปูร์โนโมวีดี (Eko Purnomowidi) เกษตรกรชาวอินโดนีเซียผู้เชี่ยวชาญการทำการเกษตรแบบออร์แกนิกที่คนในแวดวงกาแฟทั่วโลกให้การยอมรับ
ลินตง สุมาตราเหนือ เป็นสถานที่ที่น้อยคนจะเคยเข้าไปสัมผัสด้วยตัวเอง การเดินทางไปลินตงไม่ง่ายนัก และเมืองเล็กๆ นี้ก็ไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกเท่าไหร่ อาหารการกินไม่ได้มีให้เลือกสรร กินกันเรียบง่ายอย่างที่คนลินตงกิน แต่สิ่งที่เราจะได้เห็นขณะอยู่ที่นั่นคือสวนกาแฟหลังบ้านของแต่ละครัวเรือน กับวิถีชีวิตของชาวบาตักที่มีกาแฟในทุกลมหายใจ
‘บาตัก’ เป็นชื่อชนเผ่าที่อาศัยอยู่ ณ ที่แห่งนี้ ชนเผ่านี้ปลูกกาแฟมาหลายชั่วอายุคน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะคำสอนจากบรรพชนที่เชื่อว่านี่คือสิ่งที่ดี ควรรักษาและสืบทอดต่อไป แต่นอกเหนือจากความเชื่อนั้น สิ่งที่ถูกถ่ายทอดคือองค์ความรู้ที่ส่งต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ประกอบไปด้วยแนวคิดที่เคารพต่อเหล่าพืชพันธุ์และธรรมชาติ ทำให้บาตักเป็นชนเผ่าที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางปัญญาอย่างไม่ต้องสงสัย
ทริปการเรียนรู้ครั้งนี้เราจะชวนไปลำบากเพื่อเปิดประสบการณ์และสร้างองค์ความรู้ใหม่เรื่องการปลูกกาแฟ เรียนรู้ตั้งแต่ที่มาของความพิถีพิถันที่สร้างรสชาติที่มีเอกลักษณ์ของสุมาตราเหนือ แนวทางการปลูกกาแฟเพื่อรักษาธรรมชาติ หรือภูมิปัญญาในการต่อสู้กับสภาพอากาศ ศัตรูพืช ฯลฯ เพื่อให้ผู้ร่วมทริปได้นำองค์ความรู้กลับมาปรับใช้พัฒนาระบบนิเวศและผลผลิตกาแฟในประเทศไทย
North Sumatra
การเดินทางครั้งนี้จะพาไปรู้จักกับการปลูกกาแฟสุมาตราเหนือ อีกหนึ่งพื้นที่การปลูกกาแฟของประเทศอินโดนีเซียที่อุดมเป็นด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติจนสร้างรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ และหาคำตอบว่าเพราะเหตุใดกาแฟสุมาตราเหนือจึงโด่งดังและถูกส่งออกทั่วโลกยาวนานกว่า 10 ปี และอะไรคือทางออกของการปลูกกาแฟให้ได้คุณภาพในสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกกาแฟ
Batak Style
อีกปัจจัยการสร้างกาแฟคุณภาพคือชนเผ่าบาตักที่อาศัยอยู่ในลินตง สุมาตราเหนือแห่งนี้ มาหลายชั่วอายุคน พวกเขาไม่เพียงถ่ายทอดองค์ความรู้ทางการเกษตรให้รุ่นลูกรุ่นหลาน แต่ส่งต่อเจตนารมณ์ แนวคิด และความเชื่อ รวมไปถึงวิถีชีวิตในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ เพื่อให้ทั้งอาชีพ สวนกาแฟ และสิ่งแวดล้อม อยู่ต่อไปได้อีกร้อยๆ ปี
Coffee Farming
ที่เราต้องเดินทางไปไกลถึงสุมาตราเหนือ หัวใจหลักก็เพื่อเรียนรู้การปลูกกาแฟของที่นี่ด้วยการลงมือทำด้วยตัวเองตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมแปลง ขุดหลุมปลูก เตรียมดิน / ปุ๋ย ตัวต่อตัวกับเกษตรกรชาวบาตัก ด้วยศาสตร์บาตักผนวกกับศาสตร์ของเอโกะ หลักเกษตรกรรมที่ดีต่อกาแฟท้องถิ่นลินตงที่สุดจนสร้างเมล็ดกาแฟคุณภาพ
ไปจนถึงการดูแลต้นกาแฟให้แข็งแรงในสภาพแวดล้อมที่ดี และความพิเศษที่สร้างความโดดเด่นให้กาแฟสุมาตราเหนือคือ ‘Wet Hulling’ วิธีโพรเซสที่หาดูได้ที่เดียวในโลก เป็นกระบวนการแบบบาตักที่คิดค้นโดยชาวบาตักเพื่อรับมือกับสภาพอากาศของสุมาตราเหนือ แต่เราจะไม่เพียงไปดู เราจะได้ลองทำด้วย!
วิทยากร
เอโกะ ปูร์โนโมวีดี (Eko Purnomowidi)
ผู้เชี่ยวชาญด้านกาแฟพิเศษและการทำการเกษตรกรอย่างยั่งยืน ด้วยแนวคิดการปลูกกาแฟที่เชื่อมโยงกับการฟื้นฟูป่าและระบบนิเวศ
ที่ปรึกษาอาวุโสแบรนด์ Klasik Beans Cooperative แบรนด์กาแฟชั้นนำของประเทศอินโดนีเซีย
ณัฏฐ์รดา คุณะวิวัฒนานนท์
ฝ่ายสื่อสารระหว่างประเทศ สมาคมกาแฟพิเศษไทย (SCATH)
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bluekoff
ชาตรี แซ่ย่าง
เกษตรกรผู้ชนะเลิศการประกวด ‘10 สุดยอดเมล็ดกาแฟไทย’ กาแฟขุนช่างเคี่ยน
วัน-เวลา
ในวันอังคารที่ 21 – วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2563 (4 วัน 3 คืน)
สิ่งที่ควรรู้ & สิ่งที่ต้องเตรียม
- เราจะแวะพัก 1 คืนที่กัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย วันที่ 21 มกราคม และเดินทางไปสุมาตราเหนือวันที่ 22 – 24 มกราคม
- ค่าใช้จ่ายนี้รวมค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ค่าเดินทางภายในประเทศมาเลเซียและอินโดนีเซีย ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าอุปกรณ์เวิร์กช็อป และค่าประกันการเดินทาง
- แนะนำให้เตรียมชุดที่เหมาะกับการทำกิจกรรมทางการเกษตร
- พื้นที่ทำกิจกรรมเป็นป่า อาจมีแมลง แนะนำให้เตรียมยาทาบรรเทาอาการแพ้ คัน รวมไปถึงยารักษาโรคประจำตัว
- อาหารเป็นอาหารพื้นเมือง หากแพ้อาหารประเภทใด รบกวนแจ้งให้ทีมงานทราบ
- เสื้อกันฝน
- กระติกน้ำขนาดพกพา (เพื่อการลดใช้ขวดพลาสติก)
การเดินทาง
เครื่องบิน-รถบัส