ทริป ‘อ่านเถิดหนา’ หายหน้ากันไป 1 ปีเต็มๆ
ถึงเวลาที่เราจะขนหนังสือใส่รถไฟไปนอนอ่านรับลมหนาวที่เชียงดาวแล้ว
กิจกรรม ‘อ่านเถิดหนา’ เริ่มต้นมาพร้อม The Cloud ด้วยความคิดว่า ยุคนี้พวกเรามีชีวิตที่วุ่นวายขึ้นและสมาธิสั้นลง เราต่างหมางเมินหนังสือเล่มหนา เพราะหยิบมาอ่านก็ไม่ต่อเนื่อง อ่านๆ หยุดๆ อรรถรสก็กระตุกเสียเปล่าๆ เราเลยทิ้งขว้างหนังสือเล่มหนาให้นอนเหงาอยู่ไกลมือ
The Cloud เห็นดังนั้นจึงจัดทริปชวนผู้อ่านเก็บกระเป๋าเดินทางไปต่างจังหวัด พาตัวเองกับหนังสือเล่มหนาไปใช้เวลาด้วยกันท่ามกลางบรรยากาศดีๆ โดยไม่มีกิจกรรมอื่นใด นอกจากอ่านหนังสือ อยู่กับตัวเอง และพูดคุยกับเรื่องหนังสือ (ซึ่งมักจะลามและไหลไปเรื่องอื่นๆ เสมอ)
เราจัดกิจกรรมนี้มาแล้ว 5 ครั้ง 3 ครั้งแรก เป็นการเดินทางไกลไปอ่านหนังสือที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ มีทั้งให้หยิบหนังสือเล่มหนา หนังสือรัก และหนังสือที่อยากแบ่งให้เพื่อน ไปอ่านด้วยกัน 2 ครั้งต่อมา ท่ามกลางสถานการณ์ COVID-19 เราก็เลยลองจัดแบบออนไลน์ และชวนกันไปคุยเรื่องหนังสือเล่มโปรดที่หอสมุดแห่งชาติ
อ่านเถิดหนา 06 : ส.ค.ส. เราชวนนั่งรถไฟกลับไปอ่านหนังสือที่เชียงดาวด้วยกันอีกครั้ง ออกจากกรุงเทพฯ เย็นวันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม และกลับมาถึงกรุงเทพฯ เช้าวันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 (แปลว่า ต้องเขียนใบลา ‘ไปอ่านหนังสือ’ ในวันสุขที่ 8 มกราคม 2564)
ท่ามกลางบรรยากาศช่วงปีใหม่แบบนี้ เราเลยตั้งโจทย์ของทริปนี้ว่า ส.ค.ส. หรือ ส่งความสุข เราจะชวนทุกคนมาช่วยกันทำชั้นหนังสือปันสุขแบบชั่วคราว ด้วยการคัดสรร ‘หนังสือที่เกี่ยวกับความสุข’ จะในมุมไหนก็ได้ มาคนละ 3 เล่ม รวมกัน 50 คน เราก็จะมีหนังสือสุขๆ อยู่ 150 เล่ม
จากนั้นพวกเราก็จะใช้เวลาดื่มด่ำกับหนังสือเหล่านี้กัน
กิจกรรม
เราจะให้แต่ละคนแนะนำตัวและแนะนำตัวหนังสือที่เลือกมา จากนั้นก็อ่านหนังสือไป ใครง่วงก็นอน ใครเหงาก็พาเพื่อนคุย ใครเบื่อก็ออกไปปั่นจักรยาน เดินเล่น หรือวิ่ง ข้างดอยหลวงเชียงดาว หลังอาหารเย็นก็นั่งล้อมวง ใครสะดวกใจจะเล่าว่าอ่านไปถึงไหนก็ขอเชิญ ยิ่งโยนข้อมูลดีๆ หรือกรีดประโยคเด็ดๆ จากหนังสือให้ฟังด้วยก็ยิ่งดี ใครยังไม่พร้อมรับไมค์ก็นั่งฟังไปก่อน
จากนั้นตกดึกเราก็พูดคุยแลกเปลี่ยนกันไปเรื่อย เริ่มจากเรื่องหลักในวงใหญ่ แล้วชวนเปิดประเด็นแบบเฉพาะเจาะจงลงวงย่อย
วันถัดมาและถัดมา ก็เชิญใช้เวลากับหนังสือและกิจกรรมในสองย่อหน้าก่อน
กิจกรรมพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาในทริปนี้คือ เราจะจับฉลากแลกหนังสือกันด้วย วิธีการเป็นเช่นนี้
- ตอนกรอกใบสมัครทริป เราจะให้ตอบคำถามพิเศษ 3 ข้อ เป็นการแนะนำตัวให้ผู้มอบหนังสือรู้จักเรา
- พอได้ผู้ร่วมเดินทางครบ 50 คน ทีมงานจะจับฉลากให้ว่าใครต้องมอบหนังสือให้ใคร
- ทีมงานจะส่งอีเมลข้อมูลคำตอบ 3 ข้อของผู้รับให้ผู้มอบ โดยผู้มอบจะไม่ทราบชื่อและประวัติอื่นๆ ของผู้รับ
- ผู้มอบต้องหาหนังสือที่คิดว่าเหมาะกับผู้รับมามอบให้ในทริป
- จากนั้นก็ทำตัวเป็นผู้รับ รอรับหนังสือที่ผู้มอบตั้งใจเลือกมาให้
- สนุกแน่นอน
สถานที่
ค่ายเยาวชนอนุรักษ์ดอยหลวง อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่
เป็นพื้นที่ไร้รั้ว หย่อนตัวอยู่กลางพื้นที่สีเขียวครึ้มเข้ม มีดอยหลวงเชียงดาวที่ซุกยอดในก้อนเมฆยืนตระหง่านเป็นฉากหลัง มีลำธารน้ำไสไหลจากดอยหลวงผ่านเข้ามาในพื้นที่ให้ลงไปนั่งแช่นอนแช่ได้ตามชอบใจ
บรรยากาศสบายจนเราจัดที่นี่แล้วไม่เคยย้ายไปจัดที่อื่นอีกเลย
ที่พัก
มีเรือนนอน 2 หลัง แยกชายหญิง บรรยากาศโปร่งโล่ง
มีฟูกหมอน ผ้าห่มพร้อม นอนเรียงรายกันไปแบบอบอุ่น
ห้องน้ำมิดชิดและมากมาย แต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่น ใครทนหนาวไม่ไหวแนะนำให้รีบอาบน้ำก่อนพระอาทิตย์ตก
อาหาร
นอกจากจะได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติแสนบริสุทธิ์แล้ว
เราจะได้กินอาหารอันเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพตลอดการเดินทาง
อาหารทุกมื้อเป็นเมนูท้องถิ่น ปรุงจากผักสดพันธุ์พื้นบ้านและวัตถุดิบท้องถิ่น
คนไม่กินผักน่าจะอยู่ยาก ส่วนคนชอบอาหารท้องถิ่น นี่คือสวรรค์ของคุณ!
อากาศ
น่าจะหนาว
การเดินทาง
เราจะเดินทางไปกลับ กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ด้วยรถไฟตู้นอนปรับอากาศชั้น 2
ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ วันพฤหัสบดีที่ 7 มกราคม 2564 ด้วยรถไฟขบวนที่ 13 (รถไฟตู้นอนรุ่นเก่า) ออกจากสถานีกรุงเทพเวลา 19.35 น. ถึงสถานีเชียงใหม่ วันศุกร์ที่ 8 มกราคม 2564 เวลา 08.40 น.
เดินทางกลับจากเชียงใหม่ วันอาทิตย์ที่ 10 มกราคม 2564 ด้วยรถไฟขบวนที่ 14 (รถไฟตู้นอนรุ่นเก่า) ออกจากสถานีเชียงใหม่เวลา 17.00 น. ถึงสถานีกรุงเทพ วันจันทร์ที่ 11 มกราคม 2564 เวลา 06.16 น. (ถ้าใครกลัวไปทำงานสายแนะนำให้ลงสถานีดอนเมือง เวลา 05.17 น.)
และเราเปิดรับผู้ร่วมเดินทางอีกส่วนหนึ่งที่เดินทางไปเจอกันที่เชียงใหม่ด้วยตัวเอง
จำนวนคนและค่าเดินทาง
ทริปนี้รับคนที่จะขึ้นรถไฟไปกลับด้วยกัน 36 คน ราคาคนละ 4,400 บาท
และคนที่จะเดินทางไปเจอที่ตัวเมืองเชียงใหม่ 10 คน ราคาคนละ 2,400 บาท